Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
EF (executive function)
10 September 2019

อ่าน เล่น ทำงาน: อ่าน-สมองและจิตใจของเด็กสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ตอนที่ 1

เรื่อง ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ภาพ antizeptic

การแพทย์ด้านสมองสมัยใหม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าเมื่อคนเราได้ยิน สมองส่วนที่เรียกว่า temporal lobe ซึ่งอยู่ด้านข้างๆ จะทำงาน เมื่อคนเรามองเห็นสมองส่วนที่เรียกว่า occipital lobe ซึ่งอยู่ด้านหลังจะทำงาน นี่กล่าวเฉพาะประสาทสัมผัสด้านการได้ยินและการมองเห็น  

แต่มนุษย์ยังมีจมูก ลิ้น กาย และใจ  ส่วนไหนทำงาน สมองส่วนที่รับผิดชอบจะปรากฏการเปลี่ยนแปลงให้เราเห็นได้เสมอด้วยเอกซเรย์สมัยใหม่ที่เรียกว่า fMRI และด้วยการตรวจวัดเมตาโบลิสซึมเฉพาะตำแหน่งของสารบ่งชี้

ใจคิด สมองเปลี่ยนแปลง เราแสดงให้เห็นได้ทั้งรูปภาพและตัวเลข

แต่มนุษย์มิได้มีเพียงประสาทสัมผัสเท่านั้นที่สาธิตให้เห็นได้ว่าสมองเปลี่ยนไป พัฒนา และเติบโต การแพทย์สมัยใหม่พบว่าสมองก่อตัวขึ้นด้วยปัจจัย 5 ข้อต่อไปนี้

​1. ประสาทสัมผัส

2. ความจำ

3. การตัดสินใจ

4. การเรียนรู้

​และ 5. การเคลื่อนไหว

อย่างสั้นที่สุดคือ อ่าน-เล่น-ทำงาน นั่นเอง

​ในท้ายที่สุดแล้วสมองจะมีเซลล์จำนวน 1 แสนล้านเซล์ (100 billion = 100,000,000,000) และจะมีจุดเชื่อมต่อประสาทที่เรียกว่า synapses จำนวน 1 ร้อยล้านล้านจุด (100 trillion = 100,000,000,000,000) ทั้งหมดนี้เริ่มต้นด้วยการอ่านนิทานก่อนนอนทุกคืน

หากจะเปรียบเทียบการทำงานของสมองเป็นอะไรที่เราคุ้นเคย ตัวอย่างแรกคือสนามบินและจำนวนเครื่องบินที่บินไปมาทั่วโลก เซลล์สมองมีการรวมกลุ่มเป็นโหนด (node) ขนาดใหญ่หลายร้อยกลุ่มแล้วแต่ละกลุ่มทำงานเชื่อมต่อกันอย่างซับซ้อนและทั่วถึง  

อีกตัวอย่างหนึ่งคือวงออร์เคสตรา เครื่องเป่า เครื่องสี เครื่องเคาะ เครื่องดีด ทั้งหมดนั้นทำงานพร้อมกันแต่เครื่องมือทุกชิ้นมีหน้าที่เฉพาะตัว เช่น ไวโอลินไม่เหมือนวิโอลา หากเครื่องดนตรีทุกชิ้นเปล่งเสียงด้วยความดังสูงสุดพร้อมกันเราย่อมฟังไม่เป็นเพลงเลย แต่เพราะเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นทำหน้าที่ของตัวโดยที่เครื่องอื่นๆ ทั้งหมดก็กำลังทำหน้าที่ของตัว แม้กระทั่งเครื่องเป่าอาจจะหยุดเป่าชั่วคราว ผลรวมของการประสานงานทั้งหมดนั้นคือการก่อกำเนิดของสมองและจิตใจ

เครื่องบินที่จอดเฉยๆ เครื่องดนตรีที่วางไว้เฉยๆ ยังมิใช่สมองและจิตใจ พวกมันต้องทำงาน

สมองซับซ้อนกว่าเครือข่ายสายการบิน จากงานวิจัยขนาดใหญ่เพื่อวิเคราะห์งานวิจัยเพื่อดูการทำงานของสมองมากกว่า 10,000 ชิ้น ครอบคลุมวิธีคิดและทำงาน 83 รูปแบบ ได้ข้อสรุปว่าสมองทำงานด้วยโครงสร้างแบบโมดูล (modular structure) ในแต่ละโมดูลมีหลายโหนด การประสานงานกันในโมดูลเดียวกันมีความรวดเร็วมากกว่าการประสานงานกันข้ามโมดูล งานวิจัยพยาธิตัวตืด Caenorhabditis elegans ซึ่งมีเซลล์ทั้งตัวเพียง 302 เซลล์ก็พบโครงสร้างอย่างเดียวกัน นั่นคือเป็นโมดูล

ในแง่นี้คำเปรียบเปรยกับสายการบินหรือวงออร์เคสตรายังใช้ได้ดีอยู่ การต่อเที่ยวบินข้ามทวีปย่อมมีหลายขั้นตอนมากกว่าบินในประเทศ การสื่อสารภายในกลุ่มเครื่องดนตรีชนิดเดียวกันมีความรวดเร็วมากกว่าข้ามกลุ่ม 

และหน้าที่ 5 อย่างของสมองข้างต้นมีลักษณะเป็นโมดูลด้วย

แม้ว่าเครื่องดนตรีทุกชิ้นในวงออร์เคสตราจะเล่นเป็นหนึ่งเดียว แต่ทุกชิ้นเป็นอิสระต่อกันในบางจังหวะเราจะพบว่ามีนักเป่าเป่าอยู่เพียงคนเดียว ขณะที่นักเป่าคนอื่นหยุดทั้งหมด เวลานั้นนักดนตรีชิ้นอื่นๆ ก็ยังคงเล่นอยู่เป็นบางชิ้นแล้วแต่วาทยกรจะกำหนด ที่แท้แล้วโหนดที่อยู่ต่างโมดูลกันยังสามารถทำงานพร้อมกันและด้วยกันข้ามโมดูลได้ด้วย เราเรียกว่าฮับ (Hub)

ฮับที่สำคัญคือฮับที่รับผิดชอบการควบคุมตนเอง การบริหารความจำใช้งาน และการคิดยืดหยุ่น ซึ่งเกือบทั้งหมดอยู่ในบริเวณของสมองที่เรียกว่า fronto-parietal lobe ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฮับที่ทำงานด้านการยับยั้งปฏิกิริยา (response inhibition) เหมือนเครื่องเป่าทุกชิ้นที่ต้องหยุดเหลือเพียงเครื่องเดียวที่ยังเป่าอยู่ กระบวนการทางสมองทั้งหมดนี้รวมเรียกว่า Executive Function (EF) 

คือฮับที่เราอยากให้เหลือรอดจากกระบวนการตัดแต่งสมองที่เรียกว่า synaptic pruning ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อประมาณอายุ 9-12 ขวบ เป็นดังที่พูดเสมอว่าหากถึงระดับประถมปลายแล้วยังไม่อ่าน ไม่เล่น ไม่ทำงาน เราจะเป็นห่วงมาก กล่าวคือสมองของเด็กทำงานได้เพียงระดับโหนดและโมดูล แต่ไม่มีฮับที่สำคัญหลงเหลือ

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อฮับสายการบินเสียหาย อาจจะเพราะพายุหรือก่อการร้าย หลายโมดูลจะหยุดทำงานไปด้วย เกิดความเสียหายแผ่ขยายกว้างไกลมากกว่ามาก

ในโครงการ Human Connectome Project ของ NIH ซึ่งศึกษาและทำแผนที่การทำงานของสมองตลอดชั่วอายุขัย พบว่าสมองที่มีการเชื่อมต่อระหว่างโหนด โมดูล และฮับมากกว่าจะทำให้เจ้าของสมองมีพัฒนาการด้านภาษา ระดับสติปัญญา ทักษะการแก้ปัญหา และความสามารถประวิงความสุขที่เรียกว่า delayed gratification ดีกว่า ส่วนสมองที่มีการเชื่อมต่อน้อยกว่าจะมีความสามารถต่างๆ ที่เล่ามาต่ำกว่า ส่งผลต่อระดับสติปัญญา การตั้งสมาธิ นอนไม่หลับ และการใช้สารเสพติดที่สูงขึ้น

พูดง่ายๆ ว่าสมองสร้างคุณให้เป็นคุณ

ทารกเกิดมาไม่มีตัว ไม่มีตน การอ่าน-เล่น-ทำงาน ต่างหากที่สร้างเขาให้เป็นเขา

ข้อเขียนนี้แปลและเขียนใหม่จากบทความ ‘How Matter Becomes Mind’ ของ Max Bertolero และ Danielle S. Bassett รูปประกอบที่แสดงให้เห็นโครงสร้างของโหนด โมดูล และฮับ วาดโดย Mark Ross Studios ตีพิมพ์ในนิตยสาร Scientific American, July 2019 หน้า 18-25

(ยังมีต่อ)

หมายเหตุ : ติดตามอ่านบทความ อ่าน เล่น ทำงาน เรื่อง ‘การอ่าน’ ได้ที่นี่
อ่านเล่นทำงาน: อ่านนิทาน
อ่านเล่นทำงาน: เล็กๆน้อยๆ แต่สำคัญมากของ‘นิทานก่อนนอน’ 
อ่านเล่นทำงาน: สมอง‘อ่าน’ อย่างไร
อ่านเล่นทำงาน: ความต่างระหว่าง‘อ่านออก(เร็ว)’ กับ‘อ่านเอาเรื่อง’
อ่าน เล่น ทำงาน: ‘นิทาน’ สมาธิและความฉลาดเริ่มต้นในห้องนอนยามค่ำคืน
อ่าน เล่น ทำงาน: เด็กทำอะไรช้า มาจาก ‘ความจำใช้งาน’ เด็กๆ จึงต้องได้อ่านนิทานภาพก่อนนอน
ทำงาน: เด็กทำอะไรช้ามาจาก‘ความจำใช้งาน’ เด็กๆจึงต้องได้อ่านนิทานภาพก่อนนอน
อ่านเล่นทำงาน: อ่าน‘อย่างมีความสุข’ เพื่อสร้างระบบความจำใช้งาน
อ่านเล่นทำงาน: อ่านวรรณคดีไทยลูกจะเผชิญด้านมืดได้ดีกว่าคำพ่อแม่สั่งสอน

Tags:

พัฒนาการนิทานประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์อ่าน เล่น ทำงานEFและการศึกษา

Author:

illustrator

ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Illustrator:

illustrator

antizeptic

Related Posts

  • EF (executive function)
    อ่าน เล่น ทำงาน: อ่านนิทานได้อะไร ฉบับสมบูรณ์ ตอนที่ 3

    เรื่อง ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ภาพ antizeptic

  • EF (executive function)
    อ่าน เล่น ทำงาน: อ่าน-สมองและจิตใจของเด็กสร้างขึ้นมาได้อย่างไร ตอนที่ 2 (จบ)

    เรื่อง ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ภาพ antizeptic

  • EF (executive function)
    อ่าน เล่น ทำงาน: รู้จักพลิกแพลง เปลี่ยนแปลงได้ไม่รู้จบด้วย ‘ความจำหมายเลข 4’

    เรื่อง ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ภาพ antizeptic

  • EF (executive function)
    อ่าน เล่น ทำงาน: เด็กทำอะไรช้า มาจาก ‘ความจำใช้งาน’ เด็กๆ จึงต้องได้อ่านนิทานภาพก่อนนอน

    เรื่อง ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ภาพ antizeptic

  • EF (executive function)
    อ่านเถอะนะ ง่ายจะตายชัก

    เรื่อง ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ภาพ antizeptic

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel