- Overjustification Effect เป็นปรากฏการณ์ที่เมื่อการให้รางวัลสำหรับกิจกรรมที่เราชอบหรือสนใจอยู่แล้ว สามารถทำให้เรามีแรงจูงใจภายในที่ลดลง และทำให้เรารู้สึกสนใจและชอบที่จะทำกิจกรรมนั้นน้อยลง
- ทั้งรางวัลและการลงโทษเป็นวิธีควบคุมพฤติกรรมที่ทำลายศักยภาพในการเรียนรู้ที่แท้จริง เด็กเริ่มทำสิ่งต่างๆ ด้วยแรงจูงใจภายในเป็นปกติอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีรางวัลเข้ามาเกี่ยวข้อง
- ธรรมชาติเด็กรักการเรียนรู้อยู่แล้ว สังเกตได้จากความช่างสงสัยในสิ่งต่างๆ รอบตัว โรงเรียนควรเป็นสถานที่ที่ปลูกฝังความรักในการเรียนรู้ แต่กลับเป็นผู้ทำลายเสียเองผ่านการยึดติดกับคะแนนและรางวัลที่มากเกินไป
เกรด คะแนน เกียรติบัตร …
สิ่งเหล่านี้คือเรื่องคุ้นเคยที่พบเจอได้ทั่วไปในระบบการศึกษา หลายคนเชื่อว่ารางวัลเหล่านี้จะสร้างแรงจูงใจให้เด็กขยันและตั้งใจที่จะเรียนรู้ เพราะเป็นการตอบแทนสำหรับความมุ่งมั่นและการทุ่มเทให้กับการเรียน
แรงจูงใจ (Motivation) เป็นสาเหตุสำคัญให้มนุษย์ทำพฤติกรรมต่างๆ โดยแรงจูงใจเกิดขึ้นได้จากภายใน (เช่น ความรัก ความชอบ) และภายนอก (เช่น เงิน รางวัล)
การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพควรเกิดจากแรงจูงใจภายใน แต่การศึกษาในปัจจุบันยึดถือแรงจูงใจภายนอกเป็นสรณะ ทุกอย่างล้วนขับเคลื่อนด้วยคะแนนและรางวัล
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เด็กหลายคนไม่ได้สนใจที่จะเรียนรู้อย่างที่คาดหวังไว้ แต่สนใจไปที่การไขว่คว้ารางวัลเหล่านี้แทน การนำเสนอรางวัลขึ้นมามักได้ผลดีเสมอในตอนแรก เด็กสนใจและมุ่งมั่นที่จะทำกิจกรรม แต่เมื่อเวลาผ่านไปความสนใจจะลดลงและอาจหายไปเลยเมื่อไม่มีรางวัล
การทดลองคลาสสิกคือการให้รางวัลแก่เด็กที่ชอบวาดรูป หลายคนคิดว่าการให้รางวัลจะช่วยให้เด็กอยากวาดรูปมากขึ้น แต่ผลกลับตรงกันข้าม เด็กสนใจวาดรูปน้อยลงและอาจไม่ทำอีกเลยเมื่อไม่มีรางวัล นักจิตวิทยาเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘Overjustification Effect’
Overjustification Effect คืออะไร?
Overjustification Effect เป็นปรากฏการณ์ที่เมื่อการให้รางวัลสำหรับกิจกรรมที่เราชอบหรือสนใจอยู่แล้ว สามารถทำให้เรามีแรงจูงใจภายในที่ลดลง กล่าวคือ การทำกิจกรรมที่เราชอบอยู่แล้วและได้รับรางวัล อาจทำให้เรารู้สึกสนใจและชอบที่จะทำกิจกรรมนั้นน้อยลง
หนึ่งในทฤษฎีที่อธิบายเรื่องนี้คือ Self-Determination Theory (SDT) ซึ่งระบุว่าแรงจูงใจภายในเกิดจาก 3 เงื่อนไขดังนี้
- ความเป็นอิสระ (Autonomy) – รู้สึกว่าพฤติกรรมและเป้าหมายของเราเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ เป็นอิสระจากข้อจำกัดภายนอก
- ความสามารถ (Competence) – รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถที่จะทำสิ่งนั้นๆ
- ความสัมพันธ์กับผู้อื่น (Relatedness) – รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและผูกพันกับผู้อื่น
เมื่อมีรางวัลเข้ามา อาจทำให้เรารู้สึกมีอิสระน้อยลง พฤติกรรมของเราเริ่มถูกตีกรอบด้วยข้อจำกัดภายนอก ความคิดของเราเปลี่ยนจาก ‘ทำเพราะชอบ’ เป็น ‘ทำเพราะรางวัล’
ถ้าให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็อาจจะเป็นเวลาเราอยากทำอะไรแล้วมีคนมาสั่ง เราจะอยากทำสิ่งนั้นน้อยลง เช่น เราอยากไปล้างจาน แต่พอแม่มาสั่งให้ล้างจาน ความอยากล้างจานของเรากลับลดลง เพราะตอนแรกเรา ‘อยาก’ ทำด้วยตัวเอง เรามีอิสระในการกำหนดพฤติกรรมของตัวเอง แต่เมื่อมีคนมาสั่ง อิสระของเรากลับหายไป พฤติกรรมของเราถูกกำหนดด้วยคนอื่น เราจึงอยากทำมันน้อยลง
ทีนี้ลองเปลี่ยนเป็น ‘รางวัล’ ตอนแรกเด็กอยากวาดรูปเพราะความปรารถนาของตัวเอง แต่พอมีรางวัลเข้ามา พฤติกรรมการวาดรูปถูกกำหนดด้วยรางวัลแทน เด็กทำเพราะรางวัล ไม่ได้ทำเพราะอยากทำ เมื่อเด็กมีอิสระลดลง แรงจูงใจภายในจึงลดลง ไม่มีความกระตือรือร้นในการวาดรูปเหมือนแต่ก่อน
เมื่อ ‘รางวัล’ อาจเป็นการลงโทษรูปแบบหนึ่ง
อาจารย์อัลฟี โคห์น (Alfie Kohn) ผู้เขียนหนังสือ Punished by Rewards (ถูกลงโทษด้วยรางวัล) กล่าวว่า ทั้งรางวัลและการลงโทษเป็นวิธีควบคุมพฤติกรรมที่ทำลายศักยภาพในการเรียนรู้ที่แท้จริง เด็กเริ่มทำสิ่งต่างๆ ด้วยแรงจูงใจภายในเป็นปกติอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีรางวัลเข้ามาเกี่ยวข้อง
สิ่งที่เด็กสมควรได้รับคือหลักสูตรที่น่าดึงดูดและบรรยากาศที่เอาใจใส่ เพื่อให้พวกเขาสามารถแสดงความปรารถนาตามธรรมชาติในการค้นหาสิ่งต่างๆ ได้
ไม่มีเด็กคนไหนสมควรที่จะถูกควบคุมด้วยรางวัลภายนอกเพื่อให้เป็นไปตามที่คนอื่นต้องการ
อย่างไรก็ตาม รางวัลภายนอกไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป ในกิจกรรมที่น่าเบื่อหรือเด็กไม่มีความสนใจเลย การมีรางวัลเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะช่วยดึงดูดความสนใจได้ โดยเน้นย้ำว่า ‘รางวัลเหล่านี้มีผลแค่ในระยะสั้นเท่านั้น’ รางวัลในระยะยาวไม่อาจสามารถสร้างแรงจูงใจภายในได้
โคห์น เสนอว่า การสร้างแรงจูงใจภายในให้กับนักเรียนต้องใช้หลัก 3C โดยหากทำได้ รางวัลและการลงโทษก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
- Content (เนื้อหา) – สร้างเนื้อหาให้น่าสนใจและคุ้มค่าที่จะเรียนรู้ อาจใช้การประยุกต์กับสถานการณ์ในชีวิตจริงหรือสิ่งที่เด็กให้ความสนใจอยู่แล้ว
- Community (ชุมชน) – สร้างการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยเปิดโอกาสให้ขอความช่วยเหลือและถามคำถามได้
- Choice (ทางเลือก) – ใส่ใจถามเด็กว่ากำลังทำอะไรอยู่และจะทำอย่างไร ทำให้เด็กรู้สึกว่าเป็นคนที่ได้เลือกตัดสินใจเอง
กรณีศึกษาจากการทดลองในโรงเรียนจริง
Woodland Primary School ได้ทำการทดลอง 1 ปี โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างแรงจูงใจของเด็กในวิชาวรรณกรรมอังกฤษ ในตอนแรกโรงเรียนใช้เป็นระบบแต้ม นั่นคือ เมื่อนักเรียนอ่านหนังสือก็จะได้รับแต้ม และสามารถนำแต้มไปแลกรับรางวัลต่างๆ ได้
เมื่อเวลาผ่านไปครูสังเกตว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการอ่านหนังสือน้อยลงเว้นแต่จะได้แต้ม ครูจึงได้ปรับเปลี่ยนระบบใหม่ โดยเน้นส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความเห็นภายในชั้นเรียนเกี่ยวกับหนังสือ และใช้การประเมินผลด้วยโปรเจกต์ที่ให้นักเรียนสำรวจธีมหรือตัวละครที่ตัวเองสนใจ
หลังจากการเปลี่ยนแปลง นักเรียนมีส่วนร่วมในการอ่านเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนเอง ครูรายงานว่า นักเรียนรับรู้ว่าการอ่านเป็นกิจกรรมที่สนุกในตัวมันเอง โดยไม่ต้องใช้แต้มในการจูงใจให้อ่านหนังสือ
จากกรณีของ Woodland Primary School สามารถยืนยันทฤษฎี SDT และคำกล่าวของโคห์นได้ การสร้างบรรยากาศดังกล่าวในห้องเรียนทำให้นักเรียนมีอิสระในการเรียนรู้ สำรวจเนื้อหาที่ตัวเองสนใจ และได้เชื่อมสัมพันธ์กับผู้อื่น ก่อให้เกิดแรงจูงใจภายในที่ผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ด้วยใจรักและมีความมุ่งมั่นที่จะอ่านหนังสือด้วยตัวเอง
การให้รางวัลไม่ใช่เรื่องผิด แต่เมื่อใช้อย่างไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เด็กมุ่งหวังเพียงสิ่งตอบแทนภายนอกมากกว่าความสุขจากการเรียนรู้
โดยธรรมชาติเด็กรักการเรียนรู้อยู่แล้ว สังเกตได้จากความช่างสงสัยในสิ่งต่างๆ รอบตัว โรงเรียนควรเป็นสถานที่ที่ปลูกฝังความรักในการเรียนรู้ แต่กลับเป็นผู้ทำลายเสียเองผ่านการยึดติดกับคะแนนและรางวัลที่มากเกินไป
กิจกรรมที่เสริมสร้างแรงจูงใจภายในอาจใช้เวลานานและยุ่งยากกว่า แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะยั่งยืนและทรงพลังกว่ามาก เพราะเด็กที่รักการเรียนรู้ด้วยใจ จะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ตลอดชีวิต โดยไม่ต้องรอให้ใครมามอบรางวัลให้กับพวกเขาอีกต่อไป
อ้างอิง
Alfie Kohn. (2015). To Change What We Do, Consider What We Believe.
Kendra Cherry. (2023). How the Overjustification Effect Reduces Motivation.
Kendra Cherry. (2023). Intrinsic Motivation vs. Extrinsic Motivation: What’s the Difference?
Kendra Cherry. (2024). Self-Determination Theory in Psychology.
Penn State College of the Liberal Arts. (2019). The Overjustification Effect in Education.
Ron Brand. (1995). Punished by Rewards? A Conversation with Alfie Kohn. Educational Leadership, 53(1).Teach HQ. (n.d.). The Overjustification Effect and Its Impact on Education.