Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Transformative learningSocial Issues
10 June 2025

ขับเคลื่อนการศึกษาคุณภาพ ปั้นสมรรถนะ ‘เด็กตงห่อ’ สานต่ออนาคตของภูเก็ต

เรื่อง กนกพิชญ์ อุ่นคง

  • ‘เด็กตงห่อ’ (忠厚) คุณลักษณะของเยาวชนที่คนภูเก็ตภูมิใจ ซึ่งในภาษาจีนหมายถึง ‘คนดีรอบด้าน’ ที่ครอบคลุมทั้งในมิติของความดี ความเก่ง และความสุข โดยมีบริบทของวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความหลากหลายทางอัตลักษณ์เป็นจุดตั้งต้นของการเรียนรู้
  • ภาพรวมของคำนิยาม ‘เด็กตงห่อ’ คือต้องการให้เด็กๆ มีทักษะที่จำเป็นต่อโลกยุคใหม่ เป็นทั้งคนดีรอบด้าน เป็นพลเมืองและพลโลกที่มีสมรรถนะ สามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและธรรมชาติได้ 
  • ในการพัฒนา ‘เด็กตงห่อ’ ให้มีทั้งความรู้ ทักษะ และคุณธรรมที่เหมาะสมกับโลกยุคใหม่ การดำเนินงานไม่เพียงแต่เน้นการจัดการเรียนรู้ภายในโรงเรียน แต่ยังครอบคลุมถึงการสร้างพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับภาคีเครือข่ายทุกฝ่าย เพื่อหนุนเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ชีวิตจริงภายใต้บริบทพื้นที่

“จุดเริ่มต้นคือ อยากให้เด็กทุกคนในพื้นที่ได้รับการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ”

อาจารย์แบงค์-สิทธิชัย อินทรมณเฑียร มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถอดประสบการณ์โครงการ TSQM-A จังหวัดศรีสะเกษและภูเก็ต เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 สะท้อนหลักคิดสำคัญของโครงการขับเคลื่อนโรงเรียนพัฒนาตนเองเชิงพื้นที่ TSQM-A (Transformative Self-Quality Management for Area-based Education) 

สำหรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ภูเก็ต เริ่มจากการระดมความคิดร่วมกันของภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อหาคำตอบว่าเด็กแบบไหนที่ภูเก็ตต้องการ และการศึกษาแบบใดที่จะเหมาะสมกับภูเก็ตในปัจจุบันและอนาคต

กระบวนการนี้นำไปสู่การออกแบบแนวทางการพัฒนาเยาวชนที่เชื่อมโยงกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมและค่านิยมดั้งเดิมของพื้นที่ กำหนดออกมาเป็นคุณลักษณะของเยาวชนที่คนภูเก็ตภูมิใจ นั่นคือ ‘เด็กตงห่อ’ (忠厚) ซึ่งในภาษาจีนหมายถึง ‘คนดีรอบด้าน’ ที่ครอบคลุมทั้งในมิติของความดี ความเก่ง และความสุข โดยมีบริบทของวิถีชีวิต วัฒนธรรม และความหลากหลายทางอัตลักษณ์เป็นจุดตั้งต้นของการเรียนรู้

ความคาดหวังนี้เป็นแกนกลางที่เชื่อมโยงกระบวนการออกแบบหลักสูตร พัฒนาสมรรถนะ และสร้างการเรียนรู้ที่มีความหมายต่อชีวิต สะท้อนถึงความพยายามของภูเก็ตในการปรับการศึกษาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้งเผชิญกับความท้าทายที่มาจากความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาและปัญหาการโยกย้ายบุคลากร เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา และสร้างคนที่สามารถรับมือกับโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นคง

อาจารย์แบงค์-สิทธิชัย อินทรมณเฑียร มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

‘เด็กตงห่อ’ ความคาดหวังและอนาคตของภูเก็ต

เนื่องจากภูเก็ตเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ทั้งในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ภายใต้โครงการ TSQM-A จังหวัดจึงให้ความสำคัญกับการรักษาอัตลักษณ์ดั้งเดิมควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพเยาวชนเพื่อตอบโจทย์พื้นที่ โดยเลือกหยิบยกคาแรกเตอร์ ‘เด็กตงห่อ’ มาใช้ในการกำหนดทิศทางการออกแบบการเรียนรู้และขับเคลื่อนการศึกษาของจังหวัด

คำว่า ‘ตงห่อ’ มาจากภาษาจีน หมายถึง ‘คนดีรอบด้าน’ โดยคุณลักษณะของเด็กตงห่อสัมพันธ์กับคุณค่าหลักที่คนเชื้อสายจีนในภูเก็ตยึดถือมาตั้งแต่อดีต นั่นคือความกตัญญู รับผิดชอบ และซื่อสัตย์ ซึ่งเด็กตงห่อที่ถูกปัดฝุ่นมาเป็นภาพฝันของคนภูเก็ต คือเด็กที่เติบโตขึ้นมาเป็นคนดีรอบด้าน และยังสามารถรักษาอัตลักษณ์ดั้งเดิมไว้ได้แม้อยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง

“ด้วยสภาพสิ่งแวดล้อมและสังคมรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงไป เป้าหมายของจังหวัดเราจึงอยู่ที่การทำอย่างไรให้เด็กๆ สามารถปรับตัวและอยู่รอดได้ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้

โดยภาพรวมของคำนิยาม ‘เด็กตงห่อ’ คือเราต้องการให้เด็กๆ มีทักษะที่จำเป็นต่อโลกยุคใหม่ เป็นทั้งคนดีรอบด้าน เป็นพลเมืองและพลโลกที่มีสมรรถนะ สามารถสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและธรรมชาติได้ ทำอย่างไรให้เด็กไม่หลงลืมอันตรายรอบตัว

และเราก็มีความเชื่อว่าหากภูเก็ตเติบโตงอกงามขึ้นในอนาคต และมีการลงทุนจากต่างชาติ เด็กๆ เหล่านี้ก็จะสามารถอยู่ได้ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง แต่ยังคงไม่ลืมรากเหง้าและวิถีชีวิตเดิม ที่สำคัญคือ ไม่หลงลืมพื้นที่หรือถิ่นกำเนิดของตนเอง

ดังนั้น ในฐานะของคุณครูหรือผู้นำการศึกษาของจังหวัด เราจึงต้องกำหนดทิศทางอย่างชัดเจน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้าง ‘กรอบสมรรถนะ’ สำหรับเด็กภูเก็ต ซึ่งเป็นแนวทางในระดับสากล (worldwide) และเป็นสมรรถนะที่เชื่อมั่นได้ว่า หากเด็กๆ คนหนึ่งสามารถสร้างและพัฒนาจิตใจตนเองได้ พวกเขาก็จะสามารถอยู่รอดได้ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และจังหวัดภูเก็ตเราเลยพยายามที่จะเอาคาแรกเตอร์เหล่านั้นมาใส่ให้เด็ก เพื่อให้เด็กสร้างสมรรถนะขึ้นมาครับ” อาจารย์แบงค์อธิบาย

กำหนดตัวชี้วัด ติดตั้งสมรรถนะ พัฒนาเด็กภูเก็ตเต็มศักยภาพ

จากโจทย์การสร้าง ‘เด็กตงห่อ’ จังหวัดภูเก็ตได้ระดมความคิดจากหลายภาคส่วน ทั้งบุคลากรทางการศึกษา ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ในการกำหนดตัวชี้วัดสมรรถนะอย่างชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางให้ครูสามารถนำไปใช้ขยายความ ออกแบบ และกำหนดเป้าหมายของโรงเรียน เพื่อพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของพื้นที่

“โจทย์แรกมาจากภาคเอกชน ที่ตั้งคำถามว่า เอกชนต้องการเด็กลักษณะแบบไหนบ้าง ซึ่งเราก็ได้นำความต้องการเหล่านี้มาผ่านกระบวนการ เพื่อให้ได้ความชัดเจนยิ่งขึ้นจากความต้องการของคนในจังหวัด เพราะเรามีความเชื่อว่า หากเด็กๆ ได้รับการติดตั้งสมรรถนะเหล่านี้ พวกเขาจะสามารถอยู่รอดและประสบความสำเร็จได้”

โดยสมรรถนะในการเป็นเด็กตงห่อ มี 7 ประการ ได้แก่ สมรรถนะการคิดและการเรียนรู้, สมรรถนะทางวัฒนธรรม มีปฏิสัมพันธ์และการแสดงตัวตน, สมรรถนะการจัดการตนเองและดูแลผู้อื่น, ทักษะการสื่อสารรอบด้าน, สมรรถนะดิจิทัล, สมรรถนะการมีส่วนร่วม การมีบทบาทผลักดัน และการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน,ทักษะชีวิตการทำงานและทักษะผู้ประกอบการ

จากนั้นจึงลงลึกให้กลายเป็นบุคลิกที่สำคัญ 12 เรื่องของ ‘เด็กตงห่อ’ ที่ทุกคนอยากให้เด็กมี ได้แก่

  1. Active Citizen + Self Directed การรู้ตัวว่าต้องทำอะไร รับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่น สังคม และสิ่งแวดล้อม
  2. Teamwork การทำงานเป็นทีมและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
  3. เข้าใจรากเหง้าของจังหวัดภูเก็ต (สังคม วัฒนธรรม ภูมิปัญญา) มีความกตัญญู สามารถสื่อสารได้อย่างภาคภูมิใจและสืบทอดให้คงอยู่ต่อไปได้อย่างยั่งยืน
  4. Multiliteracy ความสามารถในการใช้ภาษาในการสื่อสาร และทำให้ผู้อื่นเข้าใจได้ โดยสามารถเลือกใช้วิธีการสื่อสารได้เหมาะสม ผู้รับสาร (เช่น ภาษา วิธีการ แพลตฟอร์ม)
  5. ความสามารถในการปรับตัว ให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่หลากหลาย พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย
  6. Empathy เข้าใจมุมมอง หรือความรู้สึกผู้อื่น เอาใจใส่เพื่อช่วยเหลือหรือมีส่วนร่วม
  7. การเคารพ ยอมรับในความแตกต่าง และรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างของผู้อื่น
  8. Self Esteem มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เห็นคุณค่าของตัวเอง มีความกล้าในการคิดและแสดงออกได้อย่างเหมาะสม (กล้าคิด กล้าทำ)
  9. Higher Order Thinking สมรรถนะการคิดขั้นสูง การคิดวิเคราะห์ คิดแก้ปัญหา และคิดสร้างสรรค์
  10. Digital Literacy มีทักษะการเป็นผู้นำและการสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่สำคัญเชิงประจักษ์ในการวางแผน
  11. Learning How to Learn ทักษะการเรียนรู้ที่จะเรียนรู้ สามารถประเมินตัวเองได้ว่าอะไรไม่รู้ และรู้ว่าจะไปหาความรู้ได้อย่างไร
  12. Self-heart Honest มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น

โดยกลไกหรือกระบวนการทำงานของภูเก็ต พยายามที่จะฝังระบบและกลไกเหล่านี้เข้าไปในการพัฒนาเด็ก หรือผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน โดยเน้นผู้เรียนควบคู่ไปกับการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

“เราจึงเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ฐานทุน ซึ่งจุดเด่นของภูเก็ตคือทรัพยากรที่มีความอุดมสมบูรณ์ หน่วยงานสนับสนุนที่เข้มแข็ง และทีมงาน core team ด้านวิชาการที่มีความแข็งแกร่ง ดังนั้น เราจึงพยายามนำแผนของทุกหน่วยงานต้นสังกัดมาคลี่ออกและบูรณาการเข้าด้วยกัน โดยมุ่งเน้นผลลัพธ์ที่ตัวเด็ก หรือการพัฒนาตัวเด็กเป็นเป้าหมายหลัก ส่วนการพัฒนาพื้นที่จะตามมาเอง” อาจารย์แบงค์ เล่า

กลไกขับเคลื่อน บูรณาการความร่วมมือ สู่ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน

เพื่อพัฒนาเด็กในจังหวัดภูเก็ตให้เป็นคนดีรอบด้าน ภูเก็ตได้พัฒนากลไกและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนกระบวนการทำงานของภาคการศึกษา โดยการขับเคลื่อนนี้ได้รับการสนับสนุนจาก คณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดภูเก็ต โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ

“เรามีโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TSQP, TSQM หรือแม้กระทั่ง Core team ที่เกิดขึ้น รวมถึง บพท. (หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่) เอง ต่างก็ถือเป็นกลไกสำคัญที่ใช้กรอบวิจัยในการขับเคลื่อนหรือพัฒนาพื้นที่ 

ภูเก็ตมี ‘Phuket Education Sandbox’ พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาที่พยายามขับเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งโครงการและหน่วยงานต้นสังกัดต่างๆ ที่เราเชื่อมโยงกันนี้ ล้วนมุ่งเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือ ‘เด็ก’ 

และนอกจากนี้ยังมี โครงการครูรักษ์ถิ่น ซึ่งเป็นทรัพยากรคนหรือครูในพื้นที่ที่ถูกนำมาเชื่อมโยงกัน ถือเป็นทุนเดิมของจังหวัดภูเก็ตที่เราพยายามขับเคลื่อนให้เกิดความเข้มแข็ง และต่อเนื่องไปยังการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมครับ”

การดำเนินงานเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในพื้นที่ภูเก็ต ถูกออกแบบและขับเคลื่อนในหลายระดับ โดยเฉพาะในระดับ Meso ซึ่งเป็นระดับที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการมีส่วนร่วม เครื่องมือหลักที่ใช้ในการขับเคลื่อนคือ Developmental Evaluation (DE)

“เรามีการทบทวนแผน การวางแผน หรือการเชื่อมโยงวงของการปฏิบัติ กระบวนการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้คนในพื้นที่ เกิดเครือข่ายต่างๆ และความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งเวทีการสะท้อนความคิดเห็นและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดโจทย์หรือเจ้าของโจทย์ร่วมกันในการพัฒนาเด็ก หรือจังหวัดในด้านการศึกษา และที่สำคัญที่สุดคือ การเกิดขึ้นของ Core Team ซึ่งทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนกระบวนการทั้งหมด นี่คือบรรยากาศหรือองค์ประกอบที่เกิดขึ้นในวง DE ทั้งในระดับจังหวัดและโรงเรียน

อีกประเด็นหนึ่งคือ Education Forum ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โดยดึงการมีส่วนร่วมจากทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และผู้ปกครองที่เข้ามาร่วมดูแลบุตรหลานหรือเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุน ซึ่งการมีส่วนร่วมนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ เป็นการบูรณาการกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา

นอกจากนี้ยังมี Online PLC Coaching ซึ่งเป็นการพัฒนาผ่านกระบวนการเรียนรู้ร่วมแบบออนไลน์ ทำให้เราได้เห็นมุมมองว่าพื้นที่ของเรามีความสามารถและทำอะไรได้ดีในมิติที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เป็นการถอดบทเรียนร่วมกัน ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ดังนั้นเราจะเห็นว่าในวงรอบนี้ กิจกรรมที่ดึงการมีส่วนร่วมของคนเกิดขึ้นได้เพราะเราอาศัยทั้งเครื่องมือสนับสนุน กิจกรรมจากโครงการต่างๆ รวมถึงการทำงานของ Core Team หรือบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ ทำให้เกิดกลไกการทำงานร่วมกันที่ขยับไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง”

ในขณะที่ ระดับ Micro ได้มีการดำเนินงานโดยเริ่มต้นจากการใช้ TSQP ที่มุ่งเข้าไปทำงานภายในโรงเรียน พร้อมทั้งพยายามลดช่องว่างระหว่างโรงเรียนกับพื้นที่โดยรอบ กระบวนการในระดับนี้มุ่งเน้นการใช้เครื่องมือและแนวคิดที่ชัดเจนเพื่อพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ตามหลักการ Whole School Approach ซึ่งครอบคลุมทั้งการพัฒนาโครงสร้างและกระบวนการเรียนรู้ รวมไปถึงการพัฒนาผู้เรียนให้เห็นคุณค่าในชีวิตจริง โรงเรียนในพื้นที่จึงไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เรียนรู้ตามหลักสูตร แต่ยังเชื่อมโยงกับชุมชน ภาคีเครือข่าย และผู้ปกครอง

เครื่องมือหลักที่นำมาใช้ในระดับนี้ ได้แก่ Online PLC และ PLC-LS ซึ่งมุ่งเน้นการออกแบบบทเรียนที่ตอบโจทย์ชีวิตจริงของผู้เรียน เปลี่ยนบทเรียนแบบเดิมให้กลายเป็น ‘ห้องเรียนมีชีวิต’ ตัวอย่างเช่น VASK-PBL ที่นำธีมของชุมชนเข้ามาออกแบบโจทย์การเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าในตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัว พร้อมทั้งพัฒนาทักษะและสมรรถนะชีวิตที่จำเป็นสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการใช้ระบบ Q-Info เป็นกลไกสำคัญในการดูแลและช่วยเหลือนักเรียน ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อย ได้แก่ Q-Goal, Q-PLC, Q-Info, Q-Classroom, และ Q-Network ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ

ถอดบทเรียนที่ผ่านมา เดินหน้าต่อสู่การวัดประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ

การพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ในจังหวัดภูเก็ตมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลลัพธ์ที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนา ‘เด็กตงห่อ’ ให้มีทั้งความรู้ ทักษะ และคุณธรรมที่เหมาะสมกับโลกยุคใหม่ การดำเนินงานไม่เพียงแต่เน้นการจัดการเรียนรู้ภายในโรงเรียน แต่ยังครอบคลุมถึงการสร้างพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับภาคีเครือข่ายทุกฝ่าย เพื่อหนุนเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ชีวิตจริงภายใต้บริบทพื้นที่

“สิ่งที่เรากำลังพยายามขับเคลื่อน และจะเดินหน้าต่อไปนั้น เกิดขึ้นจากการถอดบทเรียนและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสร้างการมีส่วนร่วม การร่วมกันออกแบบบทเรียน ที่ส่งผลให้เกิดการแบ่งปันทรัพยากรในพื้นที่ หรือแม้กระทั่งการเปิดพื้นที่ให้เด็กได้มีพื้นที่ในการแสดงออกและเรียนรู้อย่างแท้จริง รวมถึงการเรียนรู้ในลักษณะของวงจรปฏิบัติที่เกิดขึ้นผ่านเวทีการสะท้อนบทเรียนร่วมกันในพื้นที่

สิ่งสำคัญก็คือ เราเชื่อมั่นเหลือเกินว่ากระบวนการทั้งหมดที่เราใส่เข้าไปนั้น เด็กได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่สิ่งที่เรากำลังทำต่อ และอยู่ในกระบวนการก็คือ การวัดและประเมินผลลัพธ์ของผู้เรียนในตอนนี้ จังหวัดของเราได้เริ่มออกแบบเครื่องมือวัดและประเมินสมรรถนะของเด็กตงห่อ โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบต้นแบบ และต่อไปคุณครูหรือโรงเรียนจะได้สามารถนำไปปรับใช้และออกแบบให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละโรงเรียนครับ” อาจารย์แบงค์ กล่าวถึงก้าวต่อไปของโครงการ

Tags:

สมรรถนะโรงเรียนพัฒนาตนเองเชิงพื้นที่ (TSQM-A)การพัฒนาคุณภาพการศึกษาเด็กตงห่อคนดีรอบด้าน

Author:

illustrator

กนกพิชญ์ อุ่นคง

A girl who aspires to live like a yacht floating on the ocean, a dandelion fluttering over the heather, a champagne bursting in party.

Related Posts

  • Dek-Hoo-Jak-Kuam_nologo
    Transformative learningSocial Issues
    ‘เด็กฮู้จักควม’ คิดเป็น ทำเป็น เห็นคุณค่าในตัวเอง เป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเชิงพื้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ    

    เรื่อง นฤมล ทับปาน

  • Social Issues
    ไม่ควรมีเด็กคนไหนไร้การศึกษา เชื่อมโอกาสค้นพบศักยภาพด้วยการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นตอบโจทย์ชีวิต  

    เรื่อง The Potential

  • Competency cover
    Social Issues
    เรียนรู้อย่างมีความหมาย-ไร้รอยต่อ สร้างสมรรถนะเด็กไทยพร้อมรับความท้าทายแห่งอนาคต

    เรื่อง นฤมล ทับปาน ภาพ ปริสุทธิ์

  • Social Issue
    ‘4 เรื่องต้องลงทุน’ กับ ‘7 นโยบาย’ สร้างสมรรถนะคนไทยให้เรียนรู้อย่างไร้รอยต่อ: ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์

    เรื่อง The Potential ภาพ ปริสุทธิ์

  • Creative learning
    พาเด็กอนุบาลเรียนรู้ผ่าน ‘งานสวน’ เสริมสมรรถนะการอยู่ร่วมกันและการแก้ปัญหา:  ครูกิม – ภาวิดา แซ่โฮ่ โรงเรียนรุ่งอรุณ

    เรื่อง นฤมล ทับปาน ภาพ ปริสุทธิ์

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel