- ในชาติก่อนที่นนทกจะเป็นทศกัณฑ์ นนทกเป็นยักษ์มีหน้าที่ล้างเท้าให้แก่เทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร เขาทำหน้าที่ของตนด้วยความสุจริต กระนั้นบรรดาเทวดาที่เขาล้างเท้าให้กลับไม่ได้ให้เกียรติอะไรเขานัก เขาคับแค้นและไปเข้าเฝ้าพระอิศวรเพื่อขอนิ้วเพชร ซึ่งเมื่อชี้ไปยังผู้ใด ผู้นั้นก็ต้องมอดม้วยมรณา
- บทความชิ้นนี้ ภัทรารัตน์ หยิบเรื่องราวของยักษ์นนทก มาชวนทำความเข้าใจความโกรธของเราว่าเป็นแบบไหน ความโกรธของบางคนปรากฏร่างเป็นสิ่งที่ชีวิตเขาขาดไป เช่น ใครคนหนึ่ง เมื่อถูกล้ำเส้นก็จะรู้สึกมีก้อนหินสีดำขรุขระวางอยู่บนอก แต่นั่นก็คือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องมี เพราะมันก็เหมือนรั้วหนามสำหรับกั้นอาณาเขตไม่ให้ผู้มาดร้ายเข้ามาคุกคามได้นั่นเอง
- อีกกรณี คือ ความโกรธของคนลักษณะหนึ่งที่เมื่อมีคนล้ำเส้นก็มักพยายามวางเฉยหรือแสดงท่าทีว่า ‘ไม่เป็นไร’ (แต่จริงๆ เป็น) ทำให้บางจังหวะเมื่อถูกรุกพื้นที่มากเข้าย่อมสามารถจะระเบิดความโกรธออกมาดุจพลังภูเขาไฟคล้ายนนทก
1.
ในห้วงยามที่ความโกรธกำลังระเบิดออกนั้น ใครคนหนึ่งรู้สึกเหมือนตนเป็นยักษ์นนทกผู้เคยเจียมตัวลงให้ผู้อื่น ทว่าถูกเหยียบข่มรังแกจนต้องขอแผลงฤทธิ์กระทำคนอื่นบ้าง ราวกับว่าความโกรธกำลังทำให้คนที่ดูไร้อำนาจปราศจากทางสู้ กลับมาเห็นว่าตัวเองก็เป็นคนสำคัญผู้ควรค่าแก่การให้เกียรติดั่งที่ผู้อื่นได้รับจากเขาเหมือนกัน อีกทั้งเมื่อโกรธ เขาดูจะมีพลังมากพอในการปกป้องตัวเองจากการถูกกระทำ
อย่างไรก็ตาม ในการตระหนักรู้ถึงความโกรธและเรื่องราวภายใต้ความโกรธนั้น ใครคนหนึ่งสามารถหลุดไปอีกขั้น กล่าวคือ เขามีศักยภาพที่จะปกป้องตัวเองจากการยืมมือคนอื่นมากระทำตัวเองด้วย
จากยักษ์นนทกที่ยอมให้ผู้อื่นล้ำเส้น สู่ยักษ์ทรงฤทธิ์สังหารหมู่
ในชาติก่อนที่นนทกจะเป็นทศกัณฑ์ ยักษ์ทรงพลานุภาพผู้มีสิบหน้าและมือยี่สิบซ้ายขวานั้น นนทกเป็นยักษ์มีหน้าที่ล้างเท้าให้แก่เทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร โดยประจำการอยู่ตรงเชิงบันไดเขาไกรลาส เขาทำหน้าที่ของตนด้วยความสุจริต กระนั้นบรรดาเทวดาที่เขาล้างเท้าให้กลับไม่ได้ให้เกียรติอะไรเขานัก บ้างก็ถอนผมเขาไปเรื่อยหรือบ้างก็ตบหัว กระทั่งในที่สุดเขากลายเป็นยักษ์หัวโล้นโกร๋นเกลี้ยง เขาคับแค้นและไปเข้าเฝ้าพระอิศวรเพื่อขอนิ้วเพชร ซึ่งเมื่อชี้ไปยังผู้ใด ผู้นั้นก็ต้องมอดม้วยมรณา
เมื่อได้นิ้วเพชรมาแล้ว นนทกก็เริ่มแก้แค้นเอาคืน เมื่อเขาถูกจับหัวสัพยอกอย่างเคย เขา ‘กริ้วโกรธร้องประกาศตวาดมา อนิจจาข่มเห่งเล่นทุกวัน’ เลยเถิดไปถึงการเข่นฆ่าเทวดา ครุฑ นาค ตายเกลื่อนกลาด…
2.
โกรธเพราะถูกสะกิดแผลเก่า? หรือปะทุเพราะ ‘ไม่เป็นไร’ จนเหลืออด?
ความโกรธสำแดงร่างออกมาได้หลากลักษณะและมีที่มาที่ไปมากมาย หลายกรณีก็เป็นการถูกสะกิดแผล ในลักษณะที่คนอื่นไม่ได้ตั้งใจทำอะไรให้เรา แต่ว่าสิ่งที่เขาพูดกับเราดันไปกระทบ ‘แผลเก่า‘ อันเชื่อมโยงกับความทรงจำที่เราเคยถูกกระทำหรือเคยถูกด้อยค่า ซึ่งทำให้ใครคนหนึ่งเจ็บปวดมากกระทั่งอาจออกอาการรุนแรงเฉกเช่นนนทกตอนขุ่นคลั่ง
แต่อีกกรณีซึ่งจะเน้นในที่นี้ก็คือ ความโกรธของคนลักษณะหนึ่งที่เมื่อมีคนล้ำเส้นก็มักพยายามวางเฉยหรือแสดงท่าทีว่า ‘ไม่เป็นไร’ (แต่จริงๆ เป็น) ทำให้บางจังหวะเมื่อถูกรุกพื้นที่มากเข้าย่อมสามารถจะระเบิดความโกรธออกมาดุจพลังภูเขาไฟ คล้ายนนทกที่ปล่อยให้เทวดาเล่นหัวไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้กั้นขอบเขต (set boundaries) อะไร กระทั่งวันหนึ่งเมื่อกลายเป็นยักษ์หัวล้านซึ่งได้สั่งสมความคับข้องไว้มากได้ที่แล้ว ถึงเพิ่งไปขอนิ้วเพชรจากพระอิศวร มาออกอาละวาดเป็นเรื่องใหญ่โต (ในวรรณคดีน่าเห็นใจที่นนทกอยู่ในโครงสร้างสังคมอันมีความต่างศักดิ์หลายเลเยอร์ แต่ที่จริงเขาก็สามารถตามเกมความเหลื่อมล้ำโดยขอร้องให้คนศักดิ์สูงยิ่งอย่างพระอิศวรช่วยได้ตั้งแต่เขาถูกล้ำเส้นเคสแรกๆ ก่อนเรื่องจะบานปลาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ขอถกเรื่องโครงสร้างสังคมอันอยุติธรรมในที่นี้)
คนรักสงบที่อาจไม่สงบจริง
มีคนบุคลิกภาพหนึ่งที่ไม่ค่อยจะรู้ตัวว่าโกรธหรือไม่ให้พื้นที่ตัวเองได้แสดงความโกรธตามสมควรออกมาเท่าใดนัก ดูภายนอกเขารักความสงบสันติ เขาขี้เกียจจะขัดแย้งกับใครแม้เมื่อถูกล้ำเส้นหรือถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่ต้องการ แต่ถึงแม้ไม่ได้ปฏิเสธลุกขึ้นต้านใครตรงๆ ทว่าหลายโอกาสเขาก็จะแสดงความก้าวร้าวแบบ passive aggressive เช่น ตั้งใจที่จะไม่ตัดสินใจฟันธง หรือทำอะไรช้าๆ ยกตัวอย่าง หากเขาถูกบีบคั้นให้ไปงานเลี้ยงในเวลาส่วนตัวซึ่งเขาก็ไม่ได้อยากไป เขาอาจตกลงแบบขอไปทีเพราะไม่อยากขัดแย้ง แต่เมื่อถึงเวลาต้องไป เขากลับทำอะไรช้าๆ และมาไม่ถึงรถสักที และเมื่อถูกเร่งเขาก็จะแสดงอาการหงุดหงิดดื้อรั้น กระทั่งเมื่อไปถึงที่หมายเขาก็อาจทำหน้าเฉยชาหรือบูดบึ้งในงานเลี้ยง ซึ่งที่จริงแล้ว มันก็คือ ความโกรธที่รั่วไหลออกมา ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
ในวัยเด็ก คนที่มีลักษณะเช่นนี้ได้รับสาร (อาจไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใหญ่พูด แต่เป็นสิ่งที่เขาสรุปเอาตามความเข้าใจของตัวเอง) ว่าความคิด ความปรารถนาของเขา จะไม่ถูกได้ยินหรือให้ค่า ดังนั้น แทนที่เขาจะต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ เขาจึงหลับใหลต่อสิ่งที่สำคัญสำหรับตัวเอง และปล่อยหรือพยายามช่วยให้คนอื่นลุความต้องการ เขาแยกจากตัวเองเพียงเพราะกลัวว่าจะต้องพลัดพรากจากคนอื่น เขาพยายามให้พื้นที่ทุกคนเพราะลึกๆ เขาก็รู้ว่ามันเป็นอย่างไรเวลาไม่ถูกได้ยิน หรือเมื่อถูกมองข้ามไป
เมื่อเขาให้สิ่งต่างๆ ตามที่คนอื่นต้องการแล้ว เขาก็หวังลึกๆ ด้วยว่าคนพวกนั้นจะไม่มาเจ้ากี้เจ้าการอีก เขาจะได้ดำเนินชีวิตไปอย่าง สงบสุข แต่วิธีมองข้ามตัวเองของเขากลับทำให้เขามีแนวโน้มที่จะ สูญเสียตัวเองหรือพื้นที่ของตัวเองให้แก่ผู้อื่นไปเรื่อยๆ ย่อมจะนำมาซึ่งความรู้สึกด้านลบอย่างเช่นความโกรธ ซึ่งหากเขาไม่กล้าสัมผัสหรือกดมันไว้ ความโกรธนั้นก็อาจแสดงออกเป็นอาการเจ็บป่วยทางกายและใจได้อีกด้วย
อารมณ์อันท่วมท้นที่ถูกอัดเก็บไว้ ในที่สุดสามารถระเบิดออกมา ซึ่งอาจเป็นวันที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว และอาจร้ายแรงประหนึ่งเหตุการณ์ของนนทกผู้เคืองแค้นก็เป็นได้
แต่เราจะสัมผัสกับความโกรธอย่างสร้างสรรค์ได้อย่างไรบ้างล่ะ?
3.
สีสัน รูปร่าง และกระแสเสียงของความโกรธ
ความโกรธของเรามีรูปร่างเป็นแบบไหน มีสีสันแบบใด? ความโกรธของบางคนปรากฏร่างเป็นสิ่งที่ชีวิตเขาขาดไป เช่น ใครคนหนึ่ง เมื่อถูกล้ำเส้นก็จะรู้สึกมีก้อนหินสีดำขรุขระวางอยู่บนอก แต่นั่นก็คือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องมี เพราะมันก็เหมือนรั้วหนามสำหรับกั้นอาณาเขตไม่ให้ผู้มาดร้ายเข้ามาคุกคามเขาได้นั่นเอง
นอกจากนี้ ลองมองความโกรธเป็นอีกร่างแยกออกจากตัวเราและพูดคุยกับมันดูสิ เขาบอกเราว่าอะไรบ้าง? บางคนก็ได้ยินเสียงว่าเขาต้องการปกป้องเรานะ เขารู้สึกว่าเรารุกล้ำเกินไปแล้ว ซึ่งแสดงว่าความโกรธไม่ได้เป็นวายร้ายเสมอไป บางทีเขาก็ตั้งใจมาเป็นผู้พิทักษ์ให้เราเท่านั้นเอง
4.
ลองพูดกับตัวเองสิว่า “ฉันต้องการให้คนอื่นจูงจมูก” “ฉันต้องการใช้ชีวิตแบบหลอมรวมกับคุณค่าทุกอย่างของคนอื่น คนอื่นต้องการอะไร ฉันก็ต้องการแบบนั้นหมดแหละ” ฟังแล้วรู้สึก “ป่วย” ไหม?
ในชีวิตส่วนตัว เราไม่ใช่ยักษ์นนทกและไม่ได้มีหน้าที่รับใช้เชื่อฟังใครจนไร้ขอบเขตถึงขนาดต้องเบียดเบียนตัวเองและไม่เคารพพื้นที่ของตัวเอง ดังนั้น วันหนึ่งเราต้องตื่นมาสัมผัสกับสัญชาติญาณความรู้สึกที่แท้จริง และรับผิดชอบทางเลือกที่จะใช้ไปชีวิตตามทางของเรา(ที่ไม่ได้ไปทำร้ายคนอื่น) ไม่ว่าคนอื่นจะชอบมันหรือไม่ก็ตาม และบางกรณีเราก็อาจต้องยอมพลัดพรากบ้าง กับคนที่เขารับไม่ได้และตัดขาดจากเราเพียงเพราะเรากล้าแสดงจุดยืนของตัวอย่างแน่นหนัก
แล้วลองดูสิว่าความโกรธที่รั่วซึมออกมาในชีวิตประจำวันลดลงไปบ้างไหม?