Skip to content
ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)
  • Creative Learning
    Creative learningLife Long LearningUnique SchoolEveryone can be an EducatorUnique Teacher
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Character building21st Century skillsEducation trendLearning TheoryGrowth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learning
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    BookMovieSpace
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)
Social Issues
31 March 2020

สิ่งที่คนตั้งครรภ์ควรรู้ เกี่ยวกับโคโรน่าไวรัส

เรื่อง ณิชากร ศรีเพชรดี

  • ท่ามกลางข้อมูลที่ยังไม่นิ่งซึ่งต้องตามกันวันต่อวัน สิ่งที่หญิงตั้งครรภ์กำลังสับสนและอยากรู้เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส คือ มันมีผลอย่างไรต่อเธอ ลูกในครรภ์ และอนาคตของเด็กๆ เมื่อคลอดแล้วจะเป็นอย่างไร
  • ข้อมูลที่รวบรวมได้จากงานวิจัยล่าสุดพูดได้เบื้องต้นว่า ‘เป็นเรื่องดีมากกว่าเสีย’ ตัวเลขหญิงตั้งครรภ์ที่ติดโควิด-19 ไม่ได้พัฒนาอาการไปสู่ขั้นวิกฤตมากเท่าที่กังวลกัน หรือมากเท่าผู้สูงอายุหรือคนที่มีความเสี่ยงเป็นทุนเดิม และมีเด็กแรกคลอดที่ติดเชื้อจากแม่เพียง 10 เปอร์เซ็นต์พัฒนาสู่อาการร้ายแรง
  • ส่วนสาเหตุการติดเชื้อของทารกในครรภ์ว่าติดโควิด-19 จากอะไรนั้นยังไม่ชี้ชัดตายตัว แต่รายงานล่าสุดคาดว่าอาจติดจากมดลูกของแม่ และยืนยันว่าแม้คุณแม่ที่ติดเชื้อแล้วก็ยังให้นมลูกได้ เพราะยังไม่มีข้อมูลรายงานว่ามีการติดเชื้อผ่านน้ำนม
  • ส่วนสิ่งที่คนตั้งครรภ์ต้องทำแน่ๆ คือ รักษามาตรการ social distancing อย่างเข้มข้น, ดูแลความสะอาด โดยเฉพาะการล้างมือให้บ่อย, และ อยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
Photo by Camila Cordeiro on Unsplash

หมายเหตุ: บทความนี้ใช้ข้อมูลเผยแพร่ภายในวันที่ 31 มีนาคม 63 ข้อมูลงานวิจัยโควิด-19 เปลี่ยนแปลงบ่อยและรวดเร็ว ควรติดตามและเลือกเชื่อจากเงื่อนไขของวันและเวลาที่เผยแพร่ข้อมูล

เจน จัดสัน (Jen Judson) คุณแม่อายุครรภ์ 33 สัปดาห์ (ราว 8 เดือน) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Business Insider ว่า เธอกังวลกับการตั้งครรภ์และใกล้คลอดช่วงเวลาที่โคโรน่าไวรัสกำลังแพร่ระบาด ทุกคนต้องเข้มงวดกับมาตรการ social distancing ซึ่งแปลว่าในกำหนดคลอดราวเดือนเมษายน กรณีที่แย่ที่สุด… เธอต้องพาตัวเองไปโรงพยาบาลและคลอดลูกคนที่สองตามลำพัง

เธอกังวลไปสารพัด บางทีเธออาจติดโคโรน่าไวรัสไปแล้ว บางทีลูกของเธออาจถูกแยกออกไปทันทีหลังคลอด บางทีแพมเพิร์สหรืออุปกรณ์ดูแลเด็กอาจถูกกวาดหมดชั้นในห้างสรรพสินค้า และบางที เมื่อถึงกำหนดคลอดในช่วงเดือนเมษายน ข้อมูลการแพทย์ที่เธอได้รับวันนี้อาจไม่เป็นจริงอีกต่อไปแล้วก็ได้

“เหมือนว่าฉันควบคุมอะไรไม่ได้เลย กังวลไปสารพัด มีข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาตลอดทั้งการติดเชื้อของหญิงตั้งครรภ์และของทารก และยังกังวลไปอีกว่าเด็กที่กำลังเกิดมาเขาจะอยู่ในประเทศหรือโลกแบบไหนกัน” จัดสันให้สัมภาษณ์กับ Business Insider

ขณะที่ลอว์เรน แมคคอลลีย์ (Lauren McCauley) ผู้ช่วยทนาย คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอายุครรภ์ 16 สัปดาห์ (ราว 4 เดือน) ให้สัมภาษณ์ในบทความชิ้นเดียวกัน แสดงความกังวลไม่ต่างกันว่า “ฉันรู้สึกเหมือนว่า ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับไวรัสนี้ สิ่งที่รู้ก็มีแต่ข้อมูลที่แย่ลงทุกวันๆ ช่วงเวลาหนึ่งบอกว่าหญิงตั้งครรภ์จะไม่เป็นอะไรหรอก ขณะที่สัปดาห์ต่อมา ผู้สื่อข่าวในราชอาณาจักรบอกว่าหญิงตั้งครรภ์ควรกักตัวอยู่บ้านอย่างน้อย 3 เดือน”

อย่างไรก็ตาม หากดูจากข้อมูลการแพทย์และการรายงานข่าว ณ ช่วงเวลานี้ยังคงเป็นไปในทิศทางบวก และสิ่งที่คนตั้งครรภ์ควรรู้ มีดังต่อไปนี้…

หญิงตั้งครรภ์ที่ติดโควิด-19 ไม่ได้พัฒนาอาการไปสู่ขั้นวิกฤตมากเท่าที่กังวลกัน

แม้ระบบภูมิคุ้นกันของหญิงตั้งครรภ์จะอ่อนแอกว่าช่วงเวลาที่ไม่ได้ตั้งท้อง แต่หญิงตั้งครรภ์ก็ไม่ได้มีภาวะเสี่ยงป่วยรุนแรงจากโควิด-19 มากเท่าผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีความเสี่ยงเป็นทุนเดิมอย่างการเป็นโรคเกี่ยวกับปอดและหัวใจ

ดร. เจน แวน ดิส (Dr. Jane van Dis) ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวช และผู้อำนวยการแห่ง Maven โทรเวชกรรม (Telemedicine คือ การนําเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์สามารถพูดคุยตอบโต้กันได้แบบ Real-time) ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่า…

“เป็นเรื่องจริงที่หญิงตั้งครรภ์ต้องเพิ่มความระมัดระวังและตื่นตัวต่อมาตรการรักษาระยะห่าง (social distancing) เพราะนี่คือหนทางที่ดีที่สุดในการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ฉันไม่คิดว่าหญิงตั้งครรภ์ควรวิตกมากเกินไป เพราะยังไม่มีข้อมูลว่าไวรัสจะโจมตีภูมิต้านทานในแบบเดียวกับที่โจมตีผู้สูงวัยที่มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป”

รายงานจาก WHO สำรวจหญิงตั้งครรภ์ชาวจีน ที่ ‘สงสัยว่าติด’ และ ‘ติดแล้ว’ จำนวน 147 คน (ยืนยันว่าติด 64 คน, มีอาการเข้าข่าย 82, ไม่มีอาการ 1) พบว่ามีเพียง 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่แสดงอาการรุนแรง (severe) และมี 1 เปอร์เซ็นต์ ที่มีอาการวิกฤต (critical)

แต่… หญิงตั้งครรภ์ยังถือว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะติดเชื้อและอาจเสียชีวิตจากอาการติดเชื้อเฉียบพลันในระบบหายใจ อย่างที่มักเกิดในหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ หรือที่เคยเกิดขึ้นในการระบาดของโรคซารส์ เช่นนี้ หญิงตั้งครรภ์จึงถูกนับเป็นคนกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวังเป็นพิเศษในวิกฤตโควิด-19 ด้วย

แวน ดิส แนะนำว่าสิ่งที่หญิงตั้งครรภ์ต้องทำช่วงนี้คือการเข้มงวดกับมาตรการ social distancing (ถ้าเป็นไปได้ควรมีคนช่วยเหลือในการออกไปจับจ่ายซื้อของใช้จำเป็น ไม่ควรไปเอง) ให้ความสำคัญกับสุขลักษณะ หลีกเลี่ยงคนที่มีอาการป่วยทุกกรณี

แม้กระทั่งการพบผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ระหว่างฝากครรภ์ก็ควรเป็นไปอย่าง ‘เสมือนจริง’ อย่างบริการของโทรเวชกรรมปัจจุบันในที่สามารถทำได้ หรือพูดอีกอย่างนึงว่า คุณแม่อาจใช้แพลตฟอร์ต่างๆ เชื่อมผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ นักผดุงครรภ์ doula (นักวิชาชีพที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อช่วยผ่อนคลาย หรือบรรเทาความเจ็บปวดให้แก่คุณแม่ในระหว่างการคลอดบุตร) ผู้ให้คำแนะนำด้านการให้นม และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ …หากเป็นไปได้ ก็ควรสื่อสารกันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

มีรายงานว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ติดโควิด-19 อาจส่งต่อเชื้อให้กับทารกระหว่างอยู่ในครรภ์

เบื้องต้น รายงานของ Lancet วันที่ 16 มีนาคม 63 ระบุว่า ในทารกแรกคลอดจากหญิงตั้งครรภ์ชาวจีนเมืองอู่ฮั่น ที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 9 คนนั้น มีเด็ก ‘หนึ่งคน’ ไม่พบการติดเชื้อ (ได้ผลลบ) ทั้งไม่พบเชื้อโควิด-19 ในน้ำนม น้ำคร่ำ และเลือดจากรก

ส่วนรายงานจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC (Centers for Disease Control and Prevention) เผยแพร่วันที่ 12 มีนาคม 63 นั้น ระบุว่า จากเด็กแรกคลอดจากแม่ที่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 34 คน ตรวจ ‘ไม่พบ’ การติดเชื้อของทารกเหล่านี้เลย

(แปลได้ว่า รายงานช่วงแรกๆ พบว่า ในทารกแรกคลอดที่เกิดจากแม่ซึ่งได้รับเชื้อโควิด-19 นั้น มีทั้งที่ติดและไม่ติดเชื้อ แต่แน่ชัดว่าไม่พบเชื้อในน้ำนม น้ำคร่ำ และเลือดของทารก – กองบรรณาธิการ)

อย่างไรก็ตาม รายงานสามชิ้นจาก JAMA วารสารการแพทย์ ตีพิมพ์วันที่ 26 มีนาคม จำนวน 3 ชิ้น สงสัยว่า ทำไมทารก ‘บางคน’ จึงตรวจพบว่าติดเชื้อ แม้จะมีมาตรการป้องกันหลังคลอดอย่างเข้มงวดก็ตาม

สองในสาม ของรายงาน JAMA นั้น ใช้สันนิษฐานเรื่อง ‘แอนติบอดี้’ (Antibody-โปรตีนที่ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของสิ่งมีชีวิตสร้างขึ้นมา เพื่อกำจัดและทำลายแอนติเจนซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย) ในเลือดของเด็กแรกเกิดเป็นมาตรวัด

อธิบายโดยสรุปว่า โคโรน่าไวรัสอาจจะแพร่ผ่านรกเด็ก และ ทำให้เด็กปรากฎอาการป่วยได้

“รายงานสองฉบับนี้แสดงหลักฐานว่า โควิด-19 อาจส่งต่อจากแม่สู่ทารกระหว่างอยู่ในครรภ์” ดร. เจสสิก้า เมดเดน (Dr. Jessica Madden) กุมารแพทย์และผู้ชำนาญการทารกแรกเกิด และผู้อำนวยการบริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับให้นมบุตร Aeroflow Breastpumps กล่าว

เด็กแรกเกิดและทารกในครรภ์มีโอกาสติดเชื้อสูงที่สุด แต่เด็กทั่วไปกว่า 90% ไม่แสดงอาการ หรือ มีอาการแต่ไม่รุนแรง

แม้ทารก เด็กแรกเกิด และเด็กเล็ก จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและเปราะบางต่อการติดเชื้อมากกว่าผู้ใหญ่และในบางเคสก็อาการหนักและอาจส่งผลต่อชีวิต แต่เด็กทั่วไปจำนวน 90 เปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้แสดงอาการ หรือ มีอาการไม่รุนแรง เช่น มีอาการคล้ายหวัด เหนื่อยล้า เจ็บคอ ไอ หายใจได้สั้นๆ

รายงานวันที่ 17 มีนาคม 2563 (การรวมตัวกันของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งของประเทศจีน) สำรวจเด็กชาวจีนจำนวน 2,000 คน ที่ถูกระบุว่าติดเชื้อโควิด-19 พบว่า ทารกเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะพัฒนาอาการไปสู่ระดับรุนแรง (severe) และวิกฤต (critical) ที่สุด

  • ทารกและเด็กแรกเกิด มีโอกาสพัฒนาอาการสู่ระดับรุนแรง 10 เปอร์เซ็นต์
  • เด็กอายุ 1-5 ขวบ มีโอกาสพัฒนาสู่ระดับรุนแรง 7 เปอร์เซ็นต์
  • เด็กอายุ 6-10 ขวบมีโอกาสพัฒนาสู่ระดับรุนแรง 4 เปอร์เซ็นต์
  • เด็กอายุ 11-15 ปี มีโอกาศพัฒนาสู่ระดับรุนแรง 4 เปอร์เซ็นต์
  • 15 ปีขึ้นไป มีโอกาสพัฒนาสู่ระดับรุนแรง 3 เปอร์เซ็นต์

แม้จำเป็นต้องระวังเรื่องการติดเชื้อ แต่ยืนยันว่าเด็กๆ ยังคงกินนมแม่ได้

อาการของหญิงตั้งครรภ์ที่ติดโควิด-19 จะคล้ายกับอาการโรคทางเดินหายใจที่ทำให้คุณแม่มีอาการไม่สบายตัว

รายงานจาก Translational Prdiatrics วารสารวิชาการทางการแพทย์ ตีพิมพ์วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 บอกว่า…

  • 6 ใน 10 ของคุณแม่ชาวจีนที่ติดเชื้อโควิด-19 มีอาการหายใจได้สั้นๆ
  • 2 ใน 20 มีไข้
  • 2 ใน 10 มีผลตรวจมดลูกและตับเป็นปกติ
  • 1 ใน 10 มีอาการอาเจียน
  • 1 ใน 10 รายมีอาการช็อกและเสียชีวิต

แต่เหมือนกับรายงานทั่วไปในขณะนี้ที่กลุ่มตัวอย่างยังมีจำนวนน้อย ไม่มีทางระบุได้แน่ชัดว่าอะไรคือสาเหตุของอาการและการเสียชีวิต จะเป็นเพราะโควิด-19 อย่างเดียว จากอาการแทรกซ้อนอื่นๆ หรือจากทั้งสองปัจจัยรวมกัน

แม้ปัจจุบันจะมีการคลอดทางเลือกหลายอย่าง เช่น คลอดใน birth center (ศูนย์ให้บริการการคลอดที่ไม่ใช่โรงพยาบาล มีความเฉพาะทางและดูแลคุณแม่อย่างเอื้ออาทรกว่าจากเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์ (midwife) อ่านเพิ่มเติม ที่นี่) แต่เมดเดนให้ความเห็นอ้างอิงคำแนะนำของ CDC ว่าการคลอดที่โรงพยาบาลเป็นตัวเลือกที่ดีสุดเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อหลังคลอด เช่น การแยกแม่และเด็กทันทีหลังคลอด หรือ ควบคุมระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างแม่และเด็กราว 6 ฟุต

CDC ยังให้คำแนะนำว่าหลังคลอดแล้ว คุณแม่ให้นมลูกได้ เพราะยังไม่มีรายงานว่ามีการติดเชื้อผ่านน้ำนม แต่สำหรับคุณแม่ที่ติดเชื้อแล้ว ให้ใส่หน้ากากอนามัย-ล้างมือ-ปั๊มนมใส่ขวด จากนั้นให้คนอื่นเป็นคนให้นมบุตรแทน

ขอความช่วยเหลือสนับสนุนกัน

ปัจจุบันยังไม่มีรายงานแน่ชัดว่าโคโรน่าไวรัสกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์และลูกอย่างไร และเพราะ ‘ไม่รู้’ จึงเข้าใจได้ว่าทำไมคุณแม่จึงกังวล

กระนั้น การควบคุมความกังวลและสร้างเงื่อนไขการเสพข่าวของตัวเองเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องจัดการ เรื่องนี้จูลี ไพค์ (Julie Pike) นักจิตวิทยาคลินิก ในชาเปลฮิลล์ นอร์ทแคโรไลนา ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider ว่า การรับข่าวสารล้นเกินโดยเฉพาะจากแหล่งข่าวที่ไม่รู้จริงและไม่มีการตรวจสอบ อาจทำให้เราขยายภาพความน่ากลัวของเรื่องราวและดูเบาความสามารถของตัวเองในการจัดการกับสถานการณ์ ซึ่งนี่คือสาเหตุนำไปสู่ความวิตกกังวลทุกข์ใจ

แต่หากรู้สึกว่า ‘เอาไม่อยู่’ การเข้าหานักจิตบำบัดมืออาชีพ ระบายให้เพื่อนฟัง หรืออันที่จริงก็ทั้งสองอย่าง คือสิ่งจำเป็น แม้จะอยู่ในช่วงที่ทุกคนต้องรักษาระยะห่างต่อกันอย่างเข้มงวด แต่ก็มีเทคโนโลยีและตัวช่วยหลายอย่างให้เราส่งใจถึงกัน การหาสนับสนุนซัพพอร์ตกันได้หลายช่องทางจึงไม่ควรถูกเพิกเฉย

“มันจะมีอารมณ์หลายอย่างท่วมท้นในช่วงเวลานี้ บ้างเศร้าซึม บ้างรู้สึก และ อีกมากที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ แต่ให้รู้ไว้ว่า มันจะมีกลุ่มเครือข่ายที่คอยสนับสนุนให้กำลังใจคุณเสมอ” แวน ดิส กล่าว


เรียบเรียงจากบทความชื่อ
What pregnant women should know about the coronavirus 
อ้างอิงในเนื้อหา:
Some children develop severe infections from coronavirus, and the youngest ones have the highest risk, study says
A trio of studies suggest pregnant women could transfer the coronavirus in utero, contradicting prior research
Epidemiological Characteristics of 2143 Pediatric Patients With 2019 Coronavirus Disease in China
Clinical characteristics and intrauterine vertical transmission potential of COVID-19 infection in nine pregnant women: a retrospective review of medical records 
Clinical analysis of 10 neonates born to mothers with 2019-nCoV pneumonia
Possible Vertical Transmission of SARS-CoV-2 From an Infected Mother to Her Newborn
Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) Update—Information for Clinicians Caring for Children and Pregnant Women
Report of the WHO-China Joint Mission on Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)

Tags:

ตั้งครรภ์ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)

Author:

illustrator

ณิชากร ศรีเพชรดี

แอดมิชชันเข้าคณะการเขียนและสิ่งพิมพ์เพราะคิดว่าเขาจะสอนให้เขียนนิยาย แทนที่จะได้เขียนจากจินตนาการ อาจารย์และทุกอย่างที่นั่นเคี่ยวกรำให้ทำ-คิด-เขียน-รู้สึกกับประเด็นสังคม ยังคงสนุก(มาก)กับงานสื่อสาร ฝันสูงสุดคือยังเข้มแข็งเขียนงานได้อย่างมีคุณภาพและฐานะดี

Related Posts

  • Creative learning
    ‘บ้านรัก’ สู่บ้านแห่งการเรียนรู้ ชวนพ่อแม่เป็นครู เรียนผ่านงานบ้าน งานสวน งานครัว : ครูอุ้ย – อภิสิรี จรัลชวนะเพท อนุบาลบ้านรัก

    เรื่อง เพ็ญสินี ธิติธรรมรักษา

  • Early childhood
    ‘ให้อิสระกับลูก ปล่อยให้เขาทำผิดบ้าง’ 6 แนวทางการดูแลเด็กในช่วงโควิด-19 ที่ไม่ซ้ำเติมความเครียดในครอบครัว

    เรื่อง The Potential ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • อ่านความรู้จากบ้านอื่น
    เปลี่ยนสถานการณ์รอบตัวให้เป็นห้องเรียนรู้แสนสนุก กับครอบครัวเพอร์เฟกท์ฮาร์โมนี

    เรื่องและภาพ วิรตี ทะพิงค์แก

  • Social Issues
    NEW NORMAL ของการศึกษาไทยคืออะไร เมื่อการเรียนทางไกลไม่ใช่คำตอบ

    เรื่อง ภาพ เพชรลัดดา แก้วจีน

  • Social Issues
    เลื่อนเปิดเทอม: โจทย์ วิธีรับมือ ของ 4 ครูไทยในพื้นที่และบริบทที่แตกต่าง

    เรื่อง เพ็ญสินี ธิติธรรมรักษา ภาพ นัฐพล ไก่แก้ว

  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts
  • Creative Learning
  • Life
  • Family

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel