Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Everyone can be an Educator
24 May 2021

เฟน อารีเฟน กับการสร้างห้องสมุดการ์ตูนให้ความรู้เด็กๆ ในนาม ‘สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่’

เรื่อง เพ็ญสินี ธิติธรรมรักษา ภาพ ศรุตยา ทองขะโชค

  • มุกตลกๆ จากการ์ตูนเล่มละ 15 บาท นอกจากจะสร้างเสียงหัวเราะแล้ว ยังเป็นคลังคำศัพท์ด้วย (จนกลายเป็นคู่มือเตรียมสอบของหลายคน)
  • ชวนย้อนวันวานวัยเด็กกับ เฟน – อารีเฟน ฮะซานี ผู้เขียน ‘สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่’ การ์ตูนที่มีเอกลักษณ์ คือ การล้อเลียนละคร และยังดัดแปลงวรรณกรรมดังๆ มาทำเป็นการ์ตูนสร้างความบันเทิงแต่แฝงสาระ เขาทำได้อย่างไร หาคำตอบได้ในบทสนทนานี้
  • หัวใจของการ์ตูนเรา คือ เด็กอ่านแล้วต้องสนุก เนื้อหาเข้าใจง่าย ด้วยภาษาพูด เอาคำศัพท์ง่ายๆ ย่อยเนื้อหาให้คนรับได้ง่ายๆ แต่ยังคงความถูกต้อง บางทีข้อมูลเยอะ ก็อาศัยทำเกร็ดความรู้แยกออกมา บางคนได้แรงบันดาลใจไปเรียนต่อทางวรรณคดี เพราะอ่านการ์ตูน

ในวัยเด็กที่แหล่งเอนเตอร์เทนเมนท์ยังเกิดขึ้นไม่เยอะเท่าดอกเห็ดเช่นสมัยนี้ รวมถึงเงินในกระเป๋าก็อาจจะไม่ได้มีมากพอ สิ่งที่สร้างความสนุกให้เราคงมีไม่กี่อย่าง สำหรับเราหนึ่งในนั้นคงเป็นเจ้าการ์ตูนเล่มละ 15 บาทที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ ราคาของมันไม่เจ็บปวดมากไป พอจะยอมควักเงินค่าขนมจ่าย 

ขายหัวเราะ มหาสนุก ปังปอนด์ สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่ ฯลฯ หัวหนังสือที่เราคุ้นตาบนแผง

นอกจากเสียงหัวเราะที่ได้เรายังได้ความรู้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคลังคำศัพท์ เรียกว่าเป็นแหล่งความบันเทิงพลัสความรู้ในราคาย่อมเยาที่หลายคนพอจะเอื้อมถึง

กาลเวลาผ่านไปทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง แหล่งความสนุกวันนี้หาได้ง่ายขึ้น สไลด์หน้าจอคุณก็จะพบตัวเลือกมากมาย คุยแชท ดูหนังซีรีส์ ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือออนไลน์ก็ได้ หนังสือบนแผงก็ค่อยๆ ลดลงตามปริมาณคนอ่าน และเปลี่ยนไปอยู่บนแพลต์ฟอร์มออนไลน์แทน

บทความชิ้นนี้เราอยากชวนทุกคนไปย้อนวันวานวัยเด็กกับ เฟน – อารีเฟน ฮะซานี ผู้เขียนสาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่ การ์ตูนของเขานอกจากเอกลักษณ์ คือ การล้อเลียนละคร เฟนยังดัดแปลงวรรณกรรมดังๆ มาทำเป็นการ์ตูนด้วย (จนกลายเป็นคู่มือเตรียมสอบของหลายคน)

เบื้องหลังการปลุกตัวการ์ตูนให้มีชีวิตโลดแล่นบนหน้ากระดาษ หรือการหยิบวรรณกรรมที่เนื้อหายาวๆ ยากๆ มาดัดแปลงทำเป็นการ์ตูนที่สร้างความบันเทิง แต่ก็ยังแฝงสาระทำได้อย่างไร ชวนไปสนทนาหาคำตอบกับเฟน

เฟน – อารีเฟน ฮะซานี ผู้เขียนสาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่

การกำเนิดของนามปากกา ‘เฟน’

เป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ ว่าโตขึ้นอยากเป็นนักวาดการ์ตูน เพราะเราชอบอ่านการ์ตูนเบบี้ของของอาวัฒน์ วัฒนากับหนูจ๋าของอาจุ๋มจิ๋ม จำนูญ เล็กสมทิศมาก ฝังใจเลยว่าโตขึ้นต้องเป็นนักวาดการ์ตูนแบบนั้น ก็ฝึกวาดการ์ตูนมาเรื่อยๆ เอาสมุดตอนเรียนที่จะมีหน้าเหลือมาตีช่องวาดตัวการ์ตูน

ช่วงปวช.เรามีโอกาสมาเรียนต่อวิทยาลัยเพาะช่างที่กรุงเทพฯ ด้วยความที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ทำให้ต้องหางานพิเศษทำ ตัดสินใจลองเขียนการ์ตูนส่งสำนักพิมพ์ นั่งเปิดหนังสือการ์ตูนดูหน้าสารบัญว่าที่ตั้งสำนักพิมพ์อยู่ตรงไหน ไปหายื่นต้นฉบับให้เขา โชคดีว่าเขาคงเห็นแววเราเลยรับต้นฉบับตีพิมพ์ ได้ค่าเรื่องประมาณ 15 บาทต่อหน้า

เป็นจุดเริ่มต้นการเดินบนเส้นทางนักเขียนการ์ตูน

เขียนการ์ตูนส่งไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 – 4 สำนักพิมพ์ ทำจนรู้สึกว่าแข็งแกร่งละ ตัดสินใจลองส่งการ์ตูนไปเสนอที่สำนักพิมพ์บรรลือสาส์นที่อาวัฒน์กับอาจุ๋มจิ๋มอยู่ ตอนไปเสนอเจอเจ้าของสำนักพิมพ์บันลือ​สาส์น​ คุณ​บันลือ​ อุตสาหจิต ​(คุณพ่อ​ บ.ก​ วิธิต​ อุตสาหจิต)​​ พอเขาเห็นงานเราเขาบอกว่า ลายเส้นพอไปได้ ตกลงรับตีพิมพ์ ให้ค่าต้นฉบับประมาณ 30 – 40 บาทต่อหน้า

ถ้าเทียบกับค่าเงินสมัยนั้นถือว่าเยอะไหม?

เรทปานกลางสำหรับนักเขียนหน้าใหม่อย่างเรา ตอนนั้นจำได้เลยว่าเขียนการ์ตูนเนื้อหาเกี่ยวกับเยาวชน ชื่อเรื่อง”สวัสดีโรงเรียน” เป็นการ์ตูนแนวนิยายภาพ หยิบเรื่องสมัยเรียนมัธยมที่อยู่ต่างจังหวัดมาเขียน

การ์ตูนไทยมีประมาณกี่แบบ

หลักๆ จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ การ์ตูนแนวนิยายภาพ ลายเส้นจะสมจริงเลย นึกถึงการ์ตูนฝรั่งอย่างพวกมาร์เวล (Marvel) ดีซี (DC) ได้รับความนิยมมาก กับอีกแบบหนึ่งจะเป็นการ์ตูนแนวหรรษา ความสมจริงน้อยลง ตัดทอนรายละเอียด เน้นอารมณ์ เช่น ตัวละครตกใจ ก็วาดตาโตๆ หัวโต แนวการ์ตูนขายหัวเราะ สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่ ตัวเราเป็นคนถนัดวาดการ์ตูนแบบนิยายภาพ ชอบผูกเป็นเรื่องๆ มีอยู่วันหนึ่ง​ บ.ก​.วิธิต​ ก็ถามว่า ลองเขียนการ์ตูนตลกดูไหม

ทำไมเขาถึงถามคุณแบบนั้น

ช่วงนั้น​การ์ตูน​แนวตลกมาแรง​ เช่น​ ขายหัวเราะ​ และ​ มหาสนุก​ กำลังได้รับความนิยม​  ทาง​ บ.ก​.วิธิต​คงเห็นว่าเราน่าจะปรับมาเขียน​แนวนี้ได้​ จึงให้โอกาสเราเขียนแนวตลกดู​

เขียนการ์ตูนตลกเป็นไง

แรกๆ เส้นแข็งมาก เพราะก่อนหน้านี้เราถนัดวาดแนวนิยายภาพรายละเอียดเยอะๆ สมจริงเลยละ​  พอมาเขียนการ์ตูนตลก ต้องลดทอนรายละเอียดลง ใส่แอคชั่นตัวละครมากขึ้น​  แต่ก็ใช้เวลาไม่นานนัก​ เราก็เขียนการ์ตูนแนวตลกหรรษาได้​  และเขียนแนวนี้จนถึงปัจจุบัน​

การเขียนการ์ตูนตลกยากไหม ต้องเป็นคนตลกหรือเปล่าถึงจะคิดมุกออก

เราก็ไม่เป็นคนตลกนะ​ แต่เป็นคนอารมณ์ดี​ แม้แต่พี่ต่าย (ภักดี แสนทวีสุข) หรือพี่นิค (นิพนธ์ เสงี่ยมศักดิ์) เองก็เหมือนกัน แต่เวลาคิดเรามักจะคิดในมุมที่มันตลกได้​ ขอใช้คำว่าต่อยอดละกัน อาศัยดูสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัว แล้วคิดต่อยอดว่าจะเล่นมุกยังไง นำมาเขียนให้ตลกได้แบบไหน

บางคนอาจอ่านแล้วขำ แต่บางคนอาจจะไม่ คุณต้องมีทดสอบมุกก่อนไหมว่ามุกนี้คนฮาหรือเปล่า?

วัดจากตัวเราก่อน​ มีการคัดกรองระดับหนึ่ง ถ้าเราไม่ขำ​ก็เปลี่ยนใหม่​  จริงๆเรื่องแบบนี้ฝึกกันได้แต่ต้องอาศัยเวลา ต้องอาศัยประสบการณ์​ และ​อาจจะใช้พรสวรรค์ด้วยส่วนหนึ่ง​ 

เราว่ามันก็เหมือนกับการถ่ายภาพ ต้องอาศัยฝึกถ่ายบ่อยๆ ส่วนจะรู้ว่าผลงานเราดี – ไม่ดีก็ต้องส่งให้คนอื่นช่วยดู ช่วยวิจารณ์ ให้คำแนะนำว่าควรพัฒนาตรงไหน

เวลาเราสอนรุ่นน้องหรือลูกศิษย์จะบอกตลอดว่า มีของอย่าเก็บไว้ ให้นำเสนอไปเลย อย่าอาย วันหนึ่งมันอาจจะสร้างงานให้เราได้

ถ้าพูดชื่อนามปากกาเฟน คิดว่า ‘สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่’ คงเป็นผลงานชิ้นแรกๆ ที่คนนึกถึง อยากรู้ว่าจุดเริ่มต้นมาจากอะไร?

ตอนนั้นเราวาดการ์ตูนลงขายหัวเราะกับมหาสนุก ส่วนตัวเป็นคนชอบดูละคร ดูทุกช่องเลย ก็มานั่งคิดว่า เอ๊ะ ลองเอาที่ดูๆ มาเขียนการ์ตูนล้อดีไหม ปรากฎว่าคนอ่านชอบมาก เพราะเราทำมุกให้ฮาๆ ฉีกแนวละครที่เขาเคยดู ตอนต้นเดินเรื่องมาแบบนี้ พอกลางเรื่องฉีกไปอีกทาง ตอนจบหลุดโลกไปเลย

บ.ก​ ​วิธิต​ ​เสนอว่าเขียนแยกเป็นเล่มของตัวเองเลยดีไหม ตอนนั้นมีของพี่ต่ายที่แยกไปเขียนปังปอนด์แล้วไปได้ดี เขาเลยให้เราลองทำบ้าง สุดท้ายก็ออกมาเป็น”สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่” 

ที่มาของชื่อสาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่

เราคิดว่าเนื้อหาของการ์ตูนเล่มนี้มันคงเป็นเรื่องราวของผู้ชายกับผู้หญิง บวกกับมีหนังจีนที่กำลังดังในไทยตอนนั้นชื่อว่า ดอกไม้กับนายกระจอก (An Autumn’s Tale) เลยเอาว่ะ ตั้งชื่อล้อกับหนังเรื่องนี้ ออกมาเป็นสาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่ ชื่อหนังจีนมันนายกระจอก ฟังแล้วดูเป็นผู้ชายต่ำต้อย แต่ผู้ชายของเราต้องเป็นคนฮาๆทะเล้นๆ เลยตั้งชื่อเป็นนายกล้วยไข่แทน เขียนเป็นการ์ตูนล้อละครมาเรื่อยๆ

ยุคหลังๆ เริ่มมีการ์ตูนดัดแปลงจากวรรณกรรม เช่น ศึกมหาภารตะ มโหสถ เทพอภินิหารตำนานกรีก ทำไมถึงสนใจดึงเรื่องพวกนี้มาเล่าแบบฉบับการ์ตูน

ตอนเด็กๆ เราขัดใจตลอดว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีคนเอาเรื่องแบบรามเกียรติ์มาทำเป็นการ์ตูนให้อ่านง่ายๆ บ้าง ที่เจอคือเนื้อหาเยอะๆ ไม่ก็ภาพหนึ่งภาพแล้วแปะคำบรรยายไว้ข้างล่าง แถมบางทีเล่าเฉพาะตอน ไม่เป็นเรื่องต่อกันยาวๆ เช่น ตอนหนุมานเจอนางเงือก ตอนนางสีดาเจอกวาง

อยากลองทำเป็นการ์ตูน เอาไปเสนอ​บ.ก​ วิธิต เขาก็บอกมันเป็นเรื่องยาวนะ จะทำไหวหรือเปล่า? เพราะนโยบายเขียนการ์ตูนจะเน้นให้จบในตอน คนอ่านจะได้ไม่ลำบากต้องตามอ่านเยอะๆ แล้วบางทีเขียนเป็นเรื่องยาวๆ มันมีโอกาสสูงที่เขียนไปนานๆ แล้วจะเกิดอาการตัน แต่สุดท้ายเขาก็ให้เราลองทำนะ

การแปลงวรรณกรรมให้เป็นการ์ตูน

เริ่มจากเลือกเรื่องที่เราสนใจก่อน​  เรื่องแรกที่วาด คือรามเกียรติ์​ แต่เราใช้คำว่า​ รามาวตาร​ ส่วนเรื่องที่สองคือเรื่อง ศึกมหาภารตะ (มหากาพย์ชื่อดังของอินเดีย เล่าเรื่องราวความขัดแย้งของสองตระกูล เการพและปาณฑล) เราเคยอ่านฉบับแปลของอาจารย์กรุณา กุศลาสัย สนใจอยากเอามาทำเป็นการ์ตูน แต่ข้อมูลในไทยมีน้อยมาก (เน้นเสียง) ต้องสั่งหนังสือฉบับภาษาอังกฤษจากต่างประเทศมาอ่าน ลงทุนไปพาหุรัดซื้อซีรีส์ฉบับคนอินเดียแสดงมาดูอีกทาง ซื้อมาแทบทุกเวอร์ชันเลย จ่ายเงินไปเกือบหมื่น​ ตังค์เราก็ไม่ค่อยมี (หัวเราะ) แต่เราก็คิดว่าเขียนครั้งเดียวในชีวิตให้มันดีไปเลย

ต้องศึกษาเนื้อเรื่องให้ละเอียด โดยเฉพาะนิสัยใจคอของตัวละคร  เราถึงจะวางโครงเรื่องได้ ตอนหาข้อมูลเจอความแตกต่างเยอะมาก อย่างเช่นรามเกียรติ์ฉบับอินเดีย หนุมานบริสุทธิ์เลยนะ ไม่มีเมีย แต่ฉบับไทยนี่ โอ้โห เมียเยอะมาก คือศึกษาจนมีข้อมูลไปเขียนได้อีกเรื่องเลย

วรรณกรรมที่เนื้อหาเยอะและมีความละเอียดสูง เราจะย่อยเรื่องออกมาเป็นการ์ตูนอย่างไร?

หัวใจของการ์ตูนเรา คือ เด็กอ่านแล้วต้องสนุก ฉะนั้นเนื้อหาต้องเข้าใจง่าย ภาษาที่ใช้จะเป็นภาษาพูด เอาคำศัพท์ง่ายๆ ย่อยเนื้อหาให้คนรับได้ง่ายๆ แต่ยังต้องคงความถูกต้องนะ บางทีข้อมูลมันเยอะเราอัดในเรื่องไม่หมด ก็อาศัยทำเกร็ดความรู้แยกออกมา

เสียงตอบรับของคนอ่าน

คนอ่านชอบมาก พอรวมเล่มก็ได้รับความนิยมมาก มีคนส่งจดหมายมาหาเยอะบอกว่าอ่านการ์ตูนเราแล้วไปสอบภาษาไทยได้คะแนนเต็ม 10 เลย หรือเป็นแรงบันดาลใจไปเรียนต่อทางวรรณคดี ฟังแบบนี้เราก็ดีใจนะที่งานของเรามันประสบความสำเร็จทำให้เด็กหันมาอ่านวรรณกรรมมากขึ้น อ่านการ์ตูนเราต่อยอดไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย​ด้านวรรณกรรม หรือต่อยอดอ่านวรรณกรรมที่เนื้อหามากขึ้น

ที่บอกว่าอ่านการ์ตูนแล้วเข้าใจกว่าเรียนในห้อง คุณคิดว่าเป็นเพราะอะไร ในเมื่อใช้เนื้อหาเหมือนกัน ความแตกต่างระหว่างหนังสือเรียนกับการ์ตูนที่คุณนำเสนอ

การ์ตูนจะมีภาพให้เด็กเห็นชัดเจน​ ดูผ่อนคลายกว่าอ่านแบบตัวอักษรเยอะๆ​ อีกอย่างตัวการ์ตูนแต่ละตัวก็มีคาแรกเตอร์​ชัดเจนจำง่าย​ บทก็ใช้เป็นภาษาพูดมากกว่า​ อีกทั้งยังแทรกบทตลกเบาๆ ด้วย​ แต่เนื้อหาหลักจะต้องตรงตามต้นฉบับและแบบเรียน

กลุ่มคนอ่านการ์ตูนคุณส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยเรียน ณ วันนี้ที่คุณอายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ช่องว่างระหว่างวัยคุณกับเด็กยุคนี้มันมากขึ้น ส่งผลกับการคิดงานคุณไหม?

ต้องปรับตัวพอสมควร​  อาศัยดูว่าช่วงนี้เด็กๆ กำลังฮิตอะไร เช่น ดูเพจเฟซบุ๊ก ช่องยูทูบทำให้เราพอเข้าใจวิธีคิดของเด็กสมัยนี้พอสมควร

ในฐานะที่คุณทำงานกับเด็ก คุณคิดว่าอะไรคือความเหมือน – แตกต่างของเด็กแต่ละยุค

เราว่าเด็กแต่ละยุคไม่แตกต่างกันมากนะ เด็กทุกยุคยังต้องการการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ต้องการค้นหาตัวตน ค้นหากลุ่มของเขา อันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เขาอยากหากลุ่มตัวเองให้เจอ เช่น ชอบดูหนังแนวเดียวกัน​  เล่นเกมเดียวกัน​  เขาก็จะหาคนที่ชอบสิ่งเหมือนๆ กัน เป็นปกติทุกยุค

พอจะมีคำแนะนำแนวทางการปรับตัวให้เข้ากับคนรุ่นใหม่สำหรับผู้ปกครองโพเทนเชียลไหม?

ปล่อยให้เขาได้ทำ​ ได้เป็นในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ไปบังคับหรือห้ามอะไรลูก เพราะจะขัดแย้งกันเปล่าๆ ไม่เชื่อลองนึกย้อนสมัยเราเป็นวัยรุ่นก็ได้ เราเชื่อพ่อแม่ที่ไหนละ? (หัวเราะ) และไม่แน่บางทีลูกอาจจะรุ่งในทางของเขาก็ได้

สิ่งที่พ่อแม่ทำได้ คือ เป็นแรงซับพอร์ตข้างๆ ลูก ถ้าวันไหนเขาไม่ไหวก็เข้าไปเป็นแบล็กอัพให้เขา เหนื่อยนัก​ หากไปต่อไม่ไหวก็กลับมาพักก่อน​ พ่อแม่ต้องพร้อมอ้าแขนรับ

ได้ยินว่านอกจากเป็นนักเขียนการ์ตูน คุณยังทำอาชีพอื่นๆ เช่น ครู

ใช่ เรียนเพาะช่างจะได้วุฒิศึกษาศาสตร์บัณฑิตด้วย ตอนเรียนเคยขอไปฝึกสอนที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สอนอยู่ 2 เดือน ประสบการณ์ช่วงนั้นเราเจอลูกศิษย์ดี เขารับการสอนเราได้ เลยรู้สึกว่าตัวเราก็น่าจะเป็นครูได้​  พอเรียนจบก็มีโอกาสไปเป็นครูสอนศิลปะชั้นประถมปลาย ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตร 3​ ปี

เนื้อหาที่เราสอนจะเป็นเรื่องพื้นฐานตั้งแต่เส้น สี องค์ประกอบในภาพ การจัดวาง วาดภาพก็เหมือนเขียนงาน เราต้องมีการผูกเรื่องด้วย เช่น เราบอกโจทย์ให้วาดวิว นักเรียนก็จะคิดละว่าวาดวิวอะไร ทะเล ภูเขา ต้องใส่อะไรลงไปในงาน สร้างความบาลานซ์และสีสันในภาพ

ศิลปะมักจะมาคู่กับเรื่องสวย – ไม่สวย ส่วนตัวคุณมีมุมมองกับเรื่องนี้ยังไง?

เรื่องสวย – ไม่สวย เราว่าพูดลำบาก เพราะแต่ละคนมีมุมมองไม่เหมือนกัน แต่โอเคถ้าจุดๆ หนึ่งมันต้องการตัดสินว่าภาพนี้สวยหรือไม่​ แต่เราในฐานะครูจะไม่มองแค่เรื่องสวย – ไม่สวย เราเน้นสอนให้เด็กใส่ใจกับการวางองค์ประกอบภาพ และการใช้สีมากกว่า​

เวลาให้คะแนนเราก็จะมองหลายๆ มุม คนนี้ถึงวาดภาพไม่เก่งแต่จัดองค์ประกอบได้เอาไป B ถ้ามองแต่เรื่องสวย – ไม่สวย​ คนที่วาดไม่เก่งคงได้คะแนน C ทั้งปี เรารู้สึกว่านี่จะยิ่งทำให้เด็กไม่ชอบศิลปะ ทำให้เขาหนี ทั้งๆ ที่ในหัวเขาอาจจะมีศิลปะอยู่

เราเคยเจอลูกศิษย์บางคนที่เขาวาดรูปอาจไม่สวยเท่าคนวาดเก่ง​ แต่เขาถ่ายรูปออกมาได้อย่างมืออาชีพ​ เพราะใช้การจัดภาพและวางสีแสงได้ดีนั่นเอง​ ซึ่งก็มีอีกหลายอาชีพ​ ที่ไม่ต้องวาดรูปเก่งมากนักก็ได้​ ​แต่ใช้พื้นฐาน​ด้านศิลป​ะที่ซ่อนอยู่​ นำไปใช้ในอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ได้ดีเช่นกัน

การทำงานที่ต้องผลิตงานสู่สายตาคนอื่นๆ มักจะตามคู่มากับคำวิจารณ์ คุณมีวิธีรับมือกับเรื่องนี้ยังไง?

เราก็รับฟังคำวิจารณ์พอสมควร  เพราะอย่างที่บอกว่าแต่ละคนมีมุมมองไม่เหมือนกัน ​แต่สุดท้ายอย่าให้คำวิจารณ์มาทำลายวิธีคิดเรา​ ทำลายงานที่เป็นตัวตนของเรา​จนเกินไป

สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่ ในวันที่เดินทางมาถึงฉบับที่ 300​ ถ้าให้เปรียบเป็นคน คุณคิดว่าเขาจะเป็นคนแบบไหน?

เป็นคนทำ ‘ห้องสมุด​การ์ตูน​’  ที่มีหนังสือหลากหลายแนว​ ทั้งแนววรรณกรรม​ เช่น​ รามาวตาร​ ศึกมหาภารตะ​  อภินิหารตำนานกรีก​ ไซอิ๊ว​ ฯลฯ​ มีชั้นการ์ตูนแนวหรรษา​บันเทิง​ เช่น​ พ่อแม่ลูก​ สิงห์สยาม​ ปอมปอมกิ้งก่าเทวดา​ ซูเปอร์โคโรน่า​ และมีชั้นหนังสือแนวตลกขำขัน​ เช่น​ ก๊อง​ เปาบุ้นจี้​ บ้าครบสูตร​ และ​บริษัทอัดผี​   

รอให้คนอ่าน​ แวะเข้ามายัง​ห้องสมุดการ์ตูน​ของผมครับ

Tags:

นักเขียนการ์ตูนการ์ตูน

Author:

illustrator

เพ็ญสินี ธิติธรรมรักษา

เพิ่งพ้นรั้วมหาวิทยาลัยจากคณะแห่งการเขียนและสื่อมวลชน แม้ทำงานแรกในฐานะกองบรรณาธิการ The Potential หากขอบเขตความสนใจขยายไปเรื่องเพศ สิ่งแวดล้อม และผู้ลี้ภัย แต่ที่เป็นแหล่งความรู้วัยเด็กจริงๆ คือซีรีส์แวมไพร์, ฟิฟตี้เชดส์ ออฟ จุดจุดจุด และ ยังมุฟอรจาก Queer as folk ไม่ได้

Photographer:

illustrator

ศรุตยา ทองขะโชค

ออกเดินทางเก็บบันทึกห้วงอารมณ์ความสุขทุกข์ผ่านภาพถ่าย ร้อยเรียงความคิดในใจก่อนลั่นชัตเตอร์ ภาพทุกภาพล้วนมีเรื่องราวและมีที่มา ตัวเราเองก็เช่นกัน ในอนาคตอยากทำหลายอย่าง หนึ่งในลิสต์ที่ต้องทำแน่ๆ คือออกไปเผชิญโลกที่กว้างกว่าเดิม เพื่อบันทึกเรื่องราวที่เติมเต็มจิตใจให้พองฟูได้มากกว่าเดิม

Related Posts

  • Book
    คาบเรียนจริยปรัชญา: เมื่อคำถามชีวิตตอบในการ์ตูน

    เรื่อง พงศ์มนัส บุศยประทีป

  • How to enjoy life
    โลกร้ายๆ ยิ่งต้องการคนใจดี: เรียนรู้ ‘ความใจดี’ ผ่านการ์ตูน กับ เบญจรัตน์ จงจำรัสพันธ์ นักจิตวิทยาโรงเรียน

    เรื่อง นฤมล ทับปาน ภาพ ปริสุทธิ์

  • Book
    การศึกษาของกระป๋องมีฝัน และที่ทางให้ตัวเองได้เบ่งบาน

    เรื่อง พิมพ์พาพ์

  • Book
    ‘Slam Dunk’ บาสเกตบอล ความรักและมิตรภาพของเด็กมัธยมปลาย : Soft Power ที่ซ่อนอยู่หลังความฝันของเด็ก 90s

    เรื่อง จณิสตา ธนาธรชัย

  • Movie
    The Mitchells vs. The Machines : อย่าบอกให้ขอโทษเพียงเพราะเราเด็กกว่า

    เรื่อง พิมพ์พาพ์

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel