Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Transformative learning
2 July 2018

ชวนเด็กๆ เขียนไดอารี ยิ่งบันทึกเรื่องดีๆ ยิ่งเห็นแก่ตัวน้อยลง

เรื่อง ลีน่าร์ กาซอ

  • ยิ่งเขียนบันทึกขอบคุณสิ่งที่ต่างๆ ยิ่งทำให้คุณรู้สึกเอื้อเฟื้อมากขึ้น
  • ยิ่งกว่านั้น งานวิจัยยังชี้ว่า การเขียนบันทึกได้ช่วยปรับลดความเห็นแก่ตัวในระบบประสาทให้น้อยลง
  • ปลายทางก็คือ ความรู้สึกขอบคุณยินดีอันเกิดจากการลดลงของความเห็นแก่ตัวและความเอื้อเฟื้อที่มากขึ้น ทำให้เกิดสิ่งดีๆ อีกมากมาย
  • อย่าช้าเลย เขียนไดอารีกันเถอะ ใครไม่ถนัด พิมพ์เอาก็ได้

คุณเคยเขียนหรือกำลังเขียนไดอารีกันไหม

ไดอารีอาจมีไว้เพื่อระบายสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แต่รู้ไหมว่า ตั้งแต่ตัวอักษรแรกที่คุณจรดปากกาหรือเริ่มกดแป้นพิมพ์ร่ายยาวถึงสิ่งที่พบเจอกำลังบ่มเพาะมุมมองทำให้คุณมองคนรอบข้างเป็นได้ทั้ง ‘เพื่อนร่วมโลก’ หรือ ‘คนแปลกหน้า’

พูดง่ายๆ ว่า ยิ่งเขียนบันทึกขอบคุณสิ่งที่ต่างๆ ยิ่งทำให้คุณรู้สึกเอื้อเฟื้อมากขึ้น เพราะจากผลงานวิจัยล่าสุดพบว่า การเขียนบันทึกถึงสิ่งที่รู้สึกขอบคุณในแต่ละวันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในสมองอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวโน้มจะมีความสุขหากเงินหรือค่าตอบแทนจะถูกมอบให้การกุศล เช่น ธนาคารอาหารอย่าง Food for Lane County มากกว่าจะไหลเข้ากระเป๋าตัวเอง

ความไม่เห็นแก่ตัวในสมอง

ในการวิจัยครั้งนี้ นักวิจัยได้พบหลักฐานจากการสแกน MRI สมองของหญิงสาว 16 คนที่เขียนบันทึกออนไลน์โดยเน้นความรู้สึกขอบคุณ เช่นเดียวกับหญิงสาวอีก 17 คนที่เขียนบันทึกเรื่องทั่วไป ไม่เน้นความรู้สึกเหมือนกลุ่มแรก โดยได้สแกนตั้งแต่เริ่มวิจัยและสแกนอีกครั้งหลังเขียนบันทึกไปแล้วสามสัปดาห์

การสแกนนั้นเพื่อจับความเปลี่ยนแปลงของกระบวนการเผาผลาญที่ใช้ออกซิเจนในเซลล์ภายในคอร์เท็กซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า – พื้นที่ส่วนลึกในสมองของเรา คอยควบคุมความยับยั้งชั่งใจและการตัดสินใจต่างๆ

อัลริค ไมเยอร์ (Ulrich Mayr) ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยในครั้งนี้กล่าวว่า เมื่อคนกลุ่มนี้อายุมากขึ้น ความเห็นแก่ตัว (pure altruism) ก็จะลดน้อยลง ส่วน คริสตินา คาร์นส (Christina Karns) หัวหน้าทีมนักวิจัยจากคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยโอเรกอน กล่าวว่า การเขียนบันทึกได้ช่วยปรับลดความเห็นแก่ตัวในระบบประสาทให้น้อยลง

“ตอนที่เรากำลังกล่าวขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต สมองส่วนนี้ทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบประสาทที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มใจมากขึ้น” คาร์นสกล่าว เธอยังเป็นหัวหน้าโครงการด้านอารมณ์และระบบประสาทในคณะของเธอด้วย

“การหมุนเวียนในระบบประสาทนี้ ทำให้คุณสามารถ ‘ให้’ ด้วยหัวใจที่ยินดี และรู้สึกตื้นตันในสิ่งที่คนอื่นๆ ทำให้คุณ”

วารสารพรมแดนด้านประสาทวิทยาของมนุษย์ (Frontiers in Human Neuroscience) ทีมนักวิจัยได้ตั้งเป้าหมายการวิจัยนี้ไว้ว่า การเขียนบันทึกถึงความรู้สึกขอบคุณจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในระยะยาวต่อการให้คุณค่ากับความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ภายในจิตใจของคน

“แม้จะยังไม่รู้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ แต่ประเด็นนี้ก็คุ้มพอที่จะทำวิจัยเพิ่มเติม” คาร์นสบอก

สำหรับเงินทุนจากการวิจัยนี้ มาจากโครงการเพื่อการขยายวิทยาศาสตร์และแนวทางปฏิบัติสู่ความรู้สึกขอบคุณ (Expanding the Science and Practice of Gratitude Project) ของศูนย์วิทยาศาสตร์เกรทเตอร์ กู๊ด (Greater Good Science Center) ร่วมกับมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียและกองทุนเทมเพิลตันที่สนับสนุนเงินผ่านทางสถาบันมานุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโอกลาโฮมา

ความเอื้อเฟื้อคือการให้รางวัลตัวเอง

เพื่อเป็นการลดตัวแปรลง ในการทดสอบช่วงแรก ทีมนักวิจัยกำหนดผู้เข้าร่วมเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18-27 ปีเท่านั้น โดยเริ่มต้นประเมินผู้หญิงทั้งหมดผ่านการสแกนสมอง และการตอบคำถามเพื่อจัดกลุ่มตามคุณสมบัติของความไม่เห็นแก่ตัวในระหว่างที่พวกเธอดูเงินที่จะมอบให้ธนาคารอาหารหรือมอบไว้ให้กับพวกเธอเอง

จากจุดนี้ สมองผู้เข้าร่วมที่มีคุณสมบัติของความไม่เห็นแก่ตัวมากกว่า จะมีปฏิกิริยาตอบสนองในแง่ดีเมื่อธนาคารอาหารได้รับเงินมากกว่าที่พวกเธอจะได้รับ จึงเกิดคำถามขึ้นว่า การฝึกฝนความรู้สึกเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สามารถเปลี่ยนผลการตอบสนองในสมองของพวกเธอได้ไหม

ทีมนักวิจัยได้สุ่มแยกผู้หญิงออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกให้เขียนบันทึกทุกวันโดยเน้นที่ความรู้สึกขอบคุณสิ่งที่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ส่วนอีกกลุ่มให้เขียนเรื่องทั่วไป ไม่เน้นความรู้สึกขอบคุณ

สามสัปดาห์ต่อมา ผู้เข้าร่วมวิจัยได้กลับมาที่ศูนย์ลูอิสเพื่อการตรวจทางรังสีวินิจฉัยด้านระบบประสาท (Lewis Center for Neuroimaging) เพื่อทำแบบสอบถามและรับการสแกนสมองอีกครั้ง ภายใต้สถานการณ์เดิม คือการมองดูเงินถูกมอบให้ธนาคารอาหาร และเงินที่มอบให้เธอเอง

“ไม่ว่าคุณสมบัติการไม่เห็นแก่ตัวจะสูงหรือไม่ในตอนแรก แต่การเขียนบันทึกทำให้กลุ่มที่เขียนเน้นความรู้สึกขอบคุณต่างก็มีคุณสมบัตินี้เพิ่มขึ้น การมอบเงินให้การกุศลทำให้เกิดปฏิกิริยาในสมองของพวกเธอมากกว่าการเห็นเงินไหลเข้ากระเป๋าตัวเอง” คาร์นสบอก “ราวกับ พวกเธอใจกว้างและเห็นอกเห็นใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง”

การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า สมองมีส่วนทำให้ความรู้สึกเรื่องการให้รางวัลกับตัวเองยืดหยุ่นได้ ทำให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็เป็นการให้รางวัลตัวเองได้เช่นกัน

“การค้นพบของเราบ่งบอกว่า ความรู้สึกขอบคุณยินดี ทำให้เกิดสิ่งดีๆ อีกมากมาย” คาร์นสว่าอย่างนั้น

เพราะการเขียนมีพลังเสมอ วันนี้ลองชวนเด็กๆ เขียนไดอารีถึงเรื่องดีๆ ของเขาดูสิ

ที่มา: Writing a daily diary can literally change your brain

Tags:

คาแรกเตอร์(character building)ความเข้าอกเข้าใจ(empathy)transformative learning

Author:

illustrator

ลีน่าร์ กาซอ

ประชากรชาวฟรีแลนซ์ที่เพลิดเพลินกับเรื่องสยองกับของเผ็ด และเป็นมนุษย์แม่ที่ศึกษาจิตวิทยาเด็กอย่างเอาเป็นเอาตาย

Related Posts

  • 21st Century skills
    เป็นเด็กยิ่งต้อง ‘เถียง’ และเถียงอย่างสร้างสรรค์เพื่อเข้าใจตัวเองและคนอื่น

    เรื่อง ลีน่าร์ กาซอ

  • Transformative learning
    HEAR STRATEGY: เทคนิคง่ายๆ ฝึกทักษะการ ‘ฟัง’ ให้กับเด็กๆ

    เรื่อง The Potential ภาพ บัว คำดี

  • Transformative learning
    ‘THEORY U’ การฟัง 4 ระดับ: ลองเช็ค คุณ ‘ฟัง’ ระดับไหน

    เรื่อง The Potential ภาพ บัว คำดี

  • Transformative learning
    TEACHING EMPATHY: สอนเด็กให้ ‘เข้าอกเข้าใจ’ ลงมือทำ แบ่งปัน มองปัญหาผู้อื่นให้ทะลุปรุโปร่ง

    เรื่อง ลีน่าร์ กาซอ

  • RelationshipTransformative learning
    ‘ณัฐฬส วังวิญญู’ โปรดใช้วิจารณญาณในการฟัง-ถาม-เข้าใจอย่างลึกซึ้ง

    เรื่อง ณิชากร ศรีเพชรดีทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel