ขณะที่สมองของวัยรุ่นกำลังเติบโตและสร้างระบบเชื่อมโยงไปยังส่วนต่างๆ ตามหน้าที่ พวกเขาต้องการพื้นที่และโอกาสในการแสดงออก ทั้งนี้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและแสดงให้ผู้อื่นเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตนเองกระทำ เมื่อเป็นเช่นนี้หากผู้ใหญ่ปิดกั้นไม่ให้วัยรุ่นได้แสดงออกในทางสร้างสรรค์ สมองจะหยุดการพัฒนาลงอย่างช้าๆ
“Fire together they wire together.” หลักการนี้เชื่อว่า หากมีการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน สมองจะสร้างเครือข่ายประสาทเชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งถือเป็นการสร้างพัฒนาการทางสมองอีกทางหนึ่ง แน่นอนว่าการฝึกฝนสมองด้วยการปลูกฝังความคิดความเชื่อที่ดีตั้งแต่อยู่ในช่วงวัยรุ่นนั้น ง่ายกว่าการพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนการคิดเชิงบวก (positive thinking) แนวคิดเรื่องการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือแม้แต่การออกกำลังกาย
ทั้งนี้ จากการทดลองยังพบว่าระหว่างที่สมองของวัยรุ่นกำลังพัฒนาอยู่นั้น
- เขามักชื่นชอบกิจกรรมที่มีความเสี่ยงและโลดโผน
- เขาแสดงออกทางอารมณ์อย่างชัดเจนและรุนแรง
- เขามักตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่น
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองสามารถเข้ามาช่วยกระตุ้นพฤติกรรมและเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองเชิงบวกของวัยรุ่นในช่วงเวลานี้ได้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- ปล่อยให้เล่น: ปล่อยให้เด็กทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงตามความเหมาะสม: ประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิตช่วยให้เด็กพัฒนาตัวเองได้อย่างมีอิสระ เติบโตได้อย่างเข้าใจตนเอง จนสามารถค้นพบสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง
- เป็นพี่เลี้ยงชวนเด็กค้นหาพื้นที่แสดงความคิดสร้างสรรค์และระบายความรู้สึกของตนเอง: จากการสำรวจพบว่า ดนตรี กีฬา การเขียน และการทำงานศิลปะ เป็นช่องทางระบายความรู้สึกที่ดี
- เป็นเพื่อนคู่คิดในการตัดสินใจ: ชวนพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยศักยภาพของเด็กเอง ชั่งน้ำหนักระหว่างผลลัพธ์ในเชิงบวกและเชิงลบที่จะเกิดขึ้น ที่สำคัญต้องให้เด็กมีส่วนร่วมคิด แล้วตัดสินใจด้วยตนเอง โดยผู้ใหญ่ทำหน้าที่เป็นเพียงพี่เลี้ยงคอยตั้งคำถามให้เด็กคิด
- สอนทักษะการใช้ชีวิตผ่านกิจวัตรประจำวัน ทั้งในครอบครัวและในโรงเรียน
- ข้อตกลงที่ชัดเจน: หลายคนคิดว่า วัยรุ่นไม่ต้องการให้ใครมากำหนดกรอบในการใช้ชีวิต แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เราอาจเรียกสิ่งนี้ว่าการให้คำแนะนำและการสร้างข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างเด็กและผู้ปกครองว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ เพราะอะไร แล้วเคารพพื้นที่ของกันและกัน
- อย่าลืมให้คำชื่นชมและให้รางวัลตามความเหมาะสมเมื่อเด็กทำสิ่งที่ดี เพื่อกระตุ้นให้สมองรับรู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ควรทำ
- เป็นตัวอย่าง: ผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างในการแสดงพฤติกรรมเชิงบวกให้กับเด็ก
- เข้าถึงง่าย: ผู้ใหญ่ต้องทำตัวให้เด็กรู้สึกว่าเข้าถึงง่าย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ ทำให้เด็กเปิดใจยอมรับและไม่ปิดบังตัวเองจากผู้ใหญ่
- ให้ความรู้เรื่องพัฒนาการสมอง: พูดคุยให้ความรู้บุตรหลานเกี่ยวกับพัฒนาการทางสมอง เพื่อให้เด็กเห็นความสำคัญในการดูแลตัวเอง และสนใจเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง
จากการวิจัยพบว่า พันธุกรรม ความเป็นปัจเจกจากการเลี้ยงดู รวมถึงสภาพแวดล้อม ล้วนมีผลต่อพัฒนาการทางสมอง ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่กับวัยรุ่นถือเป็นสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดมากที่สุด บุคคลเหล่านี้จึงมีความสำคัญมากต่อการสร้างพัฒนาการทางสมองที่ดีของวัยรุ่น
ข้อควรจดจำ
- สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย: สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการสนับสนุนและช่วยเหลือเกื้อกูลกันด้วยความรักและความเอาใจใส่เป็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับวัยรุ่น สิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้สมองมีพัฒนาการที่ดี
- ผู้ใหญ่ที่ไม่ทอดทิ้ง: ผู้ใหญ่ที่พูดคุยและมีความใกล้ชิดกับเด็กในช่วงวัยกำลังเจริญเติบโตมีบทบาทสำคัญต่อการช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางสมองของเด็กขณะก้าวขึ้นมาเป็นวัยรุ่นได้
- สายตา: การคาดการณ์เรื่องอารมณ์เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อพูดคุยกับวัยรุ่น ด้านแรก สายตาที่วัยรุ่นมองผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ต้องมองให้ออกว่าวัยรุ่นกำลังประเมินว่าผู้ใหญ่อยู่ในภาวะอารมณ์ใดขณะสื่อสารกับตน ด้านที่สอง สายตาของผู้ใหญ่ที่มองวัยรุ่น ผู้ใหญ่ต้องคาดเดาภาวะอารมณ์ของวัยรุ่นในแต่ละช่วงขณะให้ได้ นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ควรมีส่วนช่วยแนะนำให้วัยรุ่นพิจารณาสภาพอารมณ์ของตนเองได้อย่างถูกต้อง
- ความเชื่อมั่น: วัยรุ่นต้องการความเชื่อมั่นและกำลังใจจากผู้ใหญ่
- รางวัล: วัยรุ่นตอบสนองต่อการได้รับรางวัลมากกว่าการลงโทษ
- ความชัดเจน: วัยรุ่นต้องการความชัดเจนในการกำหนดขอบเขตว่าสิ่งใดที่ตนทำได้หรือทำไม่ได้ โดยผู้ใหญ่จะต้องเคารพในข้อตกลงที่วางร่วมกัน
- ความเคารพ: วัยรุ่นต้องการให้ผู้ใหญ่เคารพความสามารถและศักยภาพของพวกเขา และอนุญาตให้พวกเขาเติบโตได้อย่างอิสระ
ส่วนหนึ่งจากบทความ: สมองสุขภาพดีของวัยรุ่น ผู้ใหญ่สร้างได้