- Civilization เป็นเกมแนว 4X (ย่อจากวัตถุประสงค์หลักของเกม ได้แก่ Explore, Expand, Exploit, Exterminate) เกมนี้จะทำให้เราได้เรียนประวัติศาสตร์ในแง่ของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เบื้องต้น จากการปกครองเมืองที่มีอยู่จริง
- เริ่มจากยุคหินที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่เราจะค่อยๆ สะสมความรู้เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้เจริญขึ้นทีละช้าๆ และสิ่งที่น่าสนใจคือเราจะได้เรียนรู้ว่าเทคโนโลยีที่เราใช้กันในปัจจุบันนั้นมีที่มาอย่างไร และมีรากฐานจากอะไรบ้าง
- ในเกมมี ‘Civilopedia’ สารานุกรมขนาดย่อมมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเกม และข้อมูลที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจริงอย่างย่อๆ หากเราไม่รู้จักคนหรือสิ่งไหน เราเปิดอ่านได้เลยว่าสิ่งนั้นมีบทบาทสำคัญต่อประวัติศาสตร์อย่างไร
หากถามเด็กๆ ว่าคิดอย่างไรกับวิชาสังคมและประวัติศาสตร์ หลายๆ คนอาจจะตอบว่าไม่ชอบหรือไม่คิดว่าสำคัญเท่าไร ดูเป็นวิชาที่น่านั่งหาวเพราะมีแต่เรื่องให้ท่องจำเต็มไปหมด และดูเอาไปใช้อะไรไม่ได้กับการประกอบอาชีพในอนาคต แต่ที่จริงแล้ววิชาดังกล่าวมีประโยชน์มากกว่าที่หลายๆ คนคิดมากนะครับ
เนื้อหาที่เกี่ยวกับสังคมและประวัติศาสตร์ของต่างประเทศ ตัวอย่างที่ใกล้ตัวคือ ยุคนี้เรามีโอกาสได้ติดต่อคนจากทั่วโลกได้แทบจะตลอดเวลา เราอาจจะมีเพื่อน เพื่อนร่วมงาน นายจ้างชาวต่างชาติ และการที่เราจะเข้าใจคนคนหนึ่งได้ดีนั้น เราคงละเลยสิ่งที่เรียกว่า ‘บริบท’ หรือสิ่งรอบๆ ตัวที่บุคคลนั้นเติบโตมาไม่ได้ การได้รู้จักสังคมและประวัติศาสตร์ของประเทศต่างๆ ทำให้เราเข้าใจสิ่งรอบตัวของเขามากขึ้น นอกจากนี้การไปเที่ยวต่างประเทศนั้นเป็นที่นิยมในคนไทย จะดีแค่ไหนหากเรารู้เรื่องราวของประเทศที่เราไป เพราะเมื่อเราไปสถานที่สำคัญเราจะรู้ว่ามันสำคัญอย่างไร มีเรื่องราวอย่างไร และเราจะได้สังเกตถึงรายละเอียดต่างๆ และดื่มด่ำกับความงดงามของวัฒนธรรมตอนไปเที่ยวได้มากขึ้น
ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น ‘มรดก’ ที่คนรุ่นก่อนๆ มอบไว้ให้ในรูปแบบของบทเรียน เราอาจคิดว่าความผิดพลาดในอดีตอาจจะไม่เกิดในปัจจุบันซ้ำ แต่หากเรามองสิ่งต่างๆ รอบตัวเราพบว่าปัญหาหลายๆ อย่างที่เคยเกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นหลายๆ สิ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว การที่ไม่ศึกษาเลยว่าสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลายไปอย่างไรก็ถือว่าเราทอดทิ้งมรดกของคนรุ่นก่อนไปอย่างน่าเสียดาย แถมการไม่รู้ก็อาจจะเพิ่มโอกาสให้เกิดปัญหาซ้ำๆ
นอกจากนี้ปัญหาสังคมหลายๆ อย่างนั้นไม่ได้เกิดปุบปับ แต่ฝังรากมานาน ที่สุดคือปัญหาการเหยียดเชื้อชาติหรือเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน ที่ต่อให้รณรงค์กันแค่ไหนก็ยังคงไม่หมดไปจากโลก หรือทำไมประเทศแต่ละประเทศถึงร่ำรวยยากจนแตกต่างกัน ทำไมแต่ละประเทศปกครองคนละรูปแบบ ทำไมบางประเทศถึงยังคงมีสงคราม เราจะไม่มีทางเข้าใจหรือแก้ไข (หากมีโอกาส) ได้เลย ถ้าเราไม่เคยเรียนประวัติศาสตร์ของสิ่งเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามคงปฏิเสธไม่ได้ว่าบทเรียนมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่น่าสนุกในสายตาหลายๆ คน ถึงวิชาประวัติศาสตร์และสังคมจะสำคัญอย่างไรแต่ถ้ามันน่าเบื่อ มันก็ยากจะจูงใจคนเรียน บทความนี้ผมเลยขอเล่าถึงสื่อการสอนที่รับรองว่าสนุกแน่ๆ มาฝากเด็กๆ ผู้ปกครอง และครูทุกๆ ท่าน เพราะมันคือวิดีโอเกมครับ
เกม Civilization เป็นเกมแนว 4X (ย่อจากวัตถุประสงค์หลักของเกม ได้แก่ Explore, Expand, Exploit, Exterminate) เกมนี้ออกมาแล้ว 6 ภาค ไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่ต่อกันจะเล่นภาคไหนก่อนก็ได้ แต่ละภาคมีรายละเอียดที่แตกต่างกันแต่ยังยึดระบบหลักๆ แบบเดิม โดยแนว 4X นั้น ผู้เล่นจะเริ่มต้นจากการปกครองเมืองเล็กๆ 1 เมืองและทหารจำนวนไม่กี่คน ซึ่งผู้เล่นต้องสำรวจพื้นที่ทั้งโลก ขยายอาณาเขตจากเมืองเป็นประเทศและอาณาจักรที่กว้างใหญ่ หาประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นที่ และจากเทคโนโลยีต่างๆ ที่ต้องคิดค้น และจัดการกับศัตรูที่จะมาขัดขวางความยิ่งใหญ่ของประเทศตน
เกมจะกำหนดว่าประเทศของเรานั้นต้องยิ่งใหญ่ในระดับไหนถึงจะชนะ ซึ่งความยิ่งใหญ่ที่ว่าไม่ได้เกิดจากการรบราฆ่าฟันเพื่อยึดดินแดนกันอย่างเดียว ผู้เล่นมีทางเลือกในแบบที่สันติในการเอาชนะด้วยการคิดค้นเทคโนโลยีจนเหนือกว่าชาติใดๆ หรือมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นจนมีอิทธิพลกับประชาชนของประเทศอื่นๆ หรือผู้นำมีอำนาจทางการเมืองที่ประเทศอื่นๆ ต่างยอมรับ คู่แข่งจะเป็น AI (คอมพิวเตอร์) หรือผู้เล่นคนอื่นๆ หากเล่นทางออนไลน์ ที่เล่นเป็นประเทศอื่นที่แข่งขันกับเราในเงื่อนไขเดียวกับเรา โดยแต่ละฝ่ายนั้นก็ต้องเลือกว่าจะเล่นเป็นผู้นำคนไหนหรือประเทศอะไร
จุดเด่นของเกมนี้คือรายละเอียดของเนื้อหาที่เกี่ยวกับสังคมและประวัติศาสตร์ที่แทรกมาเต็มเปี่ยม แรกสุดตอนเริ่มเล่นเกมที่เราต้องเลือกผู้นำ ผู้นำเหล่านั้นคือบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์การปกครองจากหลายประเทศหรือรัฐชาติทั่วโลก และที่น่าสนใจคือบุคคลเหล่านั้นมาจากหลายยุคหลายสมัย เช่น คลีโอพัตราจากอียิปต์ พระราชินีซอนด๊อกจากเกาหลี ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอนจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ผู้นำบางคนมาจากบางรัฐชาติหรือจักรวรรดิที่ไม่มีอยู่อีกแล้วในปัจจุบัน แต่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ เช่น อเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย ฮัมมูราบีแห่งบาบิโลเนีย
การเลือกผู้นำหรือประเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ผู้นำแต่ละคนจะมีจุดเด่นและข้อได้เปรียบแตกต่างกันไปและมักจะอิงตามจุดเด่นของอารยธรรมนั้นๆ ในประวัติศาสตร์
หากเลือกสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งประเทศอังกฤษก็จะมีจุดเด่นในแง่ของการล่าอาณานิคมและการค้ากับต่างชาติ หรือถ้าเราเลือกโชกุนโทกูงาวะ อิเอยาซุ ประเทศของเราจะได้เปรียบในด้านการปิดประเทศและไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับประเทศอื่นๆ หากเราเลือกเป็นมหาตมะคานธี เราจะได้เปรียบหากเรารักษาความสงบสุขของประเทศต่างๆ ไว้ แม้ว่า Civilization ภาค 6 ล่าสุดจะไม่มีประเทศไทย (เหมือนในภาค 5 ที่มีพ่อขุนรามคำแหงแห่งประเทศสยามให้เล่น) แต่ก็มีอารยธรรมใกล้บ้านที่น่าสนใจคือเขมรที่ผู้นำคือพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
เกมนี้เราเริ่มจากยุคหินที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่เราจะค่อยๆ สะสมความรู้เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้เจริญขึ้นทีละช้าๆ เริ่มจากเกษตรกรรม การใช้โลหะ การใช้เครื่องจักรไอน้ำ อุตสาหกรรม ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเราถึงขั้นส่งยานอวกาศไปยังดาวห่างไกล และสิ่งที่น่าสนใจคือเราจะได้เรียนรู้ว่าเทคโนโลยีที่เราใช้กันในปัจจุบันนั้นมีที่มาอย่างไร และมีรากฐานจากอะไรบ้าง ระบบชลประทานจะพัฒนาให้การเกษตรในเมืองเราดีขึ้น การใช้ล้อตามมาด้วยพลังน้ำที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การคิดค้นดินปืนนำไปสู่อาวุธที่ทรงพลัง การค้นพบการใช้งานถ่านหินนำไปสู่อุตสาหกรรม และนำไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า การเล่นเกมนี้จะทำให้เราได้เรียนประวัติศาสตร์ในแง่ของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เบื้องต้นได้ดีทีเดียว
ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีที่เป็นวัตถุ แต่ความรู้ทางด้านสังคมและวัฒนธรรมก็ค่อยๆ พัฒนาไปเป็นนวัตกรรมสังคมด้วยเช่นกัน แรกเริ่มเริ่มจากการอยู่ในรูปแบบชนเผ่า และกลายเป็นเมือง และรัฐชาติ กลายเป็นสังคมที่ใหญ่ขึ้นอย่างราชอาณาจักร การปกครองซับซ้อนจากหัวหน้าเผ่า ไปสู่ระบบกษัตริย์และศักดินา และเมื่อปรัชญาทางสังคมเข้ามาผนวกกับปัญหาชนชั้น เราก็จะพบรูปแบบการปกครองที่ซับซ้อนขึ้นเป็นแนวคิดอย่างประชาธิปไตยและคอมมิวนิสต์ การพัฒนาของประเทศจำลองของเราในเกมนี้สอดคล้องไปกับประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์และสังคมจริงๆ
เสน่ห์ของเกมนี้คือทุกครั้งที่เราคิดค้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางสังคมใหม่ๆ จะมีการหยิบยกคำพูดสั้นๆ จากวรรณกรรมชื่อดัง หรือคำพูดจากบุคคลสำคัญจากทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ มาให้เราเห็นภาพว่าเทคโนโลยีนี้เกี่ยวกับอะไร หรือเพื่อสร้างอารมณ์ขันและเสริมบรรยากาศในเกม
ในระหว่างที่เราเล่นไปเรื่อยๆ หากประเทศเราพัฒนาได้ดีก็จะมีโอกาสที่บุคคลสำคัญเกิดขึ้นในประเทศ และบุคคลเหล่านั้นคือบุคคลสำคัญจริงๆ ของประวัติศาสตร์ อย่างเช่นนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์อย่างเอดิสัน ศิลปินอย่างบีโธเฟน นักเดินทางอย่างมาร์โคโปโล บุคคลสำคัญเหล่านี้จะช่วยพัฒนาประเทศของเราให้รุดหน้าดีขึ้น และหากบุคคลนั้นเป็นศิลปิน ในเกมจะมีตัวอย่างผลงานไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ รูปปั้น งานเขียนตัดตอนสั้นๆ หรือตัวอย่างเพลง มาให้เราได้อ่าน ดู และฟังกันด้วย
ในเกมนี้ยังมีการแข่งขันในการสร้างสิ่งก่อสร้าง ‘Wonder’ ที่ยิ่งใหญ่ตามยุคสมัยที่สร้างได้เพียงที่เดียวในโลก ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีจริงๆ ของโลกยุคต่างๆ เช่น พีระมิด สอนลอยแห่งบาบิโลเนีย พระราชวังต้องห้ามของจีน มหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด หอไอเฟล และที่น่าสนใจคือหลังจากสร้างเสร็จแล้วจะมีภาพสรุปขั้นตอนของการสร้างโดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างโบราณ ที่ทำให้เราเห็นว่าสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่นั้นสร้างมาได้อย่างไร
สาระในเกมนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หากผู้เล่นสนใจรายละเอียดทางประวัติศาสตร์ของตัวละคร เทคโนโลยี สถานที่ และสิ่งอื่นๆ ที่มีในเกม ในเกมมี ‘Civilopedia’ ซึ่งเป็นสารานุกรมขนาดย่อมมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเกม และข้อมูลที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจริงอย่างย่อๆ หากเราไม่รู้จักคนหรือสิ่งไหน เราเปิดอ่านได้เลยว่าสิ่งนั้นมีบทบาทสำคัญต่อประวัติศาสตร์อย่างไร
ในเกมมีสาระอัดแน่นจริงๆ ซึ่งหากเราแยกเนื้อหาของเกมเป็นส่วนๆ ออกมาเป็นบทเรียนในห้องเรียน อาจจะพบว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจสำหรับคนทั่วไป แต่พอเนื้อหารวมอยู่ในเกม สาระนั้นกลายเป็นเนื้อเรื่องและรายละเอียดในการเล่น พอผู้เล่นสนุกกับเกม รายละเอียดเหล่านั้นมันเลยกลายเป็นเรื่องน่าสนใจและน่ารู้ อย่างเช่น ผู้นำที่เราเลือกเล่นคือใคร เขาสำคัญอย่างไรเราถึงเคยได้ยินชื่อหรือถึงถูกเลือกมา ประเทศที่มีในเกมปัจจุบันหายไปไหน ทำไมเราไม่เคยได้ยินชื่อประเทศเหล่านี้เลย สิ่งก่อสร้างสำคัญที่เคยได้ยินแต่ชื่อมีหน้าตาเป็นแบบไหน บุคคลสำคัญที่ปรากฏในเกมทำประโยชน์อะไรให้แก่สังคม
เกมนี้เป็นแนวผลัดการเล่นเป็นตาๆ และทหารและยานรบแต่ละรูปแบบมีความสามารถและรูปแบบการเคลื่อนที่ต่างกัน ผู้เล่นต้องวางแผนในทำนองเดียวกับการเล่นหมากรุกจึงจะทำสงครามได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าเกมนี้มีเรื่องของสงครามและการฆ่าฟันเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ ซึ่งพ่อแม่และผู้ปกครองหลายๆ ท่านอาจจะรู้สึกว่าเป็นส่วนที่ไม่ดีหรือเปล่า แต่การมีอาวุธและสงครามในเกมนั้นเป็นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์มากทีเดียว นวัตกรรมต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสงคราม เพราะเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้สร้างอาวุธที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม และในหลายๆ ครั้งการพยายามคิดหาสิ่งใหม่ๆ ในการสร้างอาวุธก็เกิดผลพลอยได้คืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องบินไอพ่น โทรทัศน์ และดาวเทียม และในเกมนี้ไม่ได้สนับสนุนให้ทำสงครามอย่างเดียว และเราอาจจะชนะโดยไม่ต้องทำสงครามเลยก็ได้ ที่สำคัญคือการทำสงครามล้วนแต่มีราคาที่ตามมา
เกมนี้สะท้อนถึงความสุขของประชาชนที่จะส่งผลต่อผลผลิตประเทศที่แย่ตามไปด้วยหากเอาแต่ทำสงคราม รวมถึงภาพลักษณ์ของผู้นำในสายตาประเทศอื่นๆ ก็จะตกต่ำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลเสีย ทำให้ผู้ที่ถืออาวุธที่ดีกว่าไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธนั้นหากไม่จำเป็น มีผู้เล่นเกมที่จำนวนมากพยายามท้าทายเกมด้วยการเล่นเกมด้วยการรบที่น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย ดังนั้นเกมนี้สื่อได้ว่าชัยชนะคือความเหนือกว่าไม่จำเป็นต้องมาจากการใช้อาวุธเสมอไป
สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ผู้เขียนมีโอกาสได้เรียนวิชาเลือกเสรี ‘อารยธรรม’ ซึ่งชื่อวิชาภาษาอังกฤษก็คือ ‘civilization’ เป็นวิชาที่คณะไหนๆ ก็เรียนได้ แม้ฟังดูเป็นชื่อวิชาที่น่าเบื่อ แต่เมื่อผู้เขียนเรียนแล้วประทับใจและคิดว่านี่เป็นวิชาที่ทำให้เรารู้จักโลกของเราอย่างแท้จริงว่าสังคมมนุษย์ที่เราอยู่ในทุกวันนี้นั้น แท้จริงแล้วมีเหตุการณ์อะไรมากมายที่เกิดขึ้น ความเจริญ ความสะดวกสบาย ความซับซ้อนหลากหลายอย่างในสังคมล้วนแต่มีที่มา วิทยาศาสตร์ อารยธรรม สังคม การเมือง เศรษฐกิจ สงคราม ภูมิศาสตร์ และสิ่งต่างๆ ล้วนแต่ส่งผลต่อยอดกัน และมีผลต่อการเกิดขึ้นของแต่ละสิ่งจนทำให้สังคมมนุษย์เจริญก้าวหน้าเหมือนทุกวันนี้ การเรียนในคาบอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนชอบ ในคาบเรียนวิชานี้ก็มีคนนั่งหลับเยอะ แต่ผมคิดว่าเกม Civilization ในชื่อเดียวกันที่เป็นดึงให้เนื้อหาบทเรียนมาอยู่ในเกมได้ แม้จะไม่ได้ทั้งหมดแต่ทำให้ดูน่าสนใจและสนุกกว่า
ก่อนจะเขียนบทความนี้ ผู้เขียนได้อ่านรีวิวจากผู้ที่ซื้อในร้านค้าออนไลน์ และหนึ่งในนั้นเป็นผู้ปกครองต่างชาติที่เล่นเกมนี้ไปกับลูกพร้อมกับการใช้สอนอย่างสนุกสนาน ผู้เขียนเลยได้เห็นศักยภาพว่าเกมนี้เป็นสื่อการสอนสำหรับครอบครัวได้เช่นกัน แม้เกมอาจจะฟังดูเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองมองในภาพลบ แต่ในตอนนี้ผู้ปกครอง ‘Gen y’ หรือ ‘Gen z’ ต่างก็เคยเป็นเด็กที่โตมากับการเล่นวิดีโอเกม และหลายๆ คนก็รู้ว่าแม้ว่าตอนเด็กจะเล่นเกม ก็ไม่ได้ทำให้เสียการเรียนเสียอนาคตหากจัดการเวลาอย่างพอดี ซึ่งพวกเขาผ่านจุดนั้นมาแล้ว ดังนั้นคิดว่าผู้ปกครองสมัยใหม่มีจุดร่วมกันระหว่างพ่อแม่และเด็กคือสนุกกับวิดีโอเกมได้เหมือนกัน ผู้ปกครองอาจเคยเล่นเกม Civilization มาตั้งแต่ภาคแรกๆ นอกจากจะกลับมาเล่นภาคใหม่ให้หายคิดถึง แล้วยังอาจชวนลูกเล่นเกมนี้ เพื่อไปใช้เป็นสื่อการสอนที่สนุกไปพร้อมกับลูกๆ ได้
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่บทเรียนของมัธยมศึกษาไทยจะมีส่วนของประวัติศาสตร์โลกค่อนข้างน้อย และหลายๆ คนมองว่าวิชาเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ แต่ที่จริงแล้วความรู้สังคมและประวัติศาสตร์นี้เป็นพื้นฐานที่ดีมากในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสายสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปะศาสตร์ แม้แต่เด็กที่จะเรียนวิทยาศาสตร์ การรู้จักที่มาและบริบทของเทคโนโลยีว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เกิดขึ้นมาโดยมีพื้นฐานจากอะไร จะช่วยให้เห็นความสำคัญรวมถึงการนำไปใช้ของทฤษฎีที่เรียนในภาพกว้างมากขึ้น
ปัญหาหนึ่งอย่างของเกมในสายต่อผู้ปกครองคือ กลัวลูกติด ซึ่งเกมที่สนุกก็ย่อมทำให้อยากเล่นต่อตรงนี้คงเถียงกันไม่ได้ แต่เกม Civilization เป็นระบบ ‘turn’ หรือ ‘ตา’ ซึ่งทำให้หยุดเล่นและบันทึกไว้เพื่อเล่นต่อตอนไหนก็ได้ ผู้ปกครองเลยควบคุมเวลาในการเล่นได้ง่ายกว่าเกมแนวอื่นที่อาจมีการเล่นติดพันที่การต้องหยุดเล่นกะทันหันจะส่งผลให้เสียความก้าวหน้าในเกม นอกจากนี้เนื่องจากเกม Civilization แม้แต่ภาคล่าสุดคือภาค 6 ก็ออกมาหลายปีแล้ว เกมนี้จึงราคาไม่แพง และเล่นได้ในคอมพิวเตอร์ เครื่องเกมปัจจุบันต่างๆ และอุปกรณ์แท็บเล็ตแทบทุกประเภท จึงไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อเล่นเกมนี้
นอกจากนี้เกมนี้เป็นภาษาอังกฤษ และเป็นสื่อการสอนภาษาที่ดีได้ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของตัวละคร เนื้อหาของเทคโนโลยีต่างๆ และวรรณกรรมที่แทรกเข้ามาทำให้ได้อ่านภาษาอังกฤษรูปแบบหลากหลาย แต่หากผู้เล่นยังพบว่าภาษาในเกมยังยากเกินไป ผู้เล่นอาจดาวน์โหลด ‘mod’ หรือการปรับแต่งเกมจากคนไทยที่แปลเกมทั้งหมดออกมาเป็นภาษาไทยสำหรับคนที่สนใจเช่นกัน
เด็กยุคใหม่เกิดมาในยุคที่มีสื่อล้นหลามทั้งสื่อบันเทิงและสื่อสาระ บางครั้งเยอะเกินไปจนหาเวลาเสพสื่อเหล่านั้นแทบไม่หมด แต่คงจะดีหากสื่อบันเทิงและสาระเป็นสื่อเดียวกันได้ เพื่อให้ใช้เวลากับสื่อเหล่านั้นและได้ทั้งความรู้และความสนุก
นอกจากเกม Civilization ผมคิดว่ายังมีเกมหรือสื่อบันเทิงอื่นๆ อีกจำนวนมากที่เป็นสื่อการสอนที่ดีสำหรับเด็ก และพ่อแม่ยุคใหม่นี่แหละครับที่จะได้เปรียบเพราะเติบโตมาพร้อมสื่อเหล่านี้เช่นกัน หากพ่อแม่หรือครูท่านไหนอยากมอบสาระให้เด็กๆ มาลองคิดกันนะครับว่าตอนเราเด็กๆ เราชอบสื่ออะไรบ้าง และสื่อนั้นให้สาระอะไรกับเราได้บ้าง ท่านอาจจะได้พบกับสื่อดีๆ ที่ทำให้ท่านและลูกสนุกและได้สาระไปพร้อมๆ กันอีกมากก็ได้ครับ