Skip to content
วัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัย
  • Creative Learning
    Creative learningLife Long LearningUnique SchoolEveryone can be an EducatorUnique Teacher
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Character building21st Century skillsEducation trendLearning TheoryGrowth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learning
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    BookMovieSpace
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
วัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัย
Creative learning
24 June 2025

‘ไม่สอนสูตร ไม่บอกวิธี’ ห้องเรียนคณิตฯ Pro-Active ของ ‘ครูบอย – มานะ คำจันทร์’ ที่เน้นกระบวนการคิด ติดตั้งทักษะการแก้ปัญหา

เรื่อง นฤมล ทับปาน ภาพ ปริสุทธิ์

  • ห้องเรียนคณิตศาสตร์ชั้นป.1 ของ ครูบอย – มานะ คำจันทร์ โรงเรียนบ้านโก จังหวัดศรีสะเกษ ใช้นวัตกรรม Pro-Active ที่เน้นการสร้างโจทย์และออกแบบสถานการณ์ที่ท้าทาย แก้โจทย์ด้วยวิธีที่หลากหลาย ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหา และพบข้อสรุปด้วยตนเอง
  • ผลลัพธ์คือเด็กๆ มีส่วนร่วมและสนุกกับการเรียนมากขึ้น มีอิสระในการคิดโดยไม่จำกัดรูปแบบการหาคำตอบ แต่ได้ผลลัพธ์เป็นกระบวนการคิดที่เด็กๆ ค้นพบด้วยตัวเอง กระตุ้นความกระหายอยากเรียนรู้ เกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
  • ในฐานะครูผู้สอนครูบอยอยากจะสร้างห้องเรียนที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย ในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่ถูกจำกัดความคิด หรือตัดสินจนเด็กกลัว สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น มีกิจกรรมให้เด็กได้สนุกกับการเรียนและเรียนอย่างมีความสุข

“ผมจะเน้นการสอนคณิตศาสตร์โดยไม่เริ่มต้นจากตัวเลข แต่จะเน้นกระบวนการคิดของนักเรียนเป็นหลัก” 

ครูบอย – มานะ คำจันทร์ โรงเรียนบ้านโก จังหวัดศรีสะเกษ นำเสนอห้องเรียนที่เปลี่ยนไปสู่ผลลัพธ์นักเรียนที่เปลี่ยนแปลง ในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถอดประสบการณ์การขับเคลื่อนโครงการ TSQM-A จ.ศรีสะเกษและภูเก็ต โดยยกกรณีตัวอย่างการออกแบบการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้นวัตกรรม Pro-Active เรื่องการบวกลบตัวเลขหนึ่งหลักและสองหลัก

“คณิตศาสตร์แบบเดิมสอนเน้นเนื้อหา การจำ การท่องสูตร และเน้นนิยามมุ่งสู่คำตอบ แต่การสอนคณิตศาสตร์ Pro-Active ไม่เริ่มด้วยตัวเลขแต่เป็นการสร้างโจทย์และออกแบบสถานการณ์ที่ท้าทาย แก้โจทย์ด้วยวิธีที่หลากหลาย ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหา และพบข้อสรุปด้วยตนเอง โดยจะไม่สอนวิธี แต่จะสร้างกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ค้นพบวิธีการแก้ปัญหา มุ่งให้เข้าใจคณิตศาสตร์และให้เกิดทักษะทางคณิตศาสตร์”

นี่คือหลักการของคณิตศาสตร์ Pro-Active ที่ครูบอยนำไปในห้องเรียนคณิตศาสตร์ของตนเอง ทำให้เด็กๆ มีส่วนร่วมและสนุกกับการเรียนมากขึ้น มีอิสระในการคิดโดยไม่จำกัดรูปแบบการหาคำตอบ แต่ได้ผลลัพธ์เป็นกระบวนการคิดที่เด็กๆ ค้นพบด้วยตัวเอง กระตุ้นความกระหายอยากเรียนรู้ เกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ 

ครูบอย – มานะ คำจันทร์ โรงเรียนบ้านโก จังหวัดศรีสะเกษ

สอนคณิตศาสตร์ Pro-Active ด้วยกระบวนการชง-เชื่อม-ใช้ 

ห้องเรียนคณิตศาสตร์ที่หลายคนคุ้นเคยอาจจะเป็นแค่การนั่งแก้โจทย์ที่ครูโยนให้ แล้วรอฟังเฉลยท้ายคาบ แต่ห้องเรียนคณิตศาสตร์ของครูบอยต่างออกไป มีเกมที่ชวนคิดก่อนเข้าบทเรียน มีบทสนทนาที่ชวนให้แสดงความเห็นโดยไม่ถูกตัดสินว่าถูกหรือผิด เน้นกระบวนการทำงานกลุ่ม ที่สำคัญเด็กๆ มีความกระตือรื้อร้นที่จะมีส่วนร่วมในห้องเรียน

ครูบอยเล่าถึงเบื้องหลังกระบวนการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ว่า เริ่มจากการวิเคราะห์ภูเขาน้ำแข็งก่อน ว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้มีอะไรบ้าง เช่น นักเรียนแก้ไขปัญหาโจทย์คณิตศาสตร์ได้ แต่ไม่เข้าใจ เพราะเป็นการท่องจำเพื่อนำไปสอบ จากนั้นจึงกำหนดสิ่งที่อยากให้เป็น เช่น ทักษะการคิด การแก้ปัญหา เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาในชีวิตจริงได้ และที่สำคัญครูจะต้องกระตุ้นให้เกิดการแชร์ ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีความกระตือรือร้น อีกทั้งสอดแทรกความสนุก นักเรียนจึงจะค้นพบข้อสรุปหลักการของตนเองได้

“กระบวนการคณิตศาสตร์ Pro-Active ของผมจะมีอยู่ 3 กระบวนการหลักๆ ขั้นแรกคือ ขั้นเตรียมผู้เรียน ขั้นที่สองคือ ขั้นสอน และสุดท้ายคือ ขั้นสรุป หรือ AAR”

ในขั้นสอน จะใช้กระบวนการชง-เชื่อม-ใช้ เป็นหลัก ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซต์โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ระบุว่า การสอนคณิศาสตร์แบบ Pro-Active ด้วยกระบวนการชง-เชื่อม-ใช้  สามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ Creative Thinking ได้อย่างดี เพราะทุกคนจะถูกท้าทายด้วยโจทย์ ได้แสดงความคิดของตน ได้ฟังความคิดของคนอื่น ทุกคนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการค้นพบคำตอบ

ครูบอยนำกระบวนการชง-เชื่อม-ใช้ มาออกแบบหน่วยการเรียนรู้ของตนเอง โดยกำหนดไว้ว่า

  • ขั้นชง: ครูให้โจทย์ ซักถามหรือชวนสนทนา เพื่อทำความเข้าใจโจทย์ร่วมกัน โดยนั่งล้อมวงกัน 
  • ขั้นเชื่อม: ให้เด็กแต่ละคนคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยทำกระบวนการกลุ่ม สามารถใช้สื่อและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้หลากหลาย และสามารถอธิบายวิธีการคิดนั้นได้
  • ขั้นใช้: เด็กได้มีค้นพบวิธีคิดและแก้โจทย์ปัญหาด้วยตนเอง และใช้วิธีคิดของตนเองแก้โจทย์ใหม่ได้

“เมื่อถึงคาบคณิตศาสตร์ เด็กๆ มีความอยากเรียน ยกตัวอย่างในขั้นชง ครูจะให้สถานการณ์เด็ก ให้ตั้งตาราง 9 ช่อง โดยใช้แท่งไม้หรือหลอดที่มีความยาวเท่ากัน และมีสี่เหลี่ยมเล็กๆ แทนหน่วยจิ๋ว โจทย์คือให้เอาหน่วยจิ๋วมาวางในช่องแนวตั้งและแนวนอน โดยจำนวนจิ๋ว ต้องไม่ซ้ำกัน และผลรวมต้องเท่ากันทั้งแนวตั้ง แนวนอน แต่ละคนก็จะค้นหาคำตอบกัน และนำเสนอให้กับเพื่อน”

เด็กสนุกและท้าทายกับการคิดแก้โจทย์ปัญหา 

ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ครูบอยเห็นได้ชัด แน่นอนว่าเด็กๆ สนุกกับการเรียนคณิตศาสตร์มากขึ้น และมีความกระหายอยากที่จะเรียนรู้และท้าทายตนเอง ในการค้นหาวิธีคิดใหม่ๆ 

“เด็กๆ ได้มีกระบวนการกลุ่ม ได้ลองสร้างโจทย์เอง อย่างในสถานการณ์การบวกและลบ ครูให้เด็กคิดโจทย์มากลุ่มละ 2 ข้อ และให้เด็กๆ เลือกแก้โจทย์ โดยที่ก็ไม่ได้บอกว่าจะต้องทำทุกข้อ แต่ผลลัพธ์คือเด็กๆ มีความกระหายอยากที่จะแก้โจทย์เองทุกข้อ 

ทำให้ครูได้มองเห็นว่าเด็กเขามีแพทเทิร์นของเขา มีกระบวนการคิดของเขา ซึ่งกระบวนการคิดของเขาได้มาซึ่งคำตอบเดียวกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้บอกว่าคำตอบนี้ถูก แต่ให้เขาได้ลองพิสูจน์เอง แล้วเด็กๆ ก็ท้าทายกันเอง อยู่ในขั้นใช้ อยากให้เพื่อนได้แสดงวิธีการคิด แข่งกันว่าใครจะมีวิธีการคิดที่หลากหลาย ใครจะได้กี่วิธี เขาก็สนุกสนานกัน เป็นบรรยากาศการเรียนที่ดี” 

“คนอาจจะมองว่าที่เด็กคิดมันเป็นเส้นทางการคิดที่ซับซ้อน แต่ครูได้มองเห็นว่าเด็กๆ เขาได้มีเส้นทางการคิด ซึ่งไม่มีถูกผิด แต่เขาสร้างข้อสรุปเชิงหลักการของเขาเองได้ 

หลังจากนั้นก็จะมาขั้นสรุป AAR กัน ให้เขาเขียนว่า เขาได้เรียนรู้อะไรบ้าง เช่น เขาก็จะบอกว่าได้เรียนรู้การบวกการลบ แล้วได้มีความรู้ใหม่อะไรบ้าง เขาก็บอกว่า ได้เรียนรู้วิธีคิดการบวกการลบและตั้งโจทย์เองในกลุ่ม”

สุดท้ายนี้ ครูบอยมองว่า ในฐานะครูผู้สอนอยากจะสร้างห้องเรียนที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยในการเรียน ในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่ถูกจำกัดความคิด หรือตัดสินจนเด็กกลัว ไม่กล้าที่จะแสดงวิธีที่หลากหลายของตนเอง อีกทั้งอยากสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น มีกิจกรรมให้เด็กได้สนุกกับการเรียนและเรียนอย่างมีความสุข 

Tags:

พื้นที่ปลอดภัยวิชาคณิตศาสตร์Active Learningทักษะการแก้ปัญหานวัตกรรม Pro-Activeครูบอย - มานะ คำจันทร์โรงเรียนบ้านโกกระบวนการชง-เชื่อม-ใช้ความคิดสร้างสรรค์(Creativity)

Author:

illustrator

นฤมล ทับปาน

Photographer:

illustrator

ปริสุทธิ์

Related Posts

  • School of future-building-2
    tranformative learning
    โรงเรียนต้องเป็น ‘โรงสร้าง’ ไม่ใช่ ‘โรงสอน’ สร้างนิเวศการเรียนรู้ หนุนเด็กปล่อยพลัง สร้างสมรรถนะใส่ตัว

    เรื่อง The Potential

  • ‘โรงเรียน = รุนแรง’ สมการนี้สังคมต้องร่วมแก้ …เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะไม่ถูกรังแก

    เรื่อง อภิบาล ว่องวงษ์รักษ์

  • เรียนเมตริกซ์จาก KFC เรียนตรีโกณฯ จากคดีฆาตกรรม: ห้องเรียนคณิตของ ‘ครูนัน’ ที่พาเด็กเชื่อมใช้ได้จริง

    เรื่อง กนกพิชญ์ อุ่นคง

  • Everyone can be an Educator
    ครูไก่แจ้ – สิทธิพงษ์ ติยเวศย์ : ครูอาสาวิชาคณิตศาสตร์ ที่เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าในตัวเองมากกว่าท่องสูตร

    เรื่อง นฤมล ทับปาน ภาพ ปริสุทธิ์

  • Unique Teacher
    ‘จงทำให้เด็กรู้สึกโชคดีที่มีเราเป็นครู’ ครูคณิตที่นิยามตัวเองเป็น ‘นักการศึกษา’ ของครูร่มเกล้า ช้างน้อย (2)

    เรื่อง สัญญา มัครินทร์ณิชากร ศรีเพชรดี

  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts
  • Creative Learning
  • Life
  • Family

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel