Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Book
28 December 2020

ส่งท้ายปี 2020 ด้วยหนังสือ 10 เล่ม ที่เหมาะกับการอ่านเพื่อการ ‘มูฟออน’

เรื่อง ขนิษฐา ธรรมปัญญาภัทรอนงค์ สิรีพิพัฒน์

ในปีแสนปั่นป่วน เรามีโอกาสได้รับฟัง พูดคุย และประสบกับเรื่องราวหลากหลายจากเพื่อนๆ รอบตัว และนักอ่านหลายคนที่แวะเวียนมาเจอที่หน้าร้าน (ร้านหนังสือและพื้นที่เรียนรู้ Fathom Bookspace) มาเล่าสู่กันฟัง หลายคนเปลี่ยนงาน บ้างพบความสูญเสีย บางคนเปลี่ยนความสัมพันธ์ รักใคร่ เลิกรา เจอความท้าทายให้ต้องทบทวน พิสูจน์ เผชิญหน้า

ราวกับว่าสถานการณ์วิกฤติจะทำให้สถานการณ์ชีวิตชัดขึ้น สะกิดแรงๆ ให้เราใคร่ครวญ

หนังสือทั้ง 10 เล่มในโพสต์นี้เป็นเหมือนตัวแทนของบทสนทนาเหล่านั้น บางเล่มช่วยให้เรามองเห็นสถานการณ์และตัวเองได้ชัดขึ้น บางเล่มก็พูดกับเราอย่างตรงไปตรงมา บางเล่มไม่ แต่กลับทำให้เราได้ตกตะกอนก้อนขะมุกขมัว บอกเราถึงความรู้สึกที่เราไม่เข้าใจ เชื่อมเราเข้าไปสู่การเปลี่ยนแปลงโลกภายในได้

เราว่าการมูฟออน ไม่ได้มีหน้าตาเป็นเส้นตรง และการหมุนวนก็มีพลังไม่แพ้การพุ่งไปข้างหน้า

การเปลี่ยนผ่านและฤดูกาลมักทำให้เราประหลาดใจ ลมหนาวแรกของฤดู พายุฝนหลังความร้อนแล้ง อากาศร้อนอบอ้าวหลังผ่านค่ำคืน

รับรู้ ดื่มด่ำ ซึมซับ ร่วมมือ เรียนรู้ ไปกับอีกวันที่มาถึง

อ่านหนังสือกันค่ะ 😊

1

“ในการเยียวยาความเศร้า เราต้องยอมให้ตัวเองรู้สึกถึงความเจ็บปวด”

Grief Works: Stories of Life, Death and Surviving : คู่มือหัวใจสลาย
เขียนโดย: Julia Samuel
แปล: วรรธนา วงษ์ฉัตร

คู่มือหัวใจสลาย หนังสือโดยนักจิตบำบัดที่ทำงานกับผู้ที่ผ่านความสูญเสียมากว่า 25 ปี เรื่องเล่าอ่อนโยน และเล่าตรงเข้าไปที่ใจอย่างไม่อ้อมค้อม แม้หนังสือจะมุ่งไปที่คนที่สูญเสียคนรักจากความตาย แต่ความเศร้าและความสูญเสียมีอาณาบริเวณกว้างขวางกว่านั้น แต่ละประโยคและประสบการณ์ที่ร้อยเรียง พาเราเข้าไปสัมผัสตัวเราเอง อาจเป็นความผิดหวังเสียใจตอนเด็กๆ ความคับข้องในวัยรุ่น เหตุการณ์อยากลืม คนที่เราไม่อาจเข้าใจ ความทุกข์อึมครึมที่ไม่รู้จะอธิบายแบบไหน

เป็นหนังสือแบบที่ทำให้รับรู้ความเศร้าอย่างลึกซึ้งกว่าเดิม สบตา ยอมรับ เผชิญหน้า แล้วยอมให้ตัวเองได้เจ็บปวด

และบอกเราว่าสิ่งที่สะท้อนเคียงข้างในความเศร้า คือความรักทั้งของเราและคนที่เรารัก

2

“ในเมื่อมันเป็น love game งั้นเราก็มาเล่นกัน”

ดื่มเหล้าเคล้าชาตรีกับแวมไพร์ในคาบุกิโจ
เขียนโดย: รติพร ชัยปิยะพร

นิยายอ่านเพลินอ่านสนุกจากผู้เขียนที่เรียนมาทางปรัชญา และหลงใหลซับคัลเจอร์ญี่ปุ่น ตัวละคร ‘พอนจัง’ เป็นอีกภาคที่เราอยากเป็นเมื่อตกหลุมรักใครสักคน

เป็นหญิงสาวผู้รู้จักตัวเองดี และยืนยันที่จะ ‘ทำ’ ที่จะ ‘เป็น’ แคร์หรือไม่แคร์สิ่งใดอย่างรู้เนื้อรู้ตัวและไม่หวาดหวั่น

‘ดื่มเหล้าเคล้าชาตรีกับแวมไพร์ในคาบุกิโจ’ บอกกับเราว่า ความสัมพันธ์ขึ้นลง ห่างบ้างใกล้บ้างนั้นเป็นธรรมดาของชีวิต และการยืนหยัดในคุณค่าของตัวเองเป็นอำนาจภายในที่มีค่ายิ่งไม่ว่าในช่วงเวลาไหน หรือต้องผ่านประสบการณ์ใด

เป็นหนังสือที่ท้าทายความรัก ความหลงใหล​ ทำให้เราสำรวจความหมายของความสัมพันธ์ไประหว่างอ่าน ลุ้นไปกับหญิงสาวผู้หลงรักกลางคืนและโฮสต์หนุ่มในคาบุกิโจ

3

“ฉันอยากจะโยนอะไรสักอย่างลงไปในทะเล ฉันรู้สึกว่าจำเป็น”

มือสังหารบอด The Blind Assassin
เขียนโดย: มาร์กาเร็ต แอ๊ตวูด
แปล: นันทพร ปีเลย์ โพธารามิก 

มือสังหารบอดเป็นนิยายเล่มหนาระดับรางวัลของ Margaret Atwood ที่เล่าเรื่องของสองสาวพี่น้องตั้งแต่จุดเริ่มต้นของชีวิตจนถึงวันสุดท้าย

ผู้เขียนเล่าเรื่องผ่านมุมมองหลากหลาย ทั้งจากตัวพี่สาว จากตัวนิยายอีโรติกพิสดารที่น้องสาวเขียน และจากบุคคลอื่น ความรู้สึกและความคิดที่ถูกเล่าอย่างละเอียดลออ เหตุการณ์แล้วเหตุการณ์เล่าที่พลิกผันเปลี่ยนชีวิต แต่ละส่วนเสี้ยวถักร้อยขึ้นมาเป็นสิ่งที่เราเป็น บอกให้ตัวเองเป็น และบอกให้คนอื่นรู้ว่าเป็น

ในความหนา คือความสนุกติดพัน เวลาที่เราไม่ยอมมูฟออนเสียที หนังสือแบบนี้คือสุดยอดแผนที่สำรวจ

4

“อนาคตจะเป็นยังไงก็ไม่รู้นะคะ ขอแค่จัดการตัวเองให้เข้าที่เข้าทางได้ก็พอ ต้องมีทางไปสักทางล่ะ”

ห้องอาหารนกนางนวล (かもめ食堂)
เขียนโดย: มูเระ โยโกะ
แปล: สิริพร คดชาคร

ห้องอาหารนกนางนวล เป็นงานเขียนของ มูเระ โยโกะ ผู้เขียน วันที่เหมาะกับขนมปัง ซุป และแมว หนังสือเล่าถึงผู้หญิงญี่ปุ่น 3 คนที่เดินทางประเทศฟินแลนด์ด้วยเหตุผลต่างๆ กันไป แต่สิ่งที่คล้าย คือ พวกเธอต่างเหมือนนกที่เพิ่งกางปีกบินสู่โลกกว้างจริงๆ เป็นครั้งแรกในวัยที่ใครๆ ต่างมองว่ายากที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่แล้ว

ตัวละครแต่ละตัวเจอกับช่วงเวลาที่ยาก และเลือกเดินออกจากสิ่งที่ฉุดรั้งพวกเธอไว้ มันไม่ง่าย หลายครั้งเป็นไปโดยแทบไม่รู้ตัว แต่ไม่ว่าจะเตรียมใจอย่างไร รู้ตัวแค่ไหน ‘วิกฤต’ นั้นเกิดได้เสมอ และ ‘การเริ่มใหม่’ ก็เช่นกัน

หนังสืออ่านสบายๆ รวดเดียวจบเล่มนี้เคยเป็นภาพยนตร์เมื่อปี ค.ศ. 2006

5

“เราจะเห็นโลกงามได้อย่างไร”

หนึ่งปี•แสง In Darkness We Light – ศิลปะบำบัด อิสรภาพของการค้นพบความมืด สี และแสงภายใน
เขียนโดย: ครูมอส – อนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี

หนึ่งปี • แสง หนังสือของครูมอส – อนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี จิตรกรและนักศิลปะบำบัดที่เล่าถึงศิลปะบำบัดในแนวทางมนุษยปรัชญา โลกที่สีสัน ความมืด จะพาเราไปพบแสงสว่างที่ซ่อนอยู่ภายใน

ในโลกที่มีฤดูกาล ผู้เขียนบอกกับเราว่าหัวใจของมนุษย์ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน เรามีฤดูฟ้าครึ้ม ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูหนาว ฤดูสดใส ที่เปลี่ยนไปอยู่ข้างในตัวเรา ถ้าปีนี้ทำให้ฤดูภายในของเราเปลี่ยนยากกว่าที่เคย ฝน หนาว หรือร้อนแล้ง ติดค้างอยู่ในใจนาน ใช้ปีใหม่นี้ ที่จะทบทวน มองเห็น แล้วปฏิสัมพันธ์กับโลกภายในของเรา

มูฟออนอย่างบทกวี อ่อนโยน ค่อยๆ พลิกเปลี่ยนหน้า หายใจ และให้เวลา

6

“การกวดขันกับตัวเองที่เราเห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขความเป็นมนุษย์นั้น
แท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่ทึกทักขึ้นมาเองหรือเปล่า”

Why Grow up? เติบโตอย่างไรไม่เจ็บปวด
เขียนโดย: Susan Neiman
แปล: โตมร ศุขปรีชา

ถ้าการเติบโตกำลังเป็นความเจ็บปวดและทำให้วิตกกังวล หนังสือเล่มนี้ อาจเปิดประตูบานใหม่ๆ ค่ะ

Susan Neiman พาเราย้อนประวัติศาสตร์ความคิดของบรรดานักปรัชญา ทบทวนการมองโลก การศึกษา คุณค่า และการใช้ชีวิตของเรา ในโลกที่หลายคนอาจรู้สึกว่าไม่เหมาะกับคนยุคเราเอาเสียเลย โดยเฉพาะกับคนอายุประมาณ 20-35 หนังสือเล่มนี้จะช่วยทำให้เห็นว่า ทำไมการเติบโตถึงได้เจ็บปวดนัก และมันมีทางไหนน่าสนใจกว่าที่เรากำลังพยายามกันอยู่อีกไหม

เราต้องโตแค่ไหนกัน การเติบโตเป็นเรื่องเดียวกับการได้รับการยอมรับ เก่ง ดัง ร่ำรวย ฉลาด หรือปรับตัวได้เก่งรึเปล่า?

ขอลงท้ายด้วยประโยคชวนมูฟออน “การเติบโตคือภาวะอุดมคติโดยตัวของมันเอง มันเป็นสิ่งที่แทบไม่อาจบรรลุได้เต็มที่ในตัวเอง แต่กระนั้นก็คุ้มค่าที่จะไขว่คว้าต่อสู้”

7

“ความสุขอันเจิดจรัสไม่อยู่ในสถานการณ์หรือสิ่งใด…เรารู้จริงๆหรือว่าอะไรทำให้เรามีความสุข”

สุขจรัสแสง: คู่มือผู้ใช้งานจิต (Radically Happy: A user’s guide to the mind)
เขียนโดย: พักชก ริมโปเช และ เอร์ริก โซโลมอน
แปล: สายพิณ กุลกนกวรรณ ฮัมดานี

หนังสือพาตั้งหลักกันใหม่ ไม่ว่าจะผ่านอะไรมาในปีนี้ ตอนนี้อาจได้เวลาเติมเครื่องมือให้กับกายใจแล้ว

งานเขียนโดยธรรมาจารย์ชาวธิเบตและผู้บริหารสายเทคในซิลิคอนวัลเลย์ ถึงวิธีการที่เราจะพบกับความอิ่มเอม สงบสุข ในชีวิตทั้งประจำวันและในระยะยาว เล่าง่ายๆ เป็นบทๆ ผ่านประสบการณ์ นิทาน งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ พร้อมแบบฝึกหัด ให้เราได้เริ่มต้นลองบริหารจิต จัดการใจ พบความอิ่มเอมต่อชีวิตได้

สำหรับหลายคน การภาวนาอาจทำให้นึกถึงศาสนาพุทธ หรือรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว ชวนลองเริ่มต้นกับหนังสือเล่มนี้ อ่านเพลิน ตรงไปตรงมา และลึกซึ้ง

8

“เผยให้เห็นโลกในอุดมคติที่เรากำลังสร้าง แสดงให้เห็นว่าโลกเราสามารถเป็นอย่างไรได้
ทำให้โลกนั้นไม่ใช่แค่รู้สึกว่าเป็นไปได้ แต่เป็นสิ่งที่เราไม่อาจหยุดยั้งได้”

คู่มือปลุกปั่นเพื่อสร้างสรรค์: กล่องเครื่องมือเพื่อการปฏิวัติ
เขียนโดย: Andrew Boyd, Dave Oswald Mitchell
แปล: เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล, สรวิสิฐ โตท่าโรง

มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราได้สัมผัสความทุกข์ของคนอื่นมากขึ้น เราจะมูฟออนเป็นวงกลมน้อยลง และในสถานการณ์ทางสังคมช่วงนี้ หนังสือเล่มนี้คืออีกหนึ่งตัวแทนของการมูฟออนเลยค่ะ

คู่มือปลุกปั่นเพื่อสร้างสรรค์ เป็นหนังสือแปลที่นักกิจกรรมทางสังคมหลายคนยกให้เป็นหนังสือในดวงใจ หนังสือเล่าถึงสารพัดวิธีการสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างสันติวิธีจากทั่วโลก เต็มไปด้วยแนวคิดเชิงปรัชญาที่น่าสนใจ มุมมองที่เห็นความเป็นมนุษย์ของคนรอบตัว สนุก ทันสมัย ชวนคุยว่าการเคลื่อนไหวต่างๆ รอบตัวเรานั้นจะเกิดขึ้น สร้างการรับรู้ และสัมฤทธิ์ผลในมิติต่างๆ ได้อย่างไร

เป็นหนังสือพ็อกเกตบุคที่กราฟฟิกจัดเต็ม อ่านง่ายสบายๆ และครอบคลุมทั้งวิธีการ วิธีคิด และความเป็นมนุษย์

ชวนเขยื้อน มูฟไปด้วยกันทั้งสังคม

9

“เหงา ให้ออกกำลังกาย ถึงไม่หายเหงา อย่างน้อยร่างกายเราก็แข็งแรง”

ชายหนุ่มผู้ไม่ทำอะไรเลย
เขียนโดย: องอาจ ชัยชาญชีพ

บันทึกที่ผู้เขียนโปรยไว้ว่าเป็นบันทึกไร้สาระของชีวิต

หนังสือเล่มบางอ่านสบายๆ กับเรื่องราวจิปาถะในเรื่องรอบตัว เล่าถึงความรัก การก้าวข้ามช่วงเวลายากลำบาก ความเหงา ความเจ็วปวด ความห่วงกังวล และอีกหลายเรื่องราวหนักหนา ผ่านเรื่องของแมว รถมอเตอร์ไซค์ การไปซื้อนม การแอบรัก และอื่นๆ ของชายหนุ่มผู้ไม่ทำอะไรเลย

ชายหนุ่มผู้บอกเราอย่างอ่อนโยนว่า ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ ธรรมดาๆ เอนหลัง แล้วก็เงี่ยหูฟัง

10

 “รู้หรือไม่ว่า เวลาเฉลี่ยที่คนเราควรพักผ่อนต่อวันคือ 5 ชั่วโมง”

พักผ่อนศาสตร์ ศาสตร์แห่งการพักให้ได้พัก(อย่างแท้จริง) The art of rest
เขียนโดย: Claudio Hammond
แปล: สาริศา กนกวรกิตติ์

รู้หรือไม่ว่า เวลาเฉลี่ยที่คนเราควรพักผ่อนต่อวันคือ 5 ชั่วโมง” และที่สำคัญคือ การพักที่ว่าไม่ใช่การนอน

อยากชวนทุกคนรับวันหยุด และก้าวเข้าสู่การเริ่มต้นใหม่ๆ ด้วยการรู้ว่า นอกจากชีวิตต้องสู้ ต้องมูฟออนแล้ว ชีวิตก็ต้องพักด้วย

หนังสือเล่มนี้เล่าถึงหลายวิธี หลายรูปแบบ พร้อมเหตุผลหนักแน่นอ่านสนุก ว่าเราต้องพักจริงๆ และแต่ละวิธีการพักก็ให้ประโยชน์กับทั้งร่างกายและจิตใจต่างๆ กันไป บางวิธีช่วยพัฒนาสมอง บางวิธีช่วยให้เราสงบได้ในเวลาที่น่าเสียสติ บางวิธีบรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรังได้อย่างน่าอัศจรรย์

ฟื้นฟูกายใจให้ปกติสุข และไม่ควรมีใครต้องรู้สึกผิดเพราะต้องการพัก

โดยเฉพาะในช่วงเวลาแบบนี้ 😊

Tags:

หนังสือความสัมพันธ์ปีใหม่Fathom bookspaceการเยียวยา

Author:

illustrator

ขนิษฐา ธรรมปัญญา

นักเล่น นักทำงานอดิเรก สนใจการเดินทางด้านในของผู้คน นักออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายหลากหลายมากว่า15 ปี เจ้าของร้านหนังสือและพื้นที่เรียนรู้ Fathom Bookspace

illustrator

ภัทรอนงค์ สิรีพิพัฒน์

นักอ่าน บรรณาธิการอิสระ อดีตกองบรรณาธิการนิตยสาร writer ชอบการเดินทางและกำลังสนุกกับกล้องฟิล์ม เจ้าของร้านหนังสือและพื้นที่เรียนรู้ Fathom Bookspace

Related Posts

  • Book
    ความโดดเดี่ยวของจำนวนเฉพาะ: เมื่อโจทย์ของชีวิต ซับซ้อนกว่าปัญหาคณิตศาสตร์

    เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • Cover
    Book
    The Wild Robot: ชีวิตที่ลิขิตเอง ไม่ต้องรอโปรแกรมคำสั่ง

    เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • lonely-cover (1)
    Book
    คุณไม่จำเป็นต้องสูญเสียความเป็นตัวเองเพื่อใคร: ถึงฉันจะโดดเดี่ยว แต่ก็ยังอยากอยู่คนเดียวอยู่ดี

    เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • Book
    Normal People: จะรวยหรือจน…ทุกคนล้วนเป็นคนธรรมดา

    เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • Character building
    ‘นิสัยรักการอ่าน’ มรดกจากพ่อแม่ที่ช่วยให้เด็กเติบโตและมีชีวิตที่ดี

    เรื่อง นำชัย ชีววิวรรธน์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel