วิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่บอกเราว่าสมองของเด็กเล็กอายุ 0-5 ปีเจริญเติบโตและพัฒนาเร็วมาก แม้ว่าจำนวนเซลล์ประสาทจะค่อนข้างคงที่แต่จุดเชื่อมต่อประสาทที่เรียกว่า synapses เกิดใหม่และขาดตอนทุกวัน
การเพิ่มขึ้นของจุดเชื่อมต่อประสาทจะมากหรือน้อยเป็นไปตามประสบการณ์ที่เด็กได้รับ การละเล่น งานที่ทำ นิ้วมือที่จับต้อง ประสบการณ์มากกว่า ทำงานมากกว่า นิ้วมือขยับมากกว่า จะมีจุดเชื่อมต่อประสาทมากกว่า จุดเชื่อมต่อประสาทเหล่านี้จัดเรียงตัวเองเป็นวงจรประสาทต่างๆนานาเพื่อรองรับทักษะต่างๆ นานา
จุดเชื่อมต่อประสาทที่เกิดขึ้นแล้วแต่ไม่ใช้ต่อเนื่อง ไม่สานต่อ ไม่ฝึกปรือ สามารถหายไปได้ทุกวันด้วย กระบวนการนี้จะเข้มข้นมากเมื่อเด็กอายุ 9-12 ปี และทวีความเข้มข้นสูงสุดที่อายุประมาณ 15 ปีก่อนที่จะเริ่มเบาบางลง กระบวนการนี้เรียกว่าการตัดแต่งหรือ pruning ซึ่งจะยังคงดำเนินต่อไปในวัยผู้ใหญ่ด้วยความเร็วที่น้อยลงมาก
เด็กเล็กจึงเป็นวัยสร้างสมอง สมองที่สร้างนี้จะได้ใช้ไปตลอดชีวิตที่เหลือ
อ่าน เล่น ทำงาน เป็นประสบการณ์พื้นฐาน 3 ประการที่ทำง่าย ทำได้ ไม่ยากเย็นอะไร ขอให้รู้ว่าสำคัญ แล้วลงมือทำตั้งแต่แรกเท่านั้นเอง กล่าวเฉพาะเรื่องการทำงาน เพื่อมิให้ข้อเขียนนี้กลายเป็นตำราแพทย์มากเกินไป เราเริ่มต้นที่เด็กเป็นศูนย์กลาง นั่นคือเด็กทำงาน
งานมีหลายชนิด แต่ที่ใกล้ตัวเด็กคืองานบ้าน ลองเลือกงานบ้านมา 1 ชนิด แล้วเราตามไปดู
‘กวาดบ้าน’ กวาดบ้านดีอย่างไรและทำได้อย่างไร
1. เด็กจะกวาดบ้านได้ต้องยืนได้มั่นคง นั่นแปลว่ากล้ามเนื้อต้นขาต้องแข็งแรง เส้นประสาทที่ทอดผ่านกล้ามเนื้อต้นขาของคนเรามีขนาดใหญ่มาก เรียกว่า sciatic nerve ในผู้ใหญ่จะมีขนาดใหญ่เท่านิ้วมือเลยทีเดียวเชียว การกวาดบ้านทำให้เส้นประสาทนี้และกล้ามเนื้อหลายมัดรอบต้นขาแข็งแรง
2. เด็กจะกวาดบ้านได้ต้องรู้ตัวตลอดเวลาว่าตัวเองกำลังยืนด้วยท่าร่างใด และปรับท่าร่างได้ตลอดเวลาแม้ว่าจะเอี้ยว หัน ก้ม เงย บิด และเดิน โดยไม่ล้ม สำหรับผู้ใหญ่มิใช่เรื่องยากแต่สำหรับเด็กเล็กที่สมองน้อยคือ cerebellum กำลังพัฒนา ความรู้ตัวว่าเรากำลังอยู่ในท่าร่างใดและทรงตัวได้เป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวดอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังพัฒนาทุกวัน ลองนึกถึงเด็กเล็กที่กวาดไม้กวาดทีหนึ่งล้มทีหนึ่ง-น่าร้าก
3. เด็กจะกวาดบ้านได้ มือและนิ้วมือต้องแข็งแรงพอจะจับไม้กวาดให้มั่น ข้อมือ แขนท่อนปลาย และต้นแขนจะบิดไปมาเป็นระยะๆ ตามสภาพพื้นที่ที่จะกวาด นิ้วมือจะเปลี่ยนตำแหน่งเป็นระยะๆ ตามไปด้วย กวาดกลางห้อง ขอบห้อง มุมห้อง ใต้โต๊ะ ใต้เตียง บันได เหล่านี้ใช้ทักษะต่างๆ กัน ท่าร่างต่างกัน ข้อมือต่างกัน และนิ้วมือต่างๆ กัน สมองของเด็กพัฒนาตามไปอย่างกระชั้นชิด
4. เด็กจะกวาดบ้านได้ สายตาที่เห็นต้องส่งข้อมูลไปที่มือและนิ้วมืออย่างแม่นยำ เรียกว่า eye-hand coordination หรือจะเรียกว่า hand-eye coordination ก็ได้ คือการประสานตา-มือ จะกวาดฝุ่น เส้นผม ขนหมา ขนแมว เศษไม้ เศษแก้ว เศษผ้า เศษอาหาร ขี้จิ้งจก ซากแมลงสาบ ซากศพมด เหล่านี้ใช้ทักษะต่างกัน มิใช่กวาดผิดกวาดถูก มิใช่เพียงเรื่องตำแหน่งที่แม่นยำ แต่การประเมินผิววัตถุ พื้นผิว และความแรงของมือต้องแม่นยำด้วยจึงกวาดวัตถุใดๆ ไปได้
ระหว่างกวาดบ้านนั้นเองที่สารมัยอิลิน (myelin) ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในกระบวนการสร้างปลอกมัยอิลิน (myelination) บนเส้นประสาทที่เชื่อมประสานระหว่างสายตาและนิ้วมือ ทำให้ข้อมูลที่ได้รับถูกต้องและรวดเร็วเพียงพอ
5. เด็กจะกวาดบ้านได้เสร็จต้องรู้จักวางแผน จะแบ่งพื้นที่การกวาดบ้านอย่างไรให้ทั่วถึง ไม่ตกหล่น และไม่ซ้ำซ้อน สมองของเด็กจะเรียนรู้สิ่งที่เรียกว่าความกว้าง ความยาว และบางครั้ง-ความลึก เด็กได้เรียนรู้การมองภาพรวม การแบ่งส่วน และการผนวกรวม คือหลักการพื้นฐานของคณิตศาสตร์
6. เด็กจะกวาดบ้านได้สะอาดต้องรู้จักรับผิดชอบ คือรู้จักสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรับผิดชอบ’ หรือ responsibility เหตุเพราะงานกวาดบ้านเป็นงานที่ประเมินยากในบางกรณี พื้นบ้านสะอาดเพียงใดขึ้นกับความตั้งใจแท้จริง กวาดฝุ่นแล้วฝุ่นฟุ้งแก้ได้ด้วยการกวาดเบาๆ แต่กวาดขนหมาแล้วขนหมาลอยไปมาแม้กวาดเบาๆ ก็แก้ไขไม่ได้ เด็กที่มีความรับผิดชอบจะแก้ปัญหานี้จนได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
7. งานบ้านทุกชนิดจะมีปัญหาให้แก้ไขระหว่างทำเสมอ การกวาดขนหมามิให้ล่องลอยนั้นเป็นปัญหาหนึ่ง แต่จะมีปัญหาอื่นๆ ให้เด็กได้คิดวิเคราะห์อยู่เรื่อยๆ เช่น ควรแบ่งพื้นที่กวาดแล้วโกยเป็นระยะๆ หรือ ควรกวาดทั้งบ้านแล้วโกยครั้งเดียว การกวาดบ้านแบบไหนที่ทุ่นแรงและเวลามากกว่ากัน ระหว่างกวาดบ้านหากพบใยแมงมุมลอยตัวอยู่เหนือระดับพื้นจะให้กวาดทิ้งด้วยหรือไม่ และถ้ามีแมงมุมเกาะอยู่ตัวหนึ่งควรสงสารแมงมุมหรือไม่ สารพัดมีเรื่องให้ได้สังเกตและคิดอยู่เสมอ สมองได้ทำงานภายใต้ประสบการณ์จริง
8. งานบ้านทุกชนิดมีเรื่องให้คิดวิเคราะห์และมีเรื่องให้คิดยืดหยุ่นด้วย คือ cognitive flexibility จะกวาดบ้านอย่างไรให้เสร็จเร็วที่สุดเพราะคุณครูจ่ายการบ้านมาเยอะมากจะทำไม่ทัน ยังไม่นับว่ามีเกมต้องเล่นอีกด้วย การกวาดลวกๆ ระดับใดที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์คับขันเฉพาะหน้าไปได้ก่อน ไว้พรุ่งนี้การบ้านน้อยลงแล้วค่อยกวาดให้สะอาดอีกครั้งหนึ่งจะได้ไหม พูดง่ายๆ ว่าจะรักษาสมดุลระหว่างเวลาและคุณภาพอย่างไร
9. การกวาดบ้านช่วยให้เด็กเรียนรู้วัฒนธรรม หากต้องการให้บ้านเป็นมงคลมีโชคลาภเงินไหลเข้า ให้กวาดเข้าหาภายในบ้านแล้วโกยขึ้นให้เรียบร้อย รวมทั้งห้ามกวาดบ้านในวันปีใหม่ ในทางตรงข้ามหากมักง่ายกวาดบ้านด้วยวิธีกวาดทุกสิ่งทุกอย่างออกไปหน้าบ้านให้พ้นๆ เงินก็จะไหลออกไปเรื่อยๆ ไม่รู้ตัว
คุณประโยชน์เหล่านี้เด็กจะไม่ได้รับเลยหากซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่นใหม่ล่าสุดราคา 27,000 บาท สามารถสั่งการได้ด้วยรีโมทคอนโทรลและไวไฟ อยู่ที่ทำงานก็สั่งให้เขาดูดฝุ่นให้ได้ เทียบกับการกลับมาบ้าน สั่งลูกกวาดบ้านต่อหน้ามันยังไม่ทำเลย
และถ้าการกวาดเข้าบ้านทำให้รวย หุ่นยนต์ดูดฝุ่นน่าจะช่วยให้รวยมากแน่ๆ