- Breadcrumbing หมายถึง การหลอกล่อให้เราอยู่ในความสัมพันธ์บางอย่างที่ไม่ได้พัฒนาไปไหน อีกฝ่ายอาจใช้การปฏิสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ แต่ไม่มีเจตนาพัฒนาความสัมพันธ์อย่างจริงจัง เปรียบเหมือนการโปรยเศษขนมปังให้เราเดินตามไปเรื่อยๆ
- คนที่ถูก Breadcrumbing มักรู้สึกพึงพอใจในชีวิตน้อยลง สิ้นหวังมากขึ้น และรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว ความสัมพันธ์เช่นนี้จึงนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตได้
- เรามีค่าพอที่จะได้รับความรักโดยไม่ต้องร้องขอ เพราะความรักที่แท้ต้องมาจากใจ ไม่ใช่การร้องขอ และควรสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความต้องการของตัวเอง และหากอีกฝ่ายไม่เปลี่ยนแปลง ควรเลือกเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน
ในยุคที่เทคโนโลยีทำให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น การพบปะผู้คนใหม่ๆ ผ่านโลกออนไลน์จึงกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นการพบปะในบริบทของการทำงาน การหาเพื่อน หรือแม้กระทั่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก
บางครั้งความสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ก็ก่อให้เกิดความสับสนงุนงงเมื่อไม่สามารถสร้างความชัดเจนได้ว่าเรากำลังพูดคุยกันในฐานะอะไร อีกฝ่ายดูเหมือนจะสนใจชอบพอในตัวเรา แต่ก็มาๆ หายๆ วันหนึ่งทำเหมือนว่ารัก อีกวันทำเหมือนไม่รัก พฤติกรรมเช่นนี้เรียกว่า ‘Breadcrumbing’ เป็นการหลอกล่อให้เราอยู่ในความสัมพันธ์บางอย่างที่ไม่ได้พัฒนาไปไหน
Breadcrumbing คืออะไร
Breadcrumbing มีที่มาจากคำว่า ‘Breadcrumb’ ซึ่งแปลว่าเศษขนมปัง เมื่อนำมาใช้เปรียบเปรยพฤติกรรม Breadcrumbing จึงหมายถึงการนำ ‘เศษขนมปัง’ มาล่อเราให้เดินตามไปโดยไม่ได้มีจุดหมายที่ชัดเจน ทำเพื่อต้องการล่อให้เราเดินตามไปเรื่อยๆ เท่านั้น
พูดง่ายๆ ก็คือ การหว่านเสน่ห์เพื่อให้เราหลงและมีความหวัง แต่ก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การเป็นคนรักอย่างจริงจัง
คนที่ทำพฤติกรรม Breadcrumbing มักใช้ ‘การปฏิสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ’ ในการสื่อสารกับอีกฝ่าย ไม่ต่างอะไรจากการโปรยเศษขนมปังให้ เช่น กดไลก์ คอมเมนต์อีโมจิตามโพสต์ ตอบกลับข้อความเป็นครั้งคราว ฯลฯ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงแรงหรือเสียเวลามาก เพราะตัวเองก็ไม่ได้หวังจะพัฒนาความสัมพันธ์นี้อยู่แล้ว
นอกจากนี้ Breadcrumbing ยังหลอกให้ความหวังอีกฝ่ายผ่านการวาดฝันถึงกิจกรรมต่างๆ ที่อยากไปทำร่วมกัน แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริงเสียที โดยมักใช้การกล่าวถึงกิจกรรมนั้นอย่างผิวเผิน ไม่มีรายละเอียด ไม่มีวันนัดที่ชัดเจน หรือหากมีการนัดหมาย เมื่อถึงวันนัดก็มักจะหาข้ออ้างได้ตลอด
อีกลักษณะเด่นของ Breadcrumbing ที่คล้ายกับความสัมพันธ์ท็อกซิกแบบอื่นๆ คือ ‘เดี๋ยวรักเดี๋ยวไม่รัก’ บางครั้งก็ส่งคำหวานมาให้ ทำให้ดูเหมือนว่าสนใจและอยากพัฒนาความสัมพันธ์ แต่บางครั้งก็เงียบหายไปเลย ทำเป็นเมินเฉยเหมือนไม่รักเราแล้ว
ความสัมพันธ์ท็อกซิกบางประเภทอาจทำให้ความรักกลายเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและคาดเดาไม่ได้ ในช่วงแรกอีกฝ่ายอาจแสดงออกถึงความใส่ใจในระดับปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความใส่ใจเหล่านั้นกลับลดลงหรือพบได้น้อย สิ่งใดที่หายากย่อมถูกมองว่ามีค่ามาก ดังนั้นความรักความใส่ใจที่หายากนี้จึงถูกมองว่ามีค่ามาก
ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์เช่นนี้จึงอาจมองเห็นความรักที่อีกฝ่ายมอบให้มีค่ามากเกินจริง ทั้งที่ในความเป็นจริง สิ่งเหล่านั้นอาจเป็นเพียงการกระทำขั้นต่ำ (Bare Minimum) ที่คนรักทั่วไปพึงกระทำกัน
เช่น ‘การตอบข้อความของอีกฝ่าย’ เป็นเรื่องปกติในความสัมพันธ์ที่ดี แต่ในความสัมพันธ์แบบ Breadcrumbing การละเลยข้อความมักเกิดขึ้นบ่อยๆ ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ละเลยและตอบกลับ เราจึงรู้สึกมีความสุขมาก เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
ทำไมจึง Breadcrumbing
คนที่ทำพฤติกรรม Breadcrumbing อาจกระทำไปโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้บางคนแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น
- คลายเหงา – ความเหงาเป็นกลไกของมนุษย์อย่างหนึ่งที่ผลักดันให้เรามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น อย่างไรก็ตาม บางคนอาจไม่ได้ต้องการปฏิสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แค่อยากหาคนคุยแก้เหงา เลยเลือกใช้ความสัมพันธ์เช่นนี้ทดแทน
- ไม่อยากผูกมัด – บางคนชอบการคุยกับคนอื่นเพื่อแค่ให้หัวใจกระชุ่มกระชวย ไม่ได้อยากพัฒนาความสัมพันธ์ด้วย เพราะลึกๆ ในใจแล้วก็ไม่ได้อยากลงหลักปักฐานกับใคร
- หลีกเลี่ยงความอึดอัดทางอารมณ์ – คนที่ทำ Breadcrumbing มักไม่ชอบการเผชิญหน้าหรือความขัดแย้ง เลยจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์เครียดๆ เช่น การอธิบายความรู้สึกของตัวเอง หรือการผูกมัดต่างๆ
ผลกระทบจากการถูก Breadcrumbing
คนที่ถูก Breadcrumbing อาจยุติความสัมพันธ์เช่นนี้ได้ยาก เนื่องจากรู้สึกว่าความสัมพันธ์นี้ยังพอมีหวังที่จะไปต่อได้ ซึ่งเป็นกลวิธีที่คนทำ Breadcrumbing ใช้เพื่อให้เรายังมีความหวังและยื้อให้เราอยู่
แม้เราจะรู้สึกถึงความหวังในความสัมพันธ์นี้ แต่ทุกครั้งที่เราพยายามสานสัมพันธ์กับอีกฝ่ายจะเต็มไปด้วยความสับสน ความคับข้องใจ และความผิดหวัง เนื่องจากสิ่งที่วาดฝันไว้ร่วมกันไม่เคยเป็นจริงสักที อีกทั้งเขายังทำเป็นเฉยชา อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป
งานวิจัยจากวารสาร International Journal of Environmental Research and Public Health ปี 2020 พบว่า คนที่ถูก Breadcrumbing รายงานว่ารู้สึกพึงพอใจในชีวิตน้อยลง สิ้นหวังมากขึ้น และรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว ด้วยเหตุนี้เองความสัมพันธ์เช่นนี้จึงนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตได้
แล้วเราจะจัดการกับ Breadcrumbing ได้อย่างไร?
Dr. Sabrina Romanoff นักจิตวิทยาคลินิก กล่าวว่า คนที่ติดอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Breadcrumbing สามารถถอนตัวออกมาได้ โดยวิธีที่ดีในการเริ่มต้นคือ ‘การพิจารณาทางอื่น’ เช่น ลองคิดดูว่าหากเราไม่ได้มีความสัมพันธ์เช่นนี้จะเกิดอะไรขึ้น เราจะได้รับหรือเสียอะไรไปบ้าง
คำแนะนำต่อมาคือ ‘การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา’ บอกความต้องการของเราไปตรงๆ เช่น อยากพัฒนาความสัมพันธ์นี้ไปอีกขั้น หรือบอกไปตรงๆ ว่าเราไม่ชอบพฤติกรรมไหนและอยากให้ปรับเปลี่ยนอย่างไร เมื่อบอกไปแล้วให้ดูความประพฤติของอีกฝ่าย หากมีการแก้ไขก็เป็นเรื่องที่ดี แต่หากไม่มีการปรับเปลี่ยนก็ควรพยายามยุติความสัมพันธ์
สุดท้าย Dr. Romanoff เตือนให้จำไว้ว่า ‘เรามีคุณค่าในตัวเอง’ มองให้เห็นและรักในคุณค่านั้น
เรามีค่าพอที่จะได้รับความรักโดยไม่ต้องร้องขอ เพราะความรักที่แท้ต้องมาจากใจ ไม่ใช่การร้องขอ เมื่อเรารักและปฏิบัติกับตัวเองอย่างดีก็จะดึงดูดคนแบบเดียวกันเข้ามาหา
ความรักจะงอกงามในสภาพแวดล้อมที่เปี่ยมไปด้วยความรัก เมื่อคนเหงาสองคนมาเจอกันก็มีแต่จะฉกฉวยประโยชน์จากอีกฝ่ายเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในใจตัวเอง แต่เมื่อคนที่รักตัวเองสองคนมาเจอกันจะมีแต่การแบ่งปัน การให้ที่เกิดจากใจ ฉันรักตัวเองแล้วและต้องการมอบความรักนี้ให้กับคนอื่นด้วย
ผู้ที่ทำ Breadcrumbing มีแต่จะฉกฉวยประโยชน์จากอีกฝ่ายเข้ามาเติมเต็มความโดดเดี่ยวในใจของตัวเอง ดังนั้นความสัมพันธ์เช่นนี้จึงไม่อาจนำไปสู่ความรักที่แท้จริงได้ สิ่งสำคัญคือการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง และเลือกเดินออกจากความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน เพื่อให้มีโอกาสพบกับความรักที่แท้จริง
อ้างอิง
ภูริตา บุญล้อม. (2024). Breadcrumbing พฤติกรรมที่หว่านเสน่ห์ไปทั่วแต่ไม่คิดจริงจัง.
Brittany Loggins. (2024). Feeling Led On? You Might Be A Victim of Breadcrumbing.
OSHO. (2564). Being in Love [ดีไซน์รัก]. ฟรีมายด์ พับลิชชิ่ง จำกัด.
Psychology Today. (n.d.). Breadcrumbing.
Tanyaporn Thasak. (2021). รู้จักกับ “Breadcrumbing” เมื่อเขาแค่อยากเก็บเราไว้ แต่ไม่ได้อยากจริงจัง.