การคิดอย่างสร้างสรรค์ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของจินตนาการและความรู้ คือการเริ่มต้นด้วยการแตกแยกย่อยไอเดียจากจินตนาการ ก่อนจะขมวดไปสู่การแก้ปัญหาในตอนท้ายด้วยความรู้
จินตนาการ
Divergent Thinking : คิดถึงสิ่งใหม่ๆ แตกแยกย่อยไอเดียโดยการสำรวจทางออกที่เป็นไปได้หลายๆ ทางเพื่อหาหนึ่งทางที่แก้ปัญหาได้ มีการคิด 4 มิติ
1.คิดริเริ่ม (Originality) มองเห็นความคิดใหม่ๆ และทางแก้ที่โดดเด่นเฉพาะตัว
2.คิดยืดหยุ่น (Flexibility) มองปัญหาจากหลากหลายมุมมองได้ในเวลาเดียวกัน
3.คิดคล่องแคล่ว (Fluency) ผุดไอเดียได้หลากหลายและรวดเร็ว รวมถึงจัดการไอเดียมหาศาล แยกแยะและนำมาใช้ได้อย่างเหมาะสม
4.คิดประณีต (Elaboration) ขยายความคิดอย่างละเอียดเป็นขั้นตอน อธิบายให้เห็นภาพชัดเจน
ความรู้
Convergent Thinking : ขมวดทุกความคิดพุ่งตรงไปแก้ปัญหา ทำให้ไอเดียมากมายรวบยอดตรงไปสู่ทิศทางเดียวกัน กลายเป็นทางออกที่เป็นรูปธรรมและแก้ปัญหาได้จริง มีส่วนผสม 4 อย่าง
1.ความรู้และเชี่ยวชาญ (Subject-knowledge and Expertise) ยิ่งข้อมูลแน่นก็ยิ่งสร้างสรรค์ได้มาก
2.ตรรกะและการใช้เหตุผล (Logic and Reasoning) เหตุผลชัดเจนมั่นคง ช่วยให้การแก้ปัญหาเดินหน้าได้ดีขึ้น
3.มีสมาธิ (Focus and Concentration) ไม่ไขว้เขวไปจากความคิดสร้างสรรค์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
4.สติปัญญา (Intelligence) หนุนหลังทุกอย่างทั้งความมีเหตุผล การวางแผน การแก้ปัญหา การเรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจแนวคิดซับซ้อน และเรียนรู้จากประสบการณ์
อ่านรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ 3 สูตร(ไม่)สำเร็จของความคิดสร้างสรรค์ ทักษะสำคัญของปัจจุบันและอนาคต