- การตั้งคำถามแบบโสเครติส’ (Socratic Questioning) การสร้างวิธีการเรียนรู้กับผู้คนด้วยการเข้าไปตั้งคำถามกับความเข้าใจที่ผู้คนมีก่อนหน้า และช่วยให้คู่สนทนารู้ว่าเขามีสิ่งที่ยังไม่รู้ เป็นวิธีคิดของโสเครติสนักปรัชญาชาวกรีก
- หากเปรียบเปรยก็คงเหมือนตู้ที่มีลิ้นชักนับไม่ถ้วน เราอาจเปิดเพียงลิ้นชักหนึ่งออกมาแล้วว่านี่คือคำตอบหรือความจริงแล้ว แต่โสเครติสแสดงให้เราเห็นว่าตู้ใบนั้นไม่ได้มีเพียงลิ้นชักเดียว จงเปิดลิ้นชักอื่นออกมา ยิ่งเปิดมันมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งได้เห็นคำอธิบาย คำตอบ หรือความจริงมากขึ้นเท่านั้น
- นักการศึกษาเห็นตรงกันว่าการตั้งคำถามแบบโสเครติส ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเกิดทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) เพราะเป็นการเปิดให้นักเรียนคิดเกี่ยวกับมโนทัศน์สำคัญที่ปรากฏอยู่ในชีวิตประจำวันด้วยในมุมมองที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดเป็นความเข้าใจใหม่ของนักเรียนขึ้นมา
ครู: เกิดอะไรขึ้นกับภูมิอากาศของโลกเราบ้าง?
นักเรียน Stan: มันกำลังอุ่นขึ้น
ครู: เรารู้ได้อย่างไรว่ามันอุ่นขึ้น อะไรเป็นหลักฐานที่เราใช้สนับสนุนคำตอบ?
นักเรียน Stan: ก็มันอยู่ในข่าวทุกๆ วัน พูดกันเสมอว่าภูมิอากาศจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน มีการบันทึกค่าความร้อนของแต่ละวันไว้ทั้งหมดด้วย
ครู: มีใครได้ยินข่าวลักษณะนี้อีกไหม?
นักเรียน Denise: เคยค่ะ หนูเคยอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ เขาเรียกว่า ‘ภาวะโลกร้อน’
ครู: หนูกำลังจะบอกว่า หนูเรียนรู้เรื่องภาวะโลกร้อนมาจากผู้ประกาศข่าว และหนูก็กำลังตั้งสมมติฐานว่า ผู้ประกาศข่าวรู้ว่าภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้น อย่างนั้นใช่ไหม?
นักเรียน Heidi: หนูก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน มันน่ากลัวมาก ยอดภูเขาน้ำแข็งในอาร์กติกกำลังละลาย สัตว์กำลังสูญเสียบ้านของมัน หนูคิดว่าผู้ประกาศข่าวได้ยินมาจากนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังศึกษาประเด็นนี้อีกที
ครู: งั้นก็หมายความว่าผู้ประกาศข่าวรู้มาจากนักวิทยาศาสตร์อีกที แล้วนักวิทยาศาสตร์รู้ได้อย่างไรล่ะ?
นักเรียน Chris: พวกเขามีอุปกรณ์ที่จะวัดภูมิอากาศ พวกเขาทำการวิจัยและวัดอุณหูมิของโลก
ครู: เราคิดว่านักวิทยาศาสตร์ทำแบบนั้นมานานแค่ไหนแล้ว?
นักเรียน Grant: คงประมาณ 100 ปี
นักเรียน Candace: อาจจะมากกว่านั้นนิดหน่อย
ครู: จริงๆ แล้ว มีการศึกษาเรื่องภาวะโลกร้อนมากว่า 140 ปีแล้ว ตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1860
นักเรียน Heidi: พวกเราตอบได้ใกล้เคียง
ครู: ใช่แล้ว แล้วเรารู้ได้อย่างไร?
นักเรียน Grant: ผมแค่คิดว่ามันเป็นยุคที่มนุษย์เริ่มคิดค้นเครื่องมือสมัยใหม่ นักวิทยาศาสตร์ต้องใช้เครื่องมือเหล่านั้นในการวัดอุณหภูมิ
ครู: ถ้าอย่างนั้น เราลองมามองดูกราฟ 100 ปีนี้ ของสภาพภูมิอากาศกัน บอกอะไรเกี่ยวกับภูมิอากาศของโลกได้บ้าง?
นักเรียน Raja: ศตวรรษที่ 20 อุณหภูมิสูงกว่าศตวรรษก่อนหน้ามากเลย
ครู: เราพอจะตั้งสมมติฐานได้ไหม ว่าเป็นเพราะอะไร?
นักเรียน Raja: คำเดียวเลย ‘มลพิษ’
ครู: อะไรคือข้อสันนิษฐานของเรา เมื่อเราบอกว่า ‘มลพิษคือสาเหตุที่ทำให้อุณหูมิเพิ่มสูงขึ้น’ ?
นักเรียน Heidi: รถยนต์ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และโรงงานต่างๆ ปล่อยสารเคมี
นักเรียน Frank: สเปรย์ฉีดผม ทำให้สารเคมีอันตรายขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศโลก
ครู: โอเค มาใช้เวลาสักครู่ทบทวนสิ่งที่เราได้อภิปรายกันไป
จากบทความ Designing Effective Project : Questioning The Socratic Questioning Technique
เรื่องราวที่ปรากฏในบทสนทนาระหว่างครูกับนักเรียนข้างต้น เป็นร่องรอยการเรียนรู้ของนักเรียนผ่านหัวข้อสำคัญอย่างสภาวะโลกร้อน สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดจากห้องเรียนคือ
ครูไม่ได้เป็นผู้บอกเล่าความรู้แก่นักเรียน ในทางกลับกัน นักเรียนเองต่างหากที่แบ่งปันความคิดร่วมกันกับเพื่อนๆ ของเขา
คำถามของครูเป็นเครื่องมือชั้นเลิศในการพานักเรียนเข้าสู่โลกแห่งการครุ่นคิดอย่างจริงจัง และนี่ก็คือ ‘การตั้งคำถามแบบโสเครติส’ (Socratic Questioning) โสเครติส (Socrates) คือใคร ทำไมถึงเขาใช้วิธีการตั้งคำถามเช่นนั้น แล้วเราจะมีวิธีการตั้งคำถามแบบนั้นในชั้นเรียนได้อย่างไร
โสเคสติส (Socrates)
หากกล่าวถึงโสเครติส เขาคืออดีตนายทหารของเอเธนส์ในสงครามเพโลพอนนีเซียน (Peloponnesian War) ระหว่างเอเธนส์กับสปาร์ตาก่อนศริสตกาล เมื่อเสร็จสิ้นสงคราม โสเครติสได้กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้รักความรู้ หรือนักปรัชญานั่นเอง
เขาใช้ชีวิตกับการสนทนาตั้งคำถามแลกเปลี่ยนกับผู้คนในเมืองเอเธนส์ เช่น ความยุติธรรมคืออะไร? เทพเจ้าเซอุสมีความยุติธรรมจริงไหม? ฯลฯ โดยทั้งหมดมาจากวิธีคิดที่เขาเชื่อว่า ‘ชีวิตที่ไม่ถูกตรวจสอบนั้นไร้ค่า’ เรื่องราวของโสเครติสไม่ได้มาจากตัวของเขาเองโดยตรง เพราะเขาไม่ได้ทำการเขียนบันทึกไว้ แต่มาจากบันทึกความทรงจำของเพลโต (Plato) ลูกศิษย์ของเขา อาจกล่าวได้ว่าเรากำลังทำความเข้าใจหรือรู้จักโสเครติสจากมุมมองมองของเพลโต และเราต้องเข้าใจก่อนว่าโสเครติสไม่ได้เรียกวิธีการของตัวเองว่า ‘Socratic Questioning‘ หรือ ‘Socratic Method‘ แต่เป็นคำเรียกจากผู้คนที่เอาการตั้งคำถามหรือวิธีการสนทนาของเขาไปใช้ต่างหาก
การตั้งคำถามแบบโสเครติส (Socratic Questioning)
ทำไมเขาจึงใช้วิธีการเช่นนั้น ก่อนอื่นเราต้องกลับมาทำความเข้าใจบริบทช่วงที่เขาใช้ชีวิต ในเวลานั้น เอเธนส์ก่อกำเนิดระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยขึ้น โดยระบอบประชาธิปไตยในยุคนั้นไม่ได้เหมือนกับปัจจุบัน แต่มีลักษณะการปกครองแบบเสียงส่วนน้อย เอเธนส์มีประชากรอยู่ราว 300,000 คน และเสียงส่วนน้อยคือ 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด ผู้หญิงและทาสไม่ได้มีสิทธิออกเสียง เมื่อเอเธนส์แพ้สปาร์ตาในสงคราม สปาร์ตาได้แต่งตั้งผู้ปกครองเอเธนส์ใหม่ขึ้นเป็นคณะปกครองตามที่เห็นชอบ แต่ก็เกิดการรบกันระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนการปกครองแบบเดิมกับการปกครองแบบใหม่ที่มีสปาร์ตาสนับสนุน
สุดท้ายฝ่ายสปาร์ตาก็แพ้ ทำให้เอเธนส์กลับมามีอำนาจตามเดิม ด้วยเหตุนี้ทำให้ฝ่ายที่ขึ้นมามีอำนาจมองว่า การที่เอเธนส์แพ้สงครามกับสปาร์ตา เป็นผลมาจากวิธีการที่โสเครติสใช้พูดคุยกับคนหนุ่มในเมืองให้กระด่างกระเดื่องไม่นับถือในเทพเจ้า ทำให้คนเสื่อมศรัทธาต่อเทพเจ้า เพราะชาวเอเธนส์ชื่อว่าเทพเข้าเป็นผู้ปกปักษ์ดูแลเมืองเอาไว้ จนสุดท้ายโสเครติสถูกสั่งประหารชีวิต
การประกาศว่า ‘ชีวิตที่ไม่ถูกตรวจสอบนั้นไร้ค่า’ ได้เป็นจุดเริ่มต้นของการท้าทายอำนาจผู้ปกครองอย่างตรงไปตรงมา ที่นำมาสู่การสั่นคลอนรากฐานความเชื่อที่สัมพันธ์กับอำนาจของผู้ปกครอง
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ความปกติที่ปรากฏอยู่ในสังคมในเวลานั้น ได้ถูกโสเครติสเติมเครื่องหมายคำถามลงไปอย่างชัดเจน พร้อมกับการชวนคู่สนทนาสำรวจดูว่าสิ่งที่พวกเขาเคยเชื่อและศรัทธา มันคือความปกติหรือไม่ มากไปกว่านั้นสิ่งที่เชื่อและยึดถือมั่นไว้ ตั้งอยู่บนหลักความเป็นเหตุเป็นผลหรือไม่
วิธีการของโสเครติสเป็นแนวทางที่ต่างไปจากกลุ่มนักปรัชญาโซฟิสต์ (Sophists) ที่เน้นการใช้สำนวนโวหารดึงดูดให้คนยอมรับมุมมองของผู้พูด ซึ่งเป็นแนวการสอนกระแสหลักในเวลานั้น
แล้วเราจะนำวิธีการของเขามาใช้ได้อย่างไร ก่อนอื่นเราอาจต้องมองวิธีการของโสเครติสไปให้ไกลกว่าแง่มุมเทคนิคการตั้งคำถามเสียก่อน นั่นคือ เขามองความรู้อย่างไร? โสเครติสมองว่า ‘ความรู้คือการรู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไรเลย’ มุมมองความรู้ของเขาในแง่นี้ จึงเป็นมุมมองความรู้ที่ไม่ได้มีเส้นขอบเขตอย่างชัดเจนว่าสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่สังคมที่เราดำรงอยู่มักขีดเส้นตายตัวขอบเขตความรู้ให้เรารับรู้และเข้าใจเอาไว้เสมอ ดังที่เราเห็นจากชาวเอเธนส์ที่มีการขีดเส้นความรู้ความเข้าใจว่าการแพ้ชนะสงครามขึ้นอยู่กับเทพเจ้าเท่านั้น
หากเปรียบเปรยก็คงเหมือนตู้ที่มีลิ้นชักนับไม่ถ้วน เราอาจเปิดเพียงลิ้นชักหนึ่งออกมาแล้วว่านี่คือคำตอบหรือความจริงแล้ว แต่โสเครติสแสดงให้เราเห็นว่าตู้ใบนั้นไม่ได้มีเพียงลิ้นชักเดียว จงเปิดลิ้นชักอื่นออกมา ยิ่งเปิดมันมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งได้เห็นคำอธิบาย คำตอบ หรือความจริงมากขึ้นเท่านั้น
ด้วยมุมมองที่มีต่อความรู้เช่นนั้น ทำให้เขาสร้างวิธีการเรียนรู้กับผู้คนด้วยการเข้าไปตั้งคำถามกับความเข้าใจที่ผู้คนมีก่อนหน้า และช่วยให้คู่สนทนารู้ว่าเขามีสิ่งที่ยังไม่รู้ นี่จึงเกิดเป็นวิธีการที่เข้าไปเขย่าผู้คนในเอเธนส์ในประเด็นหลักๆ ที่เกี่ยวกับ ความยุติธรรม ความงาม ความกล้า มิตรภาพ ฯลฯ
ซึ่งต่างจากการมองความรู้แบบโซฟิสต์ (Sophists) ที่เห็นว่า ความรู้เป็นสิ่งที่ผู้รู้ค้นพบ แล้วต้องส่งต่อให้ผู้ไม่รู้ ดังนั้น วิธีการเรียนรู้จึงเป็นการสร้างศรัทธาให้ยอมรับผู้รู้มากกว่าการตั้งคำถาม
เพราะฉะนั้น การเข้าไปสนทนากับผู้คนผ่านคำถามของโสเครติสนั้นจึงไม่ใช่การไปถกเถียงเพื่อเป็นผู้ชนะหรือหาผู้แพ้แต่อย่างใด แต่เป้าหมายคือการพาผู้สนทนาคิดหาคำตอบหรือสืบหาความเป็นจริง
นักการศึกษาเห็นตรงกันว่าการตั้งคำถามแบบโสเครติส ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนเกิดทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) เพราะเป็นการเปิดให้นักเรียนคิดเกี่ยวกับมโนทัศน์สำคัญที่ปรากฏอยู่ในชีวิตประจำวันด้วยในมุมมองที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดเป็นความเข้าใจใหม่ของนักเรียนขึ้นมา นักการศึกษาหลายคนได้ถอดบทสนทนาของโสเครติสออกมาใช้ในพื้นที่ทางการศึกษาหลากหลายรูปแบบ ดังตัวอย่างของ Bogohossian นักการศึกษาที่สนใจการสอนแบบโสเครติส (Socratic pedagogy)
เขาเห็นว่าการสอนเช่นนี้ ครูจะเป็นผู้สังเกต เป็นผู้ช่วยเหลือแนะนำ ไม่ใช่เจ้าของความรู้ ที่สำคัญคือการพานักเรียนแบ่งปันความคิดผ่านการสนทนาด้วยคำถามกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน เขาสรุปหลักการออกมาเป็น 5 ขั้นการเรียนรู้ ดังนี้
1. ความสงสัย (Wonder) การสร้างคำถามให้เกิดความสงสัยขึ้นมา เช่น ความกล้าหาญคืออะไร คุณธรรมคืออะไร
2. สมมติฐาน (Hypothesis) เป็นการตอบคำถามจากความสงสัย ซึ่งจะเป็นการให้ความเห็นหรือกล่าวอ้างเกี่ยวกับคำถามนั้น ซึ่งสุดท้ายจะมาเป็นข้อสมมติฐานของการสนทนา
3. การพิสูจน์ (Elenchus) ช่วงนี้เป็นขั้นตอนสำคัญมากที่จะเป็นการพิสูจน์ โต้แย้ง หรือหักล้าง เกี่ยวกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ว่าเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งจะมีการใช้คำถามและการให้ตัวอย่างย้อนกลับที่ค้านกลับสิ่งที่ตั้งไว้
4. การยอมรับหรือปฏิเสธของสมมติฐาน (acceptance/rejection of hypothesis) หลังจากที่มีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น สิ่งที่มีการโต้แย้ง ยกตัวอย่าง เรายังเห็นด้วยกับสมมติฐานของเราอยู่หรือไม่
5. ปฏิบัติการ (action) การนำเอาสิ่งที่ค้นพบที่เกิดจากขั้นตอนที่ผ่านมาไปสู่การปฏิบัติ
นอกจากนี้ บทความ Socratic Method as Approach to Teaching ได้ระบุว่าวิธีการเช่นนั้น ช่วยให้มีคำถามนำการแลกเปลี่ยน มีการสนทนาและโต้แย้ง ซึ่งช่วยให้นักเรียนสะท้อนคิดอย่างจริงจังบนความเข้าใจที่เขาเข้าไปมีส่วนร่วมกับประเด็น นอกจากนี้ยังสร้างให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ เกิดความสงสัย และฝึกฝนให้ได้รู้จักไต่สวนจากหลักเหตุผล สุดท้ายเมื่อเขาเผชิญกับข้อมูลชุดใหม่ เขาจะเป็นคนที่จะไม่เชื่ออะไรโดยง่าย และนักเรียนจะกลายเป็นผู้ที่รู้จักการคิดและตรวจสอบสิ่งที่เขาได้รับมาเสมอๆ
ถ้าเช่นนั้น เราจะตั้งคำถามให้เกิดการสนทนาแลกเปลี่ยนขึ้นในห้องเรียนอย่างไร? บทความ Designing Effective Project : Questioning The Socratic Questioning Technique และบทความ มุมมองใหม่การเรียนรู้ ศิลปะการตั้งคำถามโดยวิธีโสเครติส ของ รศ.มัณฑรา ธรรมบุศย์ ชี้ตรงกันว่า
การจะทำให้เกิดการสนทนาแลกเปลี่ยนได้นั้น คำถามที่ครูนำมาใช้ต้องมีความน่าสนใจ มีการให้เวลานักเรียนในการคิดคำตอบ ที่สำคัญต้องมีการวางแผนการใช้คำถามอย่างเป็นระบบ
ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ครูจะต้องรู้ว่านักเรียนมีความคิดความเชื่ออย่างไรบ้างในเรื่องที่จะสนทนา เพื่อให้การสนทนาไม่ไปสู่ทางตันของการแลกเปลี่ยน แต่กระตุ้นให้นักเรียนได้ดึงเหตุผลออกมาคิดแลกเปลี่ยน ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนได้นำบทความทั้งสองมาสรุปประเภทการใช้คำถาม ตัวอย่างของคำถาม รวมถึงแนวทางการใช้ ดังนี้
ประเภทของคำถาม | ตัวอย่าง | แนวทางการใช้ |
Clarification questions เป็นคำถามที่เน้นให้เกิดความกระจ่าง | – ทำไมถึงตอบเช่นนั้น? – ความหมายที่ถูกต้องจริงๆ คืออะไร? – ยกตัวอย่างในสิ่งที่กำลังอธิบายได้ไหม? | ตรวจสอบความคิดหลังจากให้คำตอบไปแล้ว หรือหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น |
Questions about an initial question or issue คำถามที่เน้นให้ตั้งคำถามกับคำถามหรือประเด็นเริ่มแรก | – ทำไมคำถามนี้จึงสำคัญ? – ประเด็นการตั้งคำถามข้อนี้คืออะไร? – คำถามนี้หมายความว่าอย่างไร | คิดทบทวนเกี่ยวกับคำถามหรือประเด็นที่นำเสนอไป |
Assumption questions คำถามที่เน้นตั้งข้อสมมติฐาน | – อะไรคือสมมติฐาน? – ทำไมใครบางคนถึงตั้งสมมติฐานเช่นนี้? – ดูเหมือนจะมีการสมมิตฐานว่…ใช่ไหม? – จะมีวิธีการพิสูจน์สมมติฐานนี้อย่างไร?จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า..? | ก่อนเริ่มอภิปรายร่วมกันเพื่อกระตุ้นการคิด |
Reason and evidence questions คำถามที่เน้นให้นำเสนอเหตุผลและหลักฐาน | – ทำไมจึงคิดว่าสิ่งนี้ถูกต้อง? – ช่วยอธิบายเหตุผลให้ฟังได้ไหม? – ด้วยเหตุผลเช่นนี้นำมาสู่ข้อสรุปว่าอย่างไร? – เหตุผลที่ยกมา คิดว่าเพียงพอแล้วหรือยัง – เรื่องนี้มีข้อหักล้างได้ไหม – นั่นคือเหตุผลที่สงสัยเกี่ยวกับหลักฐานดังกล่าวใช่ไหม? | ระหว่างการอภิปรายแลกเปลี่ยน ที่ต้องมีการหาเหตุผลหรือหลักฐานเพื่อสนับสนุนคำตอบ |
Origin or source questions คำถามที่เน้นตรวจสอบแหล่งอ้างอิงหรือแหล่งที่มา | – ได้รับความคิดมาจากที่ใด? – นี่เป็นความคิดของเธอ หรือเธอได้ยินมันมาจากที่อื่น? – อะไรเป็นสาเหตุที่เลือกใช้ข้อมูลนี้ | ระหว่างอภิปราย เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาและเหตุผลในการเลือกใช้ข้อมูล |
Viewpoint questions คำถามที่เน้นมุมมอง | – ข้อแตกต่างระหว่าง…กับ… คืออะไร? – มีแง่มุมอื่นในการพิจารณาสิ่งนี้อีกไหม? – สามารถมองเรื่องนี้ในแง่มุมอื่นได้หรือไม่? | ระหว่างการอภิปรายแลกเปลี่ยน ที่ต้องมีการให้คิดในแง่มุมอื่น |
Implication and consequence questions คำถามที่เน้นความเกี่ยวข้องและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมา | – สิ่งนั้นสามารถเกิดขึ้นจริงๆ หรือมันแค่อาจจะเกิดขึ้น? – ถ้าสิ่งนั้นเกิดขึ้นแล้ว อะไรบ้างอาจจะเกิดขึ้นตามมา ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? | หลังสรุปการอภิปราย เพื่อต่อยอดการนำไปใช้หรือประเมินสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น |
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เราคงได้เห็นวิธีการที่เรียกว่า Socratic method หรือการตั้งคำถามแบบ Socratic Questioning สามารถทำอย่างไรได้บ้าง และได้เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเรียนเกิดการคิดเชิงวิพากษ์ได้อย่างไร หากกล่าวสรุปสั้นๆ ว่าวิธีการแบบโสเครติส คืออะไร?
ในฐานะผู้เขียน ผมคงสรุปดังที่ Sira Abenoza กล่าวใน Ted Talk : Why Socratic Dialogue should become our business card ไว้ว่า
‘การสนทนา (แบบโสเครติส) คือเครื่องมือที่เปี่ยมพลังที่จะลดปีศาจ (ของความไม่รู้)’
อ้างอิง
ทำไมโสเครตีสเกลียดประชาธิปไตย
มุมมองใหม่การเรียนรู้ ศิลปะการตั้งคำถามโดยวิธีโสเครติส
โสกราตีส คือใคร
โสเครติสกับกฎหมาย จากมติชนออนไลน์
Designing Effective Project : Questioning The Socratic Questioning Technique
Should Educators use the Socratic Method of Teaching?
Socratic Method as Approach to Teaching
The dialectical method of Socrates
** ภาพ The Death of Socrates, Painting by Jacques-Louis David
https://www.metmuseum.org/art/collection/search/436105