Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Learning Theory
14 May 2019

พัฒนาการ 8 ด้าน จากการออกไปเรียนใกล้ๆ ธรรมชาติ

เรื่อง บุญชนก ธรรมวงศา

  • การเรียนรู้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมธรรมชาติ หรือ Outdoor Learning ช่วยกระตุ้นพัฒนาการ 8 ด้าน คือ สมาธิ เครียดน้อยลง มีวินัยในตัวเอง กระฉับกระเฉง แข็งแรง กระตือรือร้น สนุกจะเรียนรู้ และมีส่วนร่วมซึ่งกันและกัน
  • ลองนึกภาพเด็กๆ ที่ตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว สังเกต สงสัย และพบเห็นสิ่งน่าสนใจใหม่ๆ ในบรรยากาศที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ สิ่งเหล่านั้นยังช่วยให้นักเรียนอยากมีส่วนร่วม มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และกล้าทดลองสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างจากบรรยากาศเดิมในห้องเรียน

เว็บไซต์ Frontiers in Psychology – ฐานข้อมูลที่รวบรวมวารสารว่าด้วยจิตวิทยาทุกแขนงเอาไว้ด้วยกัน เผยแพร่ผลงานวิจัยจำนวนมากที่สนับสนุนแนวทางการสอนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งไม่เพียงเป็นครั้งแรกของการรวบรวมหลักฐานที่สนับสนุนแนวทางการสอนดังกล่าวไว้ด้วยกันทั้งหมด แต่ยังแสดงให้เห็นว่าจำเป็นเพียงไร ที่โรงเรียนต้องตระหนักถึงความสำคัญอันใหญ่หลวงในการปลูกฝังเยาวชนที่กำลังจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตให้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ

ในขณะที่โลกกำลังเผชิญวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมและสภาวะอากาศแปรปรวนเช่นทุกวันนี้ จำเป็นหรือยังที่เด็กควรได้รับการปลูกฝังความรู้ความเข้าใจเรื่องความเป็นเหตุเป็นผล (cause and effect) กับธรรมชาติที่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งและอาศัยพึ่งพิง

นอกจากการสอบและความสำเร็จของผลคะแนน ครูต้องสอนให้พวกเขามองธรรมชาติว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและใส่ใจที่จะอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไว้ให้คงอยู่ต่อไปด้วยเช่นกัน

ดร.หมิง คูโอะ (Ming Kuo) อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แห่งมหาวิทยาลัยอิลินอยส์ สหรัฐอเมริกา และทีมวิจัย ซึ่งศึกษาค้นคว้าหัวข้อการเรียนรู้นอกห้องเรียน หรือที่เรียกว่า Outdoor Learning ตั้งเป้าหมายที่จะลบล้างการยึดถือแนวการสอนในห้องเรียนแบบเดิมๆ ของพ่อแม่และโรงเรียนที่กวดขันให้อาจารย์อัดความรู้ในชั้นเรียนและบีบให้นักเรียนทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับการเตรียมสอบ

อาจารย์คูโอะมองว่าแนวคิดนี้มีแต่จะสร้างผลเสียจากการที่เด็กเครียด หงุดหงิด และขาดแรงจูงใจในการรับเนื้อหาความรู้จนเรียนไม่รู้เรื่อง ในขณะที่งานวิจัยจำนวนมากบ่งชี้ว่าการพานักเรียนออกไปเปิดประสบการณ์ท่องธรรมชาตินอกห้องเรียน หรือสอนในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ เช่น การพาไปทัศนาจรในป่า พาชมพืชพรรณต้นไม้ในสวนของโรงเรียน หรือดูการเจริญเติบโตของกบในบึง ช่วยกระตุ้นพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยด้านการเรียนรู้นอกห้องเรียน ทีมวิจัยของอาจารย์คูโอะพบว่าการเรียนรู้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมธรรมชาตินอกห้องเรียนนั้นช่วยกระตุ้นพัฒนาการนักเรียนถึง 8 ด้านด้วยกันคือ

  • มีสมาธิจดจ่อดีขึ้น
  • เครียดน้อยลง
  • รู้จักวินัยต่อตัวเอง
  • การเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉงมากขึ้น
  • สมรรถภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น
  • กระตือรือร้นในการเรียนรู้
  • มีความสุขและสนุกที่จะเรียนรู้
  • มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

ผลการวิจัยที่เชื่อถือได้จากงานศึกษานับร้อยชิ้นถูกเผยแพร่ออกมาหักล้างแนวทางการเรียนแบบดั้งเดิมอย่างชัดเจนว่า เด็กที่ผ่านกระบวนการสอนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ (nature-based instruction) ทำคะแนนสอบได้สูงกว่าและมีอัตราการสำเร็จการศึกษามากกว่าเด็กที่ถูกสอนแต่ในห้องเรียน

อาจารย์คูโอะพบว่าปัญหาน่าหนักใจยิ่งกว่าผลเสียจากความเคร่งเครียดในห้องเรียนที่ครูสอนเพื่อให้ไปสอบแบบเดิมๆ ก็คือ การที่พ่อแม่ผู้ปกครองและตัวนักเรียนกลับยึดติดกับคะแนนสอบมากจนเกินไปเสียเอง

ผลบวกจากการเรียนรู้นอกห้องเรียนไม่เพียงกระตุ้นให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้น

ลองนึกภาพเด็กๆ ที่ตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว สังเกต สงสัย และพบเห็นสิ่งน่าสนใจใหม่ๆ ในบรรยากาศที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ สิ่งเหล่านั้นยังช่วยให้นักเรียน อยากมีส่วนร่วม มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และกล้าทดลองสิ่งใหม่ๆ ที่แตกต่างจากบรรยากาศเดิมในห้องเรียน

ดังนั้น เด็กที่เรียนรู้นอกห้องเรียนจึงมีโอกาสพัฒนาทักษะการดำเนินชีวิตในสังคมควบคู่ไปด้วยเช่นกัน แคทเธอรีน จอร์แดน (Catherine Jordan) อาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา ซึ่งทำวิจัยร่วมกับอาจารย์คูโอะอธิบายเสริมว่า ผู้เข้าร่วมวิจัยและนักสังเกตการณ์ในการศึกษาของเธอจำนวนไม่น้อยรายงานว่า กระบวนการเรียนรู้นอกห้องเรียนช่วยสร้างความอดทน ทักษะการคิดแก้ปัญหา การคิดอย่างมีวิจารณญาณ ความเป็นผู้นำ ทีมเวิร์ค และความยืดหยุ่นให้พวกเขาอีกด้วย เหล่านี้เป็นทักษะและคุณลักษณะสำคัญในการเรียนรู้เพื่อดำเนินชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพในศตวรรษที่ 21

อย่างนี้แล้ว โรงเรียนและนักการศึกษาควรหันมาทบทวนแนวทางการสอนและจัดกระบวนการเรียนรู้โดยให้เพิ่มกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ออกไปเรียนรู้และอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติในสัดส่วนที่มากขึ้น สร้างพื้นที่สีเขียวในรั้วโรงเรียนด้วยการปลูกต้นไม้ หรือสวนธรรมชาติ และสอดแทรกการเรียนการสอนที่ใช้ธรรมชาตินอกห้องเรียนเป็นพื้นที่เรียนรู้มากขึ้น อย่างน้อยที่สุด แค่ลองพานักเรียนออกมานั่งสมาธิก่อนเข้าเรียนทุกเช้าในสวนร่มรื่น ก็สร้างความแตกต่างขึ้นได้แล้ว

อ้างอิง
Outdoor learning really does boost children’s academic performance and development.

Tags:

โรคขาดธรรมชาติ(nature deficit disorder)สิ่งแวดล้อมeco literacy

Author:

illustrator

บุญชนก ธรรมวงศา

จบภาษาและการสื่อสาร เคยผ่านงานบริษัทออแกไนซ์ เปิดคลินิก ไปจนเป็นเลขาซีอีโอ หลังค้นพบและติดใจโลกนอกระบบตอกบัตร จึงแปลงร่างเป็นนักเขียน นักแปลและนักพยากรณ์ไพ่ ขี้โวยวายเป็นนิสัยที่อยากแก้ไขแต่ทำยังไงก็ไม่หาย ปัจจุบันกำลังเข้าใกล้ Midlife Crisis และหวังจะข้ามผ่านได้ด้วยวิถี “ช่างแม่ง”

Related Posts

  • Creative learning
    ไม่อย่า ไม่ห้าม ในห้องเรียนท้องฟ้ากับวิชาต้นไม้

    เรื่องและภาพ BONALISA SMILE

  • SpaceCreative learning
    โรงเรียนธรรมชาติ: เหตุผลที่ต้องรักษาโรงงานผลิตออกซิเจนยักษ์

    เรื่อง เกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ ภาพ บัว คำดี

  • Creative learning
    สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์: PUBLIC SPACE ควรมีไว้เล่น สัมผัส และสูดหายใจเข้าเต็มปอด

    เรื่อง ณิชากร ศรีเพชรดี ภาพ พรภวิษย์ โพธิ์สว่าง

  • SpaceCreative learning
    โรงเรียนธรรมชาติ: รู้จักชีวิตที่ขาดสวิตช์ ปลั๊กไฟ และก๊อกน้ำ

    เรื่อง เกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ ภาพ บัว คำดี

  • SpaceCreative learning
    โรงเรียนธรรมชาติ: ธรรมชาติคือครูที่สุดยอด เด็กๆ ต้อง ‘ปลอดสายตา’ พ่อแม่บ้าง

    เรื่อง เกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ ภาพ บัว คำดี

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel