Skip to content
การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Education trendLearning TheoryGrowth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skills
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    BookMovieSpace
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
How to enjoy life
14 March 2024

นอนผิด…ชีวิตเปลี่ยน! ทำไมแค่นอน(ให้ถูก) ชีวิตก็ดีขึ้นทุกด้านได้แล้ว

เรื่อง ปริพนธ์ นำพบสันติ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • เมื่อคุณภาพการนอนไม่ดี หรือ ‘นอนไม่พอ’ จะส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งระยะสั้นและระยะยาว และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดฮวบอย่างมีนัยยะสำคัญ
  • REM หรือ ช่วงหลับตื้น มีส่วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์จิตใจที่สงบขึ้น โดยเฉพาะเวลาเกิดเหตุการณ์แง่ลบที่มากระทบจิตใจ REM จะเสมือนมาช่วย ‘ฮีลใจ’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่มีสไตล์การนอนแบบ 2 ช่วงเวลาต่อวันเสมอ (Biphasic sleep) หรือก็คือ ‘งีบกลางวัน-นอนกลางคืน’ ที่ถ้าใครได้ลองทำเป็นประจำจะพบว่ามันเวิร์กกว่าการทำงานใช้เวลายิงยาวทั้งวัน กิจกรรมที่ทำอยู่มีประสิทธิภาพขึ้น

ใครเป็นเหมือนกันบ้าง? วันไหนที่ ‘นอนไม่พอ’ ตื่นเช้ามาวันนั้นจะหัวไม่แล่น สมองไม่อยากรับอะไร ขี้เกียจลุกไปทำงาน จำอะไรก็ไม่ค่อยได้ มึนๆ เบลอๆ โลกไม่ค่อยสดใส แถมอารมณ์เสียง่าย ใครมาพูดจากระทบกระทั่งอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็ระเบิดลงแล้ว

นี่คือตัวอย่างสุดคลาสสิกที่พวกเราหลายคนเป็นกันเมื่อคุณภาพการนอนไม่ดี พูดรวมๆ คือ…ไม่ค่อยมีความสุข โดยมีสาเหตุตั้งต้นมาจากเรื่องเดียวเลยคือ คุณภาพการนอนหลับไม่ค่อยดี 

ผลวิจัยยังเผยว่า หากนอนหลับไม่ถึง 6 ชั่วโมงต่อวันจนเรื้อรังติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดฮวบอย่างมีนัยยะสำคัญ เพิ่มโอกาสการเป็นโรคมะเร็งถึง 2 เท่า และเพิ่มโอกาสเกิดโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ด้วย

ทีนี้ อยากให้ทุกคนลองนึกภาพวันที่ ‘นอนหลับเต็มอิ่ม’ วันนั้นเราจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีแรง สมองแล่น รู้สึกอยากทำอะไรใหม่ๆ รู้สึกมีความหวัง มองโลกในแง่บวก สดใสกับเรื่องเดิมๆ มีความสุขกับเรื่องง่ายๆ 

มิติของชีวิตในแต่ละวันพลิกกลับตาลปัตรอย่างน่าอัศจรรย์เพียงเพราะ…การนอนหลับ

ทำไมแต่ละวัน(รู้สึก)ดีขึ้นได้ด้วยการนอน?

การจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ต้องขอชวนไปสำรวจ วิทยาศาสตร์การนอน สักเล็กน้อย  หลายคนน่าจะคุ้นหูมาบ้างแล้วว่า คนเรามีวงจรการนอนหลับ 2 แบบคือ

1. Non-rapid eye movement sleep (NREM) การนอนหลับแบบที่ไม่มีการกรอกตา หรือที่เราเรียกกันว่า ช่วงหลับลึก 

2. Rapid eye movement sleep (REM) การนอนหลับแบบที่ดวงตากรอกไปมา หรือที่เรียกกันว่า ช่วงหลับตื้น

ทั้ง 2 แบบจะเกิดขึ้นสลับกันเป็นรอบทุกๆ 90 นาที เริ่มที่ NREM ก่อน ถึงค่อยตามมาด้วย REM สลับกันไป

แล้วทั้ง 2 แบบทำหน้าที่ต่างกันยังไง? อธิบายแบบง่ายๆ คือ

NREM ทำหน้าที่ ‘จัดระเบียบข้อมูล’ โดยจะเก็บรักษาข้อมูลสำคัญไว้ให้ปลอดภัย พร้อมกับกำจัดข้อมูลที่ไม่จำเป็นทิ้งไป กล่าวคือ ในแต่ละวันที่เราออกมาใช้ชีวิต สมองเราพบเจอข้อมูลใหม่นับไม่ถ้วน แต่ไม่ใช่ข้อมูลทุกเรื่องที่สลักสำคัญกับเรา เราไม่สามารถและไม่ควรเก็บข้อมูลล้านแปดทบๆ กันใหม่แบบนี้ทุกวี่ทุกวัน 

NREM เสมือนมาคัดเลือกและเก็บรักษาข้อมูลที่สำคัญจริงๆ เท่านั้น เช่น จะเก็บข้อมูลจดจำประโยคชวนฉุกคิดที่อ่านเจอในบทความของ The Potential ขณะที่ลบข้อมูลคนแปลกหน้า ใครก็ไม่รู้ที่พบเจอกันเวลาขึ้นรถไฟฟ้า BTS

REM ทำหน้าที่ ‘เชื่อมโยงข้อมูล’ ต่างๆ เข้าหากัน ช่วงเวลานี้เองที่ก่อกำเนิดเป็นความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่เราอาจคิดไม่ออกก่อนหน้า เป็นปรากฎการณ์ที่หลายคนเซอไพรส์ว่า ก่อนนอนคิดไม่ออก…แต่ตื่นนอนมาไอเดียแก้ปัญหาจู่ๆ ก็เด้งขึ้นมา! ถึงกับมีเคล็ดลับว่า ก่อนนอนให้คิดทบทวนถึงปัญหาคร่าวๆ และรีบเข้านอนซะเพื่อให้ REM สร้างไอเดียครีเอทีฟขึ้นมาตอนตื่นนอน 

นอกจากนี้ REM ยังมีส่วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์จิตใจที่สงบขึ้น โดยเฉพาะเวลาเกิดเหตุการณ์แง่ลบที่มากระทบจิตใจ REM จะเสมือนมาช่วย ‘ฮีลใจ’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


ในแต่ละคืน โดยเฉลี่ย ผู้ใหญ่ต้องการเวลานอนหลับราว 7-8 ชั่วโมง ขณะที่เด็กเล็กอยู่ที่ 8-10 ชั่วโมง และจะขาด NREM & REM อย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้เลย โดยเวลาเข้านอนที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ประมาณ 4 ทุ่ม เด็กเล็กอยู่ที่ 2-3 ทุ่ม ขณะที่เด็กวัยรุ่นจะเขยิบดึกขึ้นไปอยู่ที่ 5 ทุ่ม – เที่ยงคืนเป็นอย่างน้อย เป็นสาเหตุว่าทำไมพ่อแม่มองลูกๆ วัยรุ่นว่า ‘นอนดึก’ ขณะที่ลูกวัยรุ่นมองว่าปกติ เพราะความแตกต่างของธรรมชาติร่างกายในแต่ละช่วงวัยนั่นเอง

มนุษย์ดึกดำบรรพ์นอนแบบไหน?

มีธรรมเนียมของชาวสเปนอย่างหนึ่งที่เรียกว่า ‘เซียสต้า’ (Siesta) หรืองีบนอนกลางวันสั้นๆ ที่นักท่องเที่ยวน่าจะได้เคยสัมผัสพบเห็นเมื่อไปเยือนสเปน แต่การ ‘ง่วง & งีบ’ ช่วงกลางวันบ่ายๆ ไม่ได้เป็นเรื่องของสังคม-วัฒนธรรมเท่านั้น ‘ง่วงนอนตอนบ่าย’ ไม่ใช่เรื่องเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับคนสเปนหรือคนไทย แต่เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทุกประเทศทั่วโลก เพราะเป็นเรื่องของชีววิทยาที่ฝังอยู่ในร่างกายมนุษย์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วต่างหาก!

ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม หรืออันที่จริงยุคดึกดำบรรพ์สมัยบรรพบุรุษเรายังหาของป่าล่าสัตว์ ไม่ว่ามนุษย์จะอยู่ในพื้นที่ไหนของโลก มีอารยธรรมแบบไหน อายุเท่าไร เพศอะไร…เราจะเป็นสัตว์สังคมที่มีสไตล์การนอนแบบ 2 ช่วงเวลาต่อวันเสมอ (Biphasic sleep) หรือก็คือ ‘งีบกลางวัน-นอนกลางคืน’ 

การงีบช่วงบ่ายสั้นๆ แค่เพียง 15-20 นาที ช่วยให้เรากลับมามีแรง สมองแล่นได้แบบเหลือเชื่อ ถ้าใครได้ลองทำเป็นประจำจะพบว่ามันเวิร์กกว่าการทำงานใช้เวลายิงยาวทั้งวัน กิจกรรมที่ทำอยู่มีประสิทธิภาพขึ้น ปรับอารมณ์ให้ร่าเริงและทนต่อแรงกดดันได้ดีขึ้น เอนจอยกับวันนั้นๆ ได้แบบเต็มอิ่มกว่าเดิม

อันที่จริง การงีบกลางวัน-นอนกลางคืน พวกเราหลายคนน่าจะเคยผ่านและลืมมันไปแล้ว เพราะระบบการศึกษาของเด็กอนุบาลหลายแห่งมักจะให้เด็กได้งีบช่วงบ่าย เพราะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กเล็กนั่นเอง

แค่นอนให้ถูกวิธี ชีวิตแต่ละวันก็เอนจอยขึ้นแล้ว

อยากเข้านอนและหลับอย่างมีคุณภาพ ต้องเริ่มที่ช่วงเวลา ‘ก่อน’ เข้านอนตั้งแต่ตอนเช้าเลย อันดับแรกคือ ‘คาเฟอีน’ โดยเฉพาะจากกาแฟซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่คนกินและติดกันทั่วโลก 

คาเฟอีนในกาแฟมี Half life อยู่ที่ราว 5-7 ชั่วโมง Half life คือ ระยะเวลาที่ร่างกายเราจะกำจัดสลายคาเฟอีนปริมาณครึ่งหนึ่งออกไปจากร่างกาย เช่น ถ้าคุณดื่มกาแฟตอนบ่าย 3 โมง เมื่อถึงเวลา 3 ทุ่ม จะยังคงมีสารคาเฟอีนตกค้างหลงเหลืออยู่ในร่างกายคุณถึงครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกเลยที่ใครดื่มกาแฟตอนบ่าย 3 แล้วจะมีปัญหานอนไม่หลับหรือนอนหลับแต่ไม่ค่อยสดชื่นมีคุณภาพ

ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ยอมรับอีกว่ากาแฟเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้เราเอนจอยกับชีวิต หลายคนไม่ได้ดื่มกาแฟเพราะฟังก์ชั่นมานานแล้ว แต่ดื่มเพราะสุนทรียะ ศิลปะ เรื่องเล่า โซลูชั่นตรงนี้เห็นจะเป็นการ ‘บาลานซ์’ ปริมาณและช่วงเวลาการดื่มซะมากกว่า ดื่มได้ในแต่ละวัน แต่ไม่ควรดื่มเยอะเกินไป และถ้าเป็นไปได้อย่าดื่มหลังจากเลยช่วงบ่ายไปแล้วก็จะไม่กระทบคุณภาพการนอนตอนกลางคืนนัก

อย่างไรก็ตาม แม้การเข้านอนเร็วประมาณ 4 ทุ่ม และนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ NREM & NEM ทำงานสร้างประโยชน์ให้กับเราเต็มที่ดังที่ได้กล่าวไป จะเป็นเรื่องเรียบง่าย สากล และน่าจะประยุกต์ใช้กับใครหลายคนได้

แต่สำหรับคนนอนดึกเป็นทุนเดิม การเปลี่ยนพฤติกรรมให้คงอยู่ต่อไปในระยะยาวเป็นสิ่งที่ใช้เวลาหล่อหลอม เพราะการทำงานของสมองและร่างกายคนเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลับ แรงต้านจะเยอะ ผัดวันประกันพรุ่งจะเกิด

นักวิจัยด้านจิตวิทยาสังคมเผยว่า โดยเฉลี่ยแล้ว คนเราต้องใช้เวลาประมาณ 66 วันกว่าอุปนิสัยใหม่ (New habit) จะเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ

อย่างเช่น จากเดิมถ้าเราเป็นคนเข้านอนประมาณเที่ยงคืน แล้วตื่นเช้างัวเงียก่อนไปทำงานต้องอัดกาแฟ 2 แก้ว ถ้าคุณอยากเข้านอนเร็วขึ้นเป็นตอน 4 ทุ่ม ต้อง ‘ค่อยๆ ปรับเวลา’ เข้านอน อย่ากระโดดจากเที่ยงคืน มา 4 ทุ่มในคืนเดียวเพราะโอกาสสูงมากที่จะล้มเหลว แต่ให้ค่อยๆ เข้านอนเร็วขึ้นสัปดาห์ละ 15 นาที ผ่านไปราว 2 เดือน ทั้งกิจวัตรประจำวันของเราและร่างกายเองจะสามารถปรับตัวเพื่อเข้านอนตอน 4 ทุ่มได้สำเร็จ

ปกติเวลาเราพูดถึงการมีสุขภาพร่างกายที่ดีแข็งแรง เรามักจะนึกถึงการกินอาหารและออกกำลังกาย มีหนังสือที่แตกย่อยโภชนาการอาหารที่ควรทานอย่างละเอียดยิบ มีคนมาแชร์เทคนิคการออกกำลังกายที่ตอบโจทย์สรีระร่างกายของแต่ละคนอย่างแตกฉาน แต่มีไม่มากนักที่จะโฟกัสที่การนอนหลับ ซึ่งอย่างมากก็มักพูดถึงแบบกว้างๆ เช่น “นอนให้ได้วันละ 8  ชั่วโมงนะ” สั้นๆ จบ โดยไม่มีการสาธยายต่อ 

เมื่อถกเถียงถึงการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและเคล็ดลับการเอนจอยชีวิตในแต่ละวัน การนอนหลับจึงเป็นอีกเรื่องที่ถูกมองข้าม ถูกเพิกเฉย ถูกประเมินค่าต่ำ (พอๆ กับการหายใจ) 

นอนผิด…ชีวิตเปลี่ยน แต่ถ้านอนให้ถูก…ชีวิตก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีได้เช่นกัน มาฝึกนอนให้ถูกต้องเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นทุกด้านกันเถอะ!

อ้างอิง

หนังสือ Why We Sleep: Unlocking the Power of Sleep and Dreams โดย Matthew Walker

https://www.researchgate.net/publication/32898894_How_are_habits_formed_Modeling_habit_formation_in_the_real_world

https://www.sleepfoundation.org/how-sleep-works/biphasic-sleep

https://www.moshikids.com/articles/age-appropriate-bedtimes-for-kids-in-2022/#:~:text=6%2D12%20years%20old%3A%20should,asleep%20until%20around%2011%20pm

https://www.healthline.com/health/how-long-does-it-take-to-form-a-habit#takeaway

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8602722/

Tags:

สุขภาพวิทยาศาสตร์การนอนREMNREMความสุขการนอน

Author:

illustrator

ปริพนธ์ นำพบสันติ

ชอบขบคิดในหัวและหาคำอธิบายให้กับสิ่งรอบตัว

Illustrator:

illustrator

ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

นักวาดภาพที่ใช้ชื่อเล่นว่า ววววิน facebook, ig : wawawawin

Related Posts

  • Book
    ความสุขคืออะไร?  คำถามที่ทุกคนต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง

    เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • Dr.Tong The Filter
    Life classroomHow to enjoy life
    ‘เราต่างเป็น Expert ของชีวิตตัวเอง’ ค้นพบศักยภาพที่จะมีความสุข กับ ดร.พงษ์รพี บูรณสมภพ

    เรื่อง อภิบาล ว่องวงษ์รักษ์ ภาพ ปริสุทธิ์

  • Movie
    Perfect Days: เพราะวันที่ดีคือวันที่ได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง 

    เรื่อง อภิบาล ว่องวงษ์รักษ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • How to enjoy life
    ฮุกกะ (Hygge): สุขแบบไม่หิวแสง จริตชีวิตในแบบฉบับคนเดนมาร์ก

    เรื่อง ปริพนธ์ นำพบสันติ ภาพ ninaiscat

  • How to enjoy lifeBook
    7 หลักจิตวิทยาเชิงบวก เปิดประตูความสำเร็จด้วย ‘ความสุข’

    เรื่อง พิรญาณ์ บุลสถาพร

  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts
  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel