Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Voice of New Gen
3 October 2019

#SCHOOLSTRIKE 4 เหตุผลที่คนรุ่นใหม่ไม่ทนกับโลกร้อน

เรื่อง

  • #SchoolStrike คือแฮชแท็กจากคนรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมทนกับสถานการณ์ ลุกขึ้นมาเรียกร้องและเคลื่อนไหว และอธิบายว่าภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
  • เพราะอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นส่งผลกระทบหลายด้าน เช่น ทำให้โรคที่หายไปแล้วกลับมา, ทำลายการสังเคราะห์แสงของพืช, สัตว์น้อยใหญ่จะค่อยๆ สูญพันธุ์, จำนวนผู้อพยพเพิ่มขึ้น แต่ที่อยู่อาศัยน้อย
เรียบเรียง: นลินี มาลีญากุล

“มันขึ้นกับว่าคุณอ่านการศึกษาเรื่องใด ซึ่งงานชิ้นนั้นอาจให้ผลสรุปที่มองโลกในแง่ดีเกินไป หรือมองโลกในแง่ร้ายเกินไป”

มาร์ค เออร์เบิน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยคอนเนคติคัต กล่าวถึงปรากฏการณ์ที่หลายฝ่ายหันมาศึกษาภาวะโลกร้อนกันอย่างแพร่หลายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะเขาเชื่อว่า ต่างฝ่ายต่างต้องการให้ผลการศึกษาไปตรงกับประเด็นที่กลุ่มองค์กรนั้นๆ จะหาประโยชน์ได้จากมัน ดังนั้นโลกร้อนจึงควรถูกทำความเข้าใจใหม่ เพื่อให้ผู้คนกลับมามองมันจากความจริงที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด 

ท่ามกลางเสียงเล็กเสียงน้อยที่ธรรมชาติทั่วโลกแอกชั่นให้เราเห็นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีคนตั้งแง่ต่อขบวนการเคลื่อนไหวกู้โลกร้อนของเยาวชนทั่วโลกให้เห็นกันอยู่ บ้างก็ว่าเรื่องนี้มันพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้มากน้อยแค่ไหน เอาเวลาไปเรียนให้ดีก่อนดีกว่าไหม โลกร้อนแล้วยังไงต่อ?

สถิติต่างๆ ที่แม้แต่ เกรตา ธุนเบิร์ก นักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมชาวสวีดิชวัย 16 ปี เอามาพูดก็ยังดูจับต้องได้ยาก บวกกับความจำเป็นเร่งด่วนอื่นๆ ในชีวิตของผู้คน จึงไม่แปลกที่โลกร้อนจะไม่ใช่เรื่องสำคัญ หลายคนบอกว่ามันเป็นปัญหาที่รอได้ ท่ามกลางความจำเป็นอื่นที่ต้องจัดการในชีวิต ขอโฟกัสเรื่องอื่นที่ใกล้ตัวและจำเป็นก่อน 

แต่เดี๋ยวก่อน พฤติกรรมเก็บเล็กผสมน้อยในชีวิตประจำวันของพวกเรานี่แหละ ที่รวมก้อนกันแล้วอาจจะยิ่งใหญ่มหาศาล รู้ตัวอีกทีโลกก็ปะทุพลังร้อนจนอยู่ไม่ไหว สำคัญที่สุด นี่คือ 4 เหตุผล (อย่างน้อย) ที่อธิบายว่าทำไมโลกร้อนจึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และมันส่งผลกระทบต่อเราในระดับชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง ที่สำคัญคือ ส่งผลต่อคนรุ่นใหม่ที่จะอยู่ในโลกร้อนๆ ใบนี้ต่อในอนาคต

เป็นเหตุผลว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงไม่ยอมทน ขอลุกขึ้นมา #SchoolStrike ในทุกๆ #Friday 

อ้างอิงจากอินสตาแกรม เกรตา ธุนเบิร์ก จำนวนผู้คนที่ออกมา #SchoolStrike ในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ประเมินว่าอยู่ที่ราว 170,000 คน จาก 170 ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่ในจำนวนนั้นคือ…คนรุ่นใหม่ 

โลกร้อนเพาะเชื้อโรคติดต่อชนิดใหม่ และรีเทิร์นโรคที่หายไปนาน

อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วยส่งเสริมให้เจ้าเชื้อโรคต่างๆ ฟักตัวและเติบโตได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นนอกจากโลกร้อนจะนำพาให้โรคหลายชนิดที่เคยหายไปจากประเทศไทยกลับมาโลดเต้นและระบาดเป็นวงกว้างอีกครั้งในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้โลกร้อนยังอาจทำให้โรคที่รุนแรงอยู่แล้วแพร่ระบาดไปได้ไกลกว่าเดิมอีกด้วย 

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดข้อมูลจากการเฝ้าระวังโรคของสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยและพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีโรคที่เกิดขึ้นใหม่และโรคที่หายไปนาน แต่อยู่ๆ ก็เกิดซ้ำขึ้นมาอีกหลายชนิด 

  • โรคที่เกิดขึ้นมาบ้างแล้ว เช่น โรคไข้กาฬหลังแอ่น โรคไข้เลือดออก อีโบลา โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์และเฮนดรา โรคไข้หวัดนก โรคไข้เหลือง โรคชิคุนกุนยา โรคมือเท้าปากจากเชื้อเอาเทอโรไวรัส 71 โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) รวมถึงโรคสมองเสื่อมชนิดใหม่ด้วย 
  • โรคที่เกิดขึ้นและกำลังระบาดในประเทศไทยก็คือ โรคติดเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส ซูอิส หรือพูดให้เห็นภาพก็คือ อาการติดเชื้อในกระแสเลือด รวมถึงเยื้อหุ้มสมอง ที่พบได้จากการรับประทานเนื้อหมูนั่นเอง

ยังมีโรคที่ชื่อพอจะคุ้นหูอยู่บ้างอย่าง โรคไข้หวัดนก โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจเฉียบพลันรุนแรงอีกด้วย

นอกจากนั้น ภาวะโลกร้อนยังส่งผลโดยตรงต่อวงจรชีวิตของยุงทั้งหลาย เพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้วงจรชีวิตของยุงสปีดเร็วขึ้น ดังนั้นปริมาณเชื้อโรคในตัวยุงที่เป็นพาหะก็จะเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวกระโดดเรื่อยๆ ส่งผลให้เจ้ายุงตัวเล็กๆ นี้ยิ่งแทรกซึมไปได้ทุกที่ยิ่งกว่าเดิม เพิ่มเติมคือโรคระบาดจากยุงจะไม่ได้เกิดแค่เฉพาะในฤดูฝนเท่านั้น แต่เกิดขึ้นได้ในทุกฤดูกาล เพราะอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ นี้เองที่ยิ่งทำให้โลกเป็นพื้นที่อุ่นๆ สำหรับการขยายพันธุ์ของยุงตัวน้อยนี้ไปได้เรื่อยๆ 

ภัยพิบัติหนักขึ้น อุณหภูมิสูงทำลายการสังเคราะห์แสงของพืช ซึ่งหมายถึงโภชนาการอาจลดลง

น้ำท่วมอุบลอาจจะเป็นแค่จุดสตาร์ทที่ทำให้เราเริ่มเอะใจ แต่จากตัวเลขของศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตรพบว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2560 นั้น สร้างความเสียหายให้ภาคการเกษตรของประเทศไม่ต่ำกว่า 14,198.21 ล้านบาท

หากนำตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) มาพูดต่อน่าจะไกลตัวไปนิด เรื่องของเรื่องก็คือ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ พบว่า ความแปรปรวนของภูมิอากาศทั้งหมดนี้จะทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญภัยพิบัติ เช่น ภาวะน้ำท่วม ภาวะฝนแล้ง

ที่สำคัญคือ หากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ข้าวกำลังออกดอก ทั้งหมดจะกระทบต่อกระบวนการสังเคราะห์แสงและการเจริญเติบโตของต้นข้าว และแน่นอน ผลผลิตที่ได้ก็จะลดลงตามไปด้วย

อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นยังมีผลต่อการเติบโตและอยู่รอดของพืชการเกษตรที่จำเป็นสำหรับประเทศไทย อย่าง ข้าวโพด และอ้อย ซึ่งนำไปแปรรูปเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์อย่าง ไก่ หมู หรือวัวอีกที

ย้อนกลับไปที่ความรู้วิทยาศาสตร์สมัยประถม ว่ากันง่ายๆ ก็คือ หากพืชไม่สังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างอาหารของพืชพรรณ ก็จะทำให้การเติบโตชะลอตัวหรือหยุดชะงัก พืชไปต่อไม่ได้ การเกษตรทำได้ยากขึ้นทุกวัน เกษตรกรต้องพบกับความไม่แน่นอนในการประกอบอาชีพ คิดในแง่ดีก็คือ ไทยอาจจะต้องเสียเงินนำเข้าผลผลิตการเกษตรที่จำเป็นมากขึ้น ซึ่งประเทศที่เรานำเข้าทั้งหลายนี้ก็น่าจะประสบภัยธรรมชาติไม่ต่างกัน ในที่นี้ เด็ดดอกไม้อาจจะไม่สะเทือนถึงดวงดาว แต่อุณหภูมิไม่กี่องศานั้นสะเทือนถึงปากท้องทุกคำที่เราตักกิน

หากอุณหภูมิเพิ่มสูงอีก 4.5 องศา สัตว์น้อยใหญ่จะค่อยๆ สูญพันธุ์อย่างต่อเนื่อง

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ทางการออสเตรเลียออกมาประกาศการสูญพันธุ์อย่างเป็นทางการของ หนูเมโลมีส์ ซึ่งมีถิ่นที่อยู่อาศัยเพียงแห่งเดียวบนเกาะทรายขนาดเล็กที่ชื่อ แบรมเล เคย์ ที่น้ำทะเลสูงขึ้นและเข้าท่วมจนหนูเหล่านี้ไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เจ้าหนูที่ว่าจึงกลายเป็นสัตว์ชนิดแรกที่สูญพันธุ์อันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน

การสูญพันธุ์ที่ว่าสอดคล้องกันกับรายงานของมหาวิทยาลัย Jams Cook และองค์กรภาครัฐที่ทำงานร่วมกัน ที่ว่าพื้นที่ 35 แห่งสำคัญทั่วโลกที่มีความโดดเด่นในเชิงระบบนิเวศและเป็นที่อยู่อาศัยทางธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ซึ่งรวมถึงพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงของเราเอาไว้ด้วยนั้น หากอุณหภูมิโลกยังคงสูงขึ้นอีกเพียง 4.5 องศาเซลเซียส ก็อาจจะทำให้เกือบ 50% ของสายพันธุ์สัตว์ที่อาศัยตามธรรมชาติสูญพันธุ์ไปเรื่อยๆ 

พอพูดว่าสัตว์ป่าขึ้นมาก็อาจจะไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่อย่าลืมว่าสัตว์ทุกตัวนั้นมีผลต่อระบบนิเวศโดยรวม และที่แน่ๆ สัตว์ท้องถิ่นที่ว่า ก็หมายรวมถึงกุ้ง หอย ปู ปลา ที่อยู่ตามธรรมชาติและเป็นอาหารของเราๆ ท่านๆ 

โลกร้อนยังอาจกระทบต่อการขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำ ซึ่งเจ้าสัตว์น้ำที่ว่านั่นก็รวมถึงแซลมอน ปลาทูไทย หรืออื่นๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูที่เราโปรดปรานกันมาแต่ไหนแต่ไร 

ผู้อพยพทั่วโลกจะเพิ่มมากขึ้น และที่อยู่อาศัยก็จะน้อยลงเรื่อยๆ

โลกร้อนดูไม่น่าเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องผู้อพยพ แต่จากตัวเลขในรายงาน UN Climate Change ชี้ให้เห็นกันชัดๆ ว่า มีประชากรกว่า 17.2 ล้านคนทั่วโลกที่เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของแหล่งที่อยู่อาศัย อันเนื่องมาจากความปั่นป่วนของสภาพอากาศที่ทำให้ถิ่นที่อยู่เกิดภัยแล้ง น้ำท่วม พายุเข้า แหล่งอาหารหดหาย สภาพความเป็นอยู่ก็เลยย่ำแย่ตามไปด้วย

ซึ่งทั้งหมดนั้นผลักให้ประชากรหลายล้านคนต้องละทิ้งถิ่นฐาน เพื่ออพยพไปสู่แผ่นดินอื่นๆ ที่ยังพอจะฝากเนื้อฝากตัวไว้ได้

จากการคาดการณ์ของ ​UN ยังพบว่า หากน้ำทะเลยังคงเพิ่มระดับสูงขึ้น ผู้คนที่อาศัยในถิ่นฐานที่ใกล้กับภาคผิวน้ำก็อาจจะต้องกระชับพื้นที่เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะแผ่นดินที่เคยอยู่มาหลายชั่วคนนั้นไม่สามารถเดินเหินได้อีกต่อไป

ลองมองกลับมายังประเทศไทย เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่อีสาน โดยเฉพาะในจังหวัดอุบลราชธานีที่เกิดขึ้นไม่นานนี้นั้น น่าจะพอทำให้เห็นภาพความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะจู่โจมเราเมื่อไหร่ เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน ความไม่แน่นอนเหล่านี้นี่แหละที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้ผู้คนค่อยๆ มองหาถิ่นฐานที่ดูจะมั่นคงกว่าในที่สุด

อ้างอิง
315 billion-tonne iceberg breaks off Antarctica
สัตว์ชนิดใดมีโอกาสสูญพันธุ์เพราะสภาวะโลกร้อน
โรคติดเชื้อสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส (STREPTOCOCCUS SUIS)
โลกร้อนกับโรคระบาด
ภาวะโลกร้อนกับผลกระทบ ต่อภาคเกษตรไทย
เมื่อพื้นที่ ‘เกษตรกรรมผลิตอาหาร’ ถูก ‘ภาวะโลกร้อน’ เล่นงาน
Climate change, global agriculture and regional vulnerability
The impacts of climate change at 1.5C, 2C and beyond
Ten Grim Climate Scenarios If Global Temperatures Rise Above 1.5 Degrees Celsius
The facts: How climate change affects people living in poverty
Climate change: Where we are in seven charts and what you can do to help

Tags:

สิ่งแวดล้อมSchool Strike for Climate

Author:

Related Posts

  • Social Issues
    ความกังวลเรื่องภูมิอากาศกับการวางแผนครอบครัว เมื่อการไม่มีลูกคือหนึ่งในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

    เรื่อง

  • Voice of New Gen
    TEDXYOUTH 2019 #NOW PLAYING: ตัวแทนเสียงเด็กไทยที่ไม่ถูก PAUSE

    เรื่อง ณิชากร ศรีเพชรดี

  • Voice of New Gen
    หนูไม่ใช่ เกรตา ธุนเบิร์ก หนูชื่อ ‘ลิลลี่’ ระริน สถิตธนาสาร

    เรื่อง ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ

  • Voice of New Gen
    FRIDAYS FOR FUTURE: ผู้ใหญ่หายไปไหน ให้เด็กมากู้โลกร้อน

    เรื่อง

  • SpaceCreative learning
    โรงเรียนธรรมชาติ: ธรรมชาติคือครูที่สุดยอด เด็กๆ ต้อง ‘ปลอดสายตา’ พ่อแม่บ้าง

    เรื่อง เกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ ภาพ บัว คำดี

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel