- ‘Man Child’ คือ ผู้ใหญ่ที่ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ (Emotionally Immature) มักไม่รับผิดชอบ พึ่งพาผู้อื่น ขาดการจัดการอารมณ์ เหวี่ยงง่าย หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และมักโทษคนอื่นแทนการเผชิญปัญหา ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสัมพันธ์ส่วนตัว อาชีพการงาน และสุขภาพจิตโดยรวม
- ความเชื่อมโยงและส่งเสริมให้เกิดภาวะ ‘Man Child’ ได้แก่ ผลกระทบจากการเลี้ยงดูและประสบการณ์ในวัยเด็ก สุขภาวะทางจิต หรือปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม
- การขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์นั้น ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขไม่ได้ หากบุคคลได้เรียนรู้ถึงสาเหตุเบื้องต้น และได้รับการสนับสนุนในแนวทางที่เหมาะสม จะทำให้บุคคลสามารถเริ่มแก้ไขพัฒนาการทางอารมณ์ของตนเองได้
เคยไหมที่รู้สึกว่าผู้ชายบางคนทำไม ‘ไม่รู้จักโต’
แน่นอนว่า ไม่ใช่ความรู้สึกน่ารักน่าเอ็นดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสัมพันธ์ อาการ ‘ไม่เป็นผู้ใหญ่’ หรือ ‘ไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์’ นั้น อาจเข้าข่าย Toxic Relationship เลยทีเดียว
ในทางจิตวิทยามีศัพท์เฉพาะคำหนึ่งที่เรียกว่า ‘Man Child’ คำนี้อธิบายถึงผู้ชายวัยผู้ใหญ่ที่มีพฤติกรรมคล้ายเด็ก ซึ่งไม่ใช่ความหมายในเชิงบวก เช่น มองโลกในแง่ดี สดใสร่าเริง แต่หมายถึงพฤติกรรมที่สะท้อนการขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ หรือวุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่สมวัย (Emotionally Immature) ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสัมพันธ์ส่วนตัว อาชีพการงาน และสุขภาพจิตโดยรวม
ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่า Man Child ไม่ใช่โรคทางจิตเวช แต่เป็นรูปแบบหนึ่งของพฤติกรรมเฉพาะบุคคล โดย Marni Feuerman นักจิตบำบัด กล่าวว่าแม้สัญญาณเหล่านี้อาจสังเกตเห็นได้บ่อยในผู้ชาย แต่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่ผู้ชายเท่านั้น ยังสามารถพบได้ในคนเพศสภาพอื่นด้วย
บทความนี้จึงอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักภาวะ Man Child ผู้ชายแบบที่คุณอาจจะกำลังใช้ชีวิตร่วมกัน กำลังพัฒนาความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งบังเอิญต้องพบเจอสักครั้งในชีวิต
จับสัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาคนนั้นอาจเข้าข่าย Man Child
บางคนอาจจะเคยมีประสบการณ์กับพฤติกรรมที่ไม่เป็นผู้ใหญ่ของคนใกล้ชิดกันมาบ้าง เช่น เพื่อนร่วมงานที่ขาดความรับผิดชอบ สามีระเบิดอารมณ์ใส่ภรรยา หรือลูกชายวัยทำงานที่ยังต้องพึ่งพาพ่อแม่เพื่อจัดการธุระส่วนตัว ซึ่งดูเผินๆ เขาอาจไม่แตกต่างจากผู้ชายในวัยผู้ใหญ่ทั่วไป แล้วอะไรคือสัญญาณที่บ่งบอกว่าผู้ชายคนไหนเข้าข่าย Man Child แนะนำให้ลองสังเกตว่าคนที่คุณกำลังสงสัย หรือแม้แต่ตัวคุณเองมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่
- ขาดความรับผิดชอบ ไร้ความน่าเชื่อถือ พึ่งพาผู้อื่นตลอดเวลา
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การขาดความรับผิดชอบนั้น เป็นปัญหาสำคัญในการดำเนินชีวิต สำหรับ Man Child นั้นแม้แต่เรื่องพื้นฐานส่วนตัวเขายังหวังพึ่งพาผู้อื่น เขามักจะหลีกเลี่ยงหน้าที่ และยังต้องถูกกระตุ้นให้ทำสิ่งต่างๆ แม้อยู่ในความรับผิดชอบของตน บางครั้งเขาอาจโน้มน้าวให้คนอื่นจัดการงานนั้นแทนเขา จึงสูญเสียความน่าเชื่อถือและกระทบต่อหน้าที่การงาน ความสัมพันธ์ในครอบครัว คู่รัก หรือบกพร่องในความเป็นพ่อแม่ ตามมาได้
- ขาดการจัดการอารมณ์ที่ดี ขาดการเห็นอกเห็นใจ กลัวความผูกพัน
เป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ ที่จะทำความเข้าใจในความรู้สึกทั้งของตนเองและผู้อื่น เขาจึงไม่สามารถแสดงความรู้สึกอย่างเหมาะสม และควบคุมอารมณ์ตนเองได้ไม่ดี เขาอาจโมโหฉุนเฉียว เหวี่ยงอาละวาดเหมือนเด็ก หากสถานการณ์ต่างไปจากที่คาดไว้
ในความสัมพันธ์เชิงคู่รัก เขามักหลีกเลี่ยงการพูดคุยถึงแผนอนาคต โดยอาจตอบโต้ด้วยความรุนแรง เพื่อกลบเกลื่อนประเด็นหลัก อาจเป็นเพราะความไม่เชื่อมั่นในความผูกพัน
- หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ไม่ยอมรับความผิด
เมื่อเกิดความขัดแย้ง เขาอาจจะหนีไปจากสถานการณ์นั้น และไม่ยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาดของตน หรืออาจปฏิเสธว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นปัญหา แต่จะโทษไปที่ปัจจัยแวดล้อมหรือคนอื่นเสียมากกว่า เนื่องจากเขาไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาอย่างมีขั้นตอน
เขาอาจเพิกเฉย เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และตั้งกำแพงขึ้นมาปกป้องตัวเอง หรือมากไปกว่านั้นคือ เขาอาจแสดงว่าคนอื่นทำให้เขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นปัญหา หรือเขาไม่ได้รับความยุติธรรม
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาด้านความสัมพันธ์บางคนให้ข้อสังเกตปัญหาพฤติกรรมอื่นเพิ่มเติม เช่น การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่สามารถวางแผนการใช้จ่าย รวมไปถึงการเสพติดกิจกรรมบางอย่าง บนพื้นฐานความเข้าใจร่วมกันคือ Man Child มักแสดงออกคล้ายเด็กหรือวัยรุ่น ดังนั้นในบางกรณี การตอบสนองอาจนอกเหนือการคาดเดา
สาเหตุที่อาจเกี่ยวข้องกับภาวะ Man-Child
เช่นเดียวกับ ประเด็นปัญหาทางจิตวิทยาอื่นๆ ที่มีความซับซ้อน ภาวะ Man Child ยากที่จะระบุแน่ชัดได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ในความเห็นของนักจิตวิทยาที่สนใจปัญหานี้ได้เสนอปัจจัยที่มีความเป็นไปได้ว่ามีความเชื่อมโยงและส่งเสริมให้เกิดภาวะ Man Child ได้แก่ ผลกระทบจากการเลี้ยงดูและประสบการณ์ในวัยเด็ก สุขภาวะทางจิต หรือปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม
- บาดแผลทางใจในวัยเด็ก
วัยเด็ก เป็นรากฐานสำคัญของพัฒนาการและการปรับตัวสู่วัยผู้ใหญ่ รูปแบบการเลี้ยงดูที่ไม่สมดุล ไม่ว่าจะเป็น การดูแลหรือปกป้องมากเกินไป การเลี้ยงดูแบบเข้มงวดมากเกินไป หรือการลงโทษที่รุนแรง และการขาดต้นแบบที่แสดงพฤติกรรมเชิงบวก ความผูกพันแบบไม่มั่นคง หรือถูกละเลยเพิกเฉยทางอารมณ์ อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางพัฒนาการทางอารมณ์ที่สมบูรณ์ของเด็กต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ และก่อให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ตามมาได้
ผลกระทบที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ประสบการณ์เชิงลบในวัยเด็ก เช่น การถูกละเลยทางอารมณ์ ถูกทอดทิ้ง การถูกทำร้าย หรือภาวะที่เป็นอันตรายภายในบ้าน มักสร้างบาดแผลหรือปมในใจ (Trauma) ส่งผลต่อการควบคุมและปรับอารมณ์ในภายหลัง และเป็นปัญหากับการสร้างรูปแบบความผูกพันที่ปลอดภัยและมั่นคงเมื่อพวกเขาโตขึ้น
- สุขภาวะทางจิต
ภาวะสุขภาพจิต หรือโรคทางจิตเวชบางประการที่ไม่ได้รับการแก้ไข อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยร่วมที่ทำให้การจัดการอารมณ์ และการแสดงความรับผิดชอบ หรือการทำงานให้สำเร็จนั้นเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับผู้ที่มีภาวะ Man Child เช่น โรคสมาธิสั้น (ADHD) โรควิตกกังวล (Anxiety Disorder ) หรือภาวะซึมเศร้า (Depression)
ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมแตกต่างจากคนทั่วไป และมักจะมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน การเข้าสังคม รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม การบำบัดและการรักษาสามารถช่วยให้ผู้ที่มีภาวะเหล่านี้มีพัฒนาการทางอารมณ์และทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลดีขึ้นได้
- อิทธิพลทางสังคมและวัฒนธรรม
อีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ได้แก่ บรรทัดฐานทางวัฒนธรรมและความคาดหวังของสังคม เด็กอาจถูกเลี้ยงมาด้วยข้อจำกัดในการแสดงอารมณ์ความรู้สึกตามความเป็นจริงของตน เช่น การสอนให้ผู้ชายเก็บความรู้สึกเศร้าหรือความกลัวเอาไว้ หรือสอนให้ผู้หญิงดูแลเอาใจใส่และรับรู้ความรู้สึกของครอบครัวและคนรอบข้างก่อนตนเองเสมอ ส่งผลให้ในบางกรณีความกดดันดังกล่าวอาจมีส่วนทำให้บุคคลนั้นมีพฤติกรรมในลักษณะ Man Child ได้
ที่น่าสนใจคือ แม้ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ผู้ชายจะมีความกดดันน้อยลงในบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบแบบผู้ใหญ่-ผู้นำครอบครัว ส่วนบทบาททางสังคมของผู้หญิงเองก็เปลี่ยนไป แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก ได้เปลี่ยนรูปแบบความสัมพันธ์ของผู้คนจากการมีปฏิสัมพันธ์แบบเผชิญหน้าเป็นความสัมพันธ์ผ่านโลกออนไลน์แทน ส่งผลให้เด็กที่เติบโตขึ้นในบริบทนี้ จำนวนไม่น้อยขาดทักษะในการรับมือกับความซับซ้อนทางอารมณ์ทั้งของตนเองและผู้อื่น โดยเฉพาะการสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพในโลกความเป็นจริง นั่นทำให้ภาวะ Man Child อาจเชื่อมโยงกับอิทธิพลทางสังคมวัฒนธรรมในลักษณะนี้ได้ด้วย
รับมืออย่างไรหากอยู่ในความสัมพันธ์กับ Man Child
อาจเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก เมื่อต้องอยู่ในความสัมพันธ์กับผู้มีภาวะ Man Child หากแต่แนวทางเบื้องต้นต่อไปนี้ อาจช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ ลดความตึงเครียด และสามารถรับมือกับความขัดแย้งด้วยทัศนคติเชิงบวก นำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ในทางที่ดีขึ้นในทุกมิติ รวมถึงความรู้สึกต่อตนเองที่ดีขึ้นได้
1. การสื่อสารที่ชัดเจน
ควรเลือกใช้แนวทางที่ ตรงไปตรงมาและชัดเจน มากกว่าการใช้คำกว้างๆ แต่ควรระบุถึง พฤติกรรมที่เฉพาะเจาะจง ที่ต้องการพูดถึง ใช้ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน โดยชี้ให้เห็นว่าคำพูดหรือการกระทำใด ส่งผลต่อความรู้สึกของคุณอย่างไร
แทนที่จะพูดว่า “คุณไม่มีความรับผิดชอบ” เปลี่ยนให้ชัดเจนเป็น “ผมรู้สึกไม่มั่นใจว่าโปรเจ็กนี้ของเราจะเสร็จตามกำหนด เพราะคุณไม่ส่งข้อมูลชุดสุดท้ายให้ตามเวลาที่เราตกลงกันไว้” จะช่วยนำไปสู่การฟังอย่างไม่มีอคติ และหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกัน ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าอาจต้องพูดคุยเรื่องเดิมซ้ำหลายครั้ง
2. สนับสนุนในเชิงบวก
กล่าวคำชมเชย ให้กำลังใจ ให้เวลา เพื่อให้เขาตระหนักถึงพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบ มากกว่าการกดดันหรือตำหนิซ้ำเติมในทันที เว้นระยะให้เขาได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองทีละเล็กทีละน้อย ให้โอกาสในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง เพื่อการเรียนรู้และปรับปรุงในครั้งต่อไป
โดยอาจเสนอทางเลือกในการแก้ไข “ครั้งต่อไป เราลองหาเส้นทางล่วงหน้า จะได้ไปทันเวลานัด” หรือชมเชยและสร้างความมั่นใจ “งานนี้คุณทำได้ดีขึ้นมาก” สร้างความรู้สึกร่วมกัน “มีอะไรให้ช่วยบอกได้นะ”
3. สร้างขอบเขตที่ชัดเจน
หากจำเป็น อาจต้องสร้างขอบเขตในความสัมพันธ์อย่างชัดเจน กำหนดว่าพฤติกรรมแบบไหนที่เรายอมรับได้ รู้สึกปลอดภัยและสบายใจ และแบบไหนที่เรารับไม่ได้ พูดคุยด้วยความใจเย็น ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายแต่ชัดเจน
เช่น คุณอาจกำหนดขอบเขตกับคู่รักว่า จะไม่ไปรับประทานอาหารนอกบ้าน หากยังไม่สามารถจัดการกับการระเบิดทางอารมณ์เหล่านั้นได้ หรือกับลูกที่โต้เถียงด้วยอารมณ์ กำหนดว่า การคุยกันต้องไม่พูดจาหยาบคาย หรือตะคอกใส่กัน และไม่ทำลายข้าวของ
4. สนับสนุนในการขอความช่วยเหลือ
ผู้มีภาวะ Man Child อาจไม่สามารถตระหนักได้ว่า พฤติกรรมและทัศนคติที่เขาแสดงออกนั้นมันเป็นปัญหาอย่างไร และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์เพียงใด ควรสร้างแรงจูงใจให้เขาหันมาสำรวจตัวเองอย่างจริงจัง ชี้ให้เห็นข้อดีที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนะนำทางเลือกให้เขา โดยอาจเริ่มจากการพูดคุยขอคำแนะนำจากคนที่ไว้ใจ หากในบางกรณีไม่สามารถจัดการแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ควรสนับสนุนให้ขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
5. มีทัศนคติเชิงบวก
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงทัศนคติหรือพฤติกรรมของคนที่ขาดวุฒิภาวะ อาจเป็นเรื่องไม่ง่ายนักและต้องใช้เวลา แต่เราสามารถปรับวิธีตอบสนองต่อเขาได้ ลองปรับมุมมองและความคาดหวังของเราเอง โดยพยายามเรียนรู้รูปแบบพฤติกรรมที่เป็นปัญหาของพวกเขา และหาวิธีรับมือ
หากไม่ได้รับความร่วมมือจาก Man Child ที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเอง ควรพิจารณาขอความช่วยเหลือ อาจจะเป็นหัวหน้างาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล พ่อแม่ หรือคนใกล้ชิด
ในกรณีที่เป็นคนในครอบครัว คู่ความสัมพันธ์ หรือคนใกล้ชิด หากมองว่าไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง อาจขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยา จิตแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับพฤติกรรม หรือหาข้อมูลเบื้องต้นจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่เชื่อถือได้
Diane Botta นักสังคมสงเคราะห์คลินิก ให้ความคิดเห็นว่า การขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์นั้น ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขไม่ได้ หากบุคคลได้เรียนรู้ถึงสาเหตุเบื้องต้น และได้รับการสนับสนุนในแนวทางที่เหมาะสม จะทำให้บุคคลสามารถเริ่มแก้ไขพัฒนาการทางอารมณ์ของตนเองได้ ผ่านการตระหนักรู้ในตนเอง และการบำบัด และเป็นสัญญาณที่ดีมาก ถ้าพวกเขาสนใจที่จะขอความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขพฤติกรรมของตนเอง
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าปลายทางของความสัมพันธ์จะสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นตามที่คาดหวังไว้ได้หรือไม่ สิ่งสำคัญคือ ผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์หรือต้องทำงานร่วมกับ Man Child ควรสังเกตตัวเองว่า มีความรู้สึกไม่สบายใจ วิตกกังวล สับสน เหนื่อยล้า มากเกินไปหรือไม่ หากรู้สึกว่าพฤติกรรมของเขาส่งผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพจิตของคุณจนเกินจะรับไหว หากไม่สามารถสร้างขอบเขตที่ชัดเจน แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อดูแลสุขภาพจิตของตัวเองและหาแนวทางแก้ไขต่อไป
อ้างอิง
Julian Carter. (2025) What is a Manchild?
Marni Feuerman, LCSW, LMFT. (2024) How to Deal When Your Partner Is a Man Child
Diane Botta, LCSW, What Causes Emotional Immaturity? Understanding the Root of Emotional Development
11 signs of emotional maturity (and how to become more mature) — Calm Blog
The National Academies Press (US) 2015 Summary – Investing in the Health and Well-Being of Young Adults – NCBI Bookshelf