Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น

Month: June 2022

เข้าใจลูกในวันที่เขาเปลี่ยนไป EP.1 ‘วัยทอง 2 ขวบ’ (Terrible 2) มีจริงหรือ?
Early childhoodFamily Psychology
1 June 2022

เข้าใจลูกในวันที่เขาเปลี่ยนไป EP.1 ‘วัยทอง 2 ขวบ’ (Terrible 2) มีจริงหรือ?

เรื่อง เมริษา ยอดมณฑป ภาพ ninaiscat

  • พ่อแม่บางท่านอาจจะตกใจมากที่อยู่ดีๆ ลูกของตนอาจจะเปลี่ยนจากเด็กยิ้มง่ายเป็นเด็กที่ขี้หงุดหงิด และสามารถระเบิดอารมณ์ได้ราวกับภูเขาไฟ ร้องไห้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เรียกว่า ‘วัยทอง 2 ขวบ’
  • ‘วัยทอง 2 ขวบ’ หมายถึง ภาวะปกติที่เกิดขึ้นในพัฒนาการของเด็กวัยหัดเดิน (Toddler) เกิดจากการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของร่างกายและสมองของเด็กที่เกิด ขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งช่วงวัยนี้เด็กยังมีการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Egocentric) ทำให้เด็กวัยนี้มีความหงุดหงิดและฉุนเฉียวง่ายกว่าเด็กวัยอื่นๆ
  • พ่อแม่ควรเรียนรู้ที่จะรับมือกับช่วงวัยนี้ของลูก และทำความเข้าใจว่าพฤติกรรมเป็นสิ่งที่สอนและเปลี่ยนแปลงได้ แต่สิ่งที่เราไม่ควรทำอย่างยิ่งยวดคือการตำหนิตัวตนของลูกหรือพูดจาทำร้ายเขา

วัยทอง 2 ขวบ (Terrible 2) คืออะไร?

‘วัยทอง 2 ขวบ’ หมายถึง ภาวะปกติที่เกิดขึ้นในพัฒนาการของเด็กวัยหัดเดิน (Toddler) ไม่ใช่เพียง เด็กวัย 2 ขวบเท่านั้นที่จะสามารถเกิดภาวะวัยทอง 2 ขวบ ภาวะนี้สามารถเกิดได้ตั้งแต่เด็กวัย 18  เดือน – 4.1 ปี เนื่องจากพัฒนาการของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป เด็กบางคนเกิดภาวะวัยทองสองขวบตั้งแต่วัย 1 ขวบครึ่ง ในขณะที่เด็กบางคนอาจจะเพิ่งจะเกิดภาวะนี้ในวัย 4 ขวบ (Sisterhen &  Wy, 2021) 

พ่อแม่บางท่านอาจจะรู้สึกเบาใจที่ลูกของตนไม่เกิดวัยทอง 2 ขวบเหมือนเด็กคนอื่นเขาตอนที่ลูกอายุ 2  ขวบ แต่กลับต้องตกใจมากที่อยู่ดีๆ ลูกของตนอาจจะเปลี่ยนจากเด็กยิ้มง่ายเป็นเด็กที่ขี้หงุดหงิด ภายในช่วงข้ามคืนในวัย 3-4 ขวบ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้

วัยทอง 2 ขวบเกิดขึ้นได้อย่างไร?

สาเหตุของวัยทอง 2 ขวบเกิดจากการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของร่างกายและสมองของเด็กที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาดังกล่าว ตามพัฒนาพัฒนาการของมนุษย์ วัย 2-3 ปี ตามทฤษฎีของ Erik  Erikson จะให้ความสำคัญกับการพัฒนา ‘ความเป็นตัวของตัวเอง (Sense of Autonomy)’ เด็กวัยนี้เริ่มเรียนรู้การใช้ร่างกายสำรวจโลกและทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้เด็กๆ พยายามทดสอบข้อจำกัดของตัวเองอยู่เสมอว่าร่างกายของเขาทำอะไรได้บ้าง ซึ่งร่างกายและสมองที่เพิ่งเติบโตยังตอบ สนองได้ไม่ทันใจตัวเอง ยังควบคุมสิ่งต่างๆ ไม่ได้อย่างที่ใจต้องการ เนื่องด้วยเขาเพิ่งเริ่มฝึกฝนและเรียนรู้ 

ผนวกกับช่วงวัยนี้เด็กยังมีการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Egocentric) ที่สูงมาก ส่งผลให้เขาคิดว่าทุกๆ อย่างควรจะเป็นดังใจต้องการ ทำให้เด็กวัยนี้มีความหงุดหงิดง่ายและฉุนเฉียวง่ายกว่าเด็กวัยอื่นๆ เพราะในความเป็นจริงเขาอาจจะไม่ได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ และตัวเขาเองยังไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ 

บ่อยครั้งที่เขาทดลองบางอย่าง เขาก็ถูกห้าม และบ่อยครั้งที่เขาอยากทำอะไรเอง แต่กลับทำออกมาไม่ได้ดั่งใจ เช่น อยากรินน้ำใส่แก้วเอง น้ำก็ทะลักหกเลอะไปหมด ซ้ำร้ายอาจจะเผลอทำแก้วตกแตก พาลให้โดนดุอีก อยากกินข้าวเอง ก็ทำปากเลอะเทอะ ทำให้โดนผู้ใหญ่คอยหยิบผ้ามาเช็ดปากจนพาลให้รู้สึกหงุดหงิด ตลอดเวลา อยากปีนสูงๆ ก็ถูกพาตัวลงมา เพราะผู้ใหญ่กลัวว่าเขาจะบาดเจ็บ อยากวิ่งเร็วๆ ตามพี่ๆ ไป ก็วิ่งแล้วหน้าคะมำเสียได้ 

เป็นธรรมดาที่การเริ่มต้นฝึกฝนอะไรบางอย่างย่อมเป็นเรื่องยากและท้าทายในช่วงแรก แต่สำหรับเด็กเล็ก เขาต้องการผู้ใหญ่ที่เข้าใจและให้โอกาสเขาทำให้มากที่สุด แต่บ่อยครั้งผู้ใหญ่อาจจะกลัวว่าเด็กจะลำบากหรือทำไม่ได้ หรือแม้กระทั่งกลัวว่าสิ่งที่เด็กทำจะสร้างความลำบากให้กับเราต้องมาเก็บกวาดทำความสะอาดทีหลัง จึงไม่ได้ปล่อยให้เขาลงมือทำมันอย่างที่ควรจะเป็น

ดังนั้นความสามารถที่จำเป็นต้องพัฒนามาพร้อมกับด้านร่างกาย คือ ‘การควบคุมร่างกายตนเอง’ ซึ่งทักษะนี้จะเกิดขึ้นได้ หากเด็กได้ลงมือทำและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

‘การช่วยเหลือตัวเอง (Self care)’ เท่ากับ ‘พื้นฐานสำคัญในการใช้ชีวิต’ และ ‘รากฐานของความมั่นใจในตนเอง’ ภารกิจที่สำคัญของพ่อแม่และผู้ใหญ่ของเด็กวัยนี้ คือ สร้างความมั่นใจในตัวเองให้เด็กปฐมวัยด้วย การคืน ‘Autonomy’ หรือ ‘โอกาสในการลงมือทำ’ มากที่สุด

สัญญาณของวัยทอง 2 ขวบ

เด็กที่กำลังเข้าสู่วัยทอง 2 ขวบจะมีพฤติกรรมบางอย่างมากกว่าเด็กวัยอื่นๆ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนให้ เรารู้ว่าพวกเขาเข้าสู่ภาวะนี้แล้ว 

ตัวอย่างสัญญาณ 

1. ทะเลาะกับพี่น้อง หรือ เพื่อนวัยเดียวกันบ่อยขึ้นกว่าปกติ 

2. มีการทำร้ายร่างกายคนอื่นหรือตัวเองเวลาที่โกรธมากๆ เช่น กัด ตี เตะ ผลัก ต่อย 3. ส่งเสียงกรี๊ด หรือ พูดตะโกนเสียงดัง ทั้งในเวลาเล่นสนุกและไม่พอใจ 

4. พูดปฏิเสธกับหลายๆ คำสั่งและสิ่งที่พ่อแม่บอกให้ทำ ‘ไม่เอา’ ‘ไม่กิน’ ‘ไม่นอน’ ‘ไม่ไป’ ‘ไม่รัก’ และอีกสารพัด ‘ไม่…’ แม้ว่าบางครั้งเขาอาจจะไม่ได้หมายความเช่นนั้นจริงๆ 

5. มีอาการร้องอาละวาด โวยวาย ทิ้งตัวลงไปนอนกับพื้น ชักดิ้นชักงอ เวลาไม่ได้ในสิ่งที่ ต้องการ (Temper Tantrum) พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามปกติของเด็กวัยนี้ หากแต่ถ้าเกิดขึ้นถี่และบ่อยครั้งจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การกิน การนอน การไปที่ต่างๆ พ่อแม่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์พัฒนาการ กุมารแพทย์ จิตแพทย์เด็ก และนักจิตวิทยาเด็ก เพื่อให้ได้รับคำแนะนำมาปรับเปลี่ยน การเลี้ยงดูและรับมือกับพฤติกรรมลูกอย่างเหมาะสมต่อไป เพราะในบางครั้งเด็กบางคนอาจจะมีความไวต่อความรู้สึก (Highly sensitivity) หรือมีความผิดปกติในพัฒนาการบางด้าน ซึ่งส่งผลให้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมากกว่าปกติได้

‘Temper Tantrum’ มวลอารมณ์มหาศาลที่เกิดขึ้นกับเด็กวัยทอง 2 ขวบ

พ่อแม่บางท่านอาจจะสงสัยว่า “ลูกที่ตัวเล็กๆ แต่ทำไมกลับอัดแน่นไปด้วยอารมณ์มหาศาล” ทำไมเวลาลูกวัย 2 ขวบโกรธถึงระเบิดอารมณ์ได้ราวกับภูเขาไฟ ร้องไห้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และเสียงอาละวาดของเด็กน้อยมีพลังการทำลายล้างสูงมาก เพราะผู้ใหญ่หลายคนยอมแพ้ตั้งแต่เด็กน้อยเริ่มส่งเสียงร้องแล้ว

แนวทางในการรับมือกับ Temper Tantrum สำหรับพ่อแม่

1. ป้องกันก่อนเกิด 

เด็กวัยนี้มักจะหงุดหงิดและโมโหอาละวาดขึ้นมาจากเรื่องเล็กๆ ที่ผู้ใหญ่อย่างเราอาจจะมองข้ามไป เช่น เวลาเด็กหิว เวลาเด็กง่วง เวลาเด็กอึดอัดไม่สบายตัวเนื่องด้วยอากาศร้อน คนเยอะ และอื่นๆ 

เด็กอาจจะไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ตัวเขาหงุดหงิดนั้นมากจากเรื่องง่ายๆ เช่น เขากำลังหิว ง่วง หรือ ไม่สบายตัว เพราะสิ่งเดียวที่เขารับรู้คืออารมณ์ของเขาที่กำลังจะปะทุขึ้นมาแล้ว 

หากพ่อแม่เข้าใจและสังเกตเห็นสัญญาณของความหิว ความง่วง และอื่นๆ เราให้การช่วยเหลือกับลูก ด้วยการพาเขาไปทำในสิ่งที่ร่างกายของเขาต้องการ เช่น ใกล้ถึงเวลาอาหารแล้ว เราก็พาลูกไปกิน ใกล้ถึงเวลานอนแล้ว เราก็พาลูกเข้านอน คนเริ่มเยอะเกินไปแล้ว เราพาลูกออกมาในพื้นที่โล่งๆ สบายๆ 

เด็กจะค่อยๆ สงบและผ่อนคลายความคับข้องใจของเขาลง ทั้งนี้พ่อแม่ควรให้การกระตุ้นถามให้ลูกรู้ตัวว่าเขาต้องการอะไร เพื่อสอนให้ลูกรับรู้ความต้องการของตัวเองและสื่อสารออกมาได้ด้วยตัวเอง ในครั้งต่อๆ ไป เช่น

“หิวไหมลูก”

“ง่วงหรือยังลูก”

“เหนื่อยไหมลูก” 

ถ้าลูกตอบว่า “ไม่หิว ไม่ง่วง ไม่เหนื่อย” แม้ว่าตัวเองจะหิว ง่วง เหนื่อย ให้พ่อแม่ใช้การบอกกับเขาเรื่องเวลาแทน เพื่อให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้ว่าสิ่งที่จำเป็น (Needs) สำหรับร่างกายของเขาคืออะไร และความอยาก (Wants) ของเขาควรมาทีหลังเสมอ เช่น

“ได้เวลากินข้าวแล้ว”

“ได้เวลานอนแล้ว”

“มาพักก่อนนะ” หรือ “ได้เวลากลับบ้านแล้ว”

2. รับมือหลังเกิดการอาละวาด

แม้ว่าพ่อแม่จะป้องกันดีแค่ไหน แต่การระเบิดอารมณ์ของลูกก็ยังคงเกิดขึ้นได้ เป็นธรรมดาที่พ่อแม่จะตกใจกับการอาละวาดของลูก อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่มีความสามารถในการรับมือกับอารมณ์ได้ดีกว่าเด็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ขอเพียงเรามั่นคงและสงบเพียงพอ เราจะผ่านการอาละวาดนี้ไปได้

ขั้นที่ 1 พ่อแม่ต้องตั้งสติให้ได้เสียก่อน 

ยืนขึ้น ทอดสายตาออกไปไกลๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เราไม่ต้องรีบสอนหรือรับมือกับลูกเดี๋ยวนั้น 

ขั้นที่ 2 ให้เวลากับตัวเองและลูก

เวลาเกิดอารมณ์ การอาละวาดคือการปลดปล่อยพลังงานทางลบของลูก เราไม่ควรห้าม แต่เราหาที่ทางให้ลูกระบายออกอย่างเหมาะสม พื้นที่ปลอดภัยคือสิ่งที่เราสร้างให้กันได้ เราอยู่เคียงข้างกัน รอเวลาสงบ ไม่ต้องรีบ และไม่ต้องพยายามบอกให้ลูกหยุดร้องไห้เสียที เพราะนั่นจะทำให้สถานการณ์ยากขึ้นไปอีกได้ 

ขั้นที่ 3 สอนเมื่อสงบ 

ถ้าลูกทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม บอกเขาให้ชัดเจนว่า ‘สิ่งนี้ห้ามทำ’ และ ‘สิ่งใดควรทำ’

แต่ถ้าลูกแค่มีวันแย่ๆ เขาแค่หงุดหงิดจากการตื่นนอนกลางวัน เราเพียงพาเขาไปล้างหน้า และเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ชวนเขาทำกิจกรรม เพียงเท่านี้ลูกก็ถูกดึงความสนใจออกมาจากอารมณ์บูดๆ ของเขาในวันนั้นแล้ว 

ขั้นที่ 4 คุยกับลูกเรื่องความรู้สึก 

ก่อนจะจบบทสนทนาลองชวนลูกระบุอารมณ์ตัวเองดูว่าเขารู้สึกอย่างไร เช่น

“ตอนนี้ลูกรู้สึกอย่างไร โกรธ เสียใจ กลัว…”

“ตอนนี้ลูกรู้สึกดึขึ้นหรือยัง” 

ขั้นที่ 5 ทบทวนทางเลือกที่ลูกมี 

หากครั้งนี้เขาเลือกที่จะอาละวาดแทนการสื่อสาร พ่อแม่สามารถช่วยสอนลูกได้ว่าครั้งหน้าลูกควรพูดสื่อสารแบบใด คนอื่นจึงจะเข้าใจเขา หรือเขามีทางเลือกที่จะทำอะไรได้บ้าง แทนที่การทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพื่อครั้งหน้าลูกจะได้เลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมมากขึ้น เช่น 

“ถ้าลูกอยากเล่นกับพี่ ลูกควรพูดขอดีๆ เช่น ขอเล่นด้วยค่ะ” แทนทีจะกรี๊ดใส่พี่ 

“ถ้าลูกไม่ชอบ ให้บอกว่า ไม่ชอบครับ” แทนที่จะผลักคนอื่น 

สุดท้าย เวลาลูกทำพฤติกรรมที่ไม่ดี พ่อแม่ควรทำความเข้าใจว่าพฤติกรรมเป็นสิ่งที่สอนและเปลี่ยนแปลงได้ แต่สิ่งที่เราไม่ควรทำอย่างยิ่งยวดคือการตำหนิตัวตนของลูกหรือพูดจาทำร้ายเขา เช่น 

“เด็กไม่ดี”

“ทำแบบนี้เดี๋ยวไม่รักเลย”

“หยุดร้องสักทีได้ไหม น่ารำคาญ”

ไม่มีเด็กคนไหนอยากเป็นเด็กไม่ดีในสายตาของใคร โดยเฉพาะพ่อแม่ที่เขารัก ด้วยเหตุนี้เวลาที่พ่อแม่ โมโหในสิ่งที่ลูกทำ และไม่พร้อมจะสอนเขาด้วยความสงบแลเหตุผล ให้เราหยุดทุกคำพูดและการกระทำของเราไว้ก่อน รอเราและลูกพร้อม แล้วจึงพูดคุยกัน

‘อารมณ์ที่เกิดขึ้นรอไม่ได้ แต่การสอนรอได้เสมอ’

ขอมอบ ‘คาถาสงบใจพ่อแม่ ยามลูกเขาสู่วัยทอง 2 ขวบ’ ให้กับพ่อแม่ทุกท่าน ถ้าลูกปรี๊ดดั่งไฟ อย่าราดน้ำมันด้วยการปรี๊ดตามลูก ให้ใช้ความสงบแต่หยัดยืนดั่งหินผาเข้าสู้ แม้จะสงบ แต่ไม่สั่นคลอน ไม่ตามใจ ไม่ปล่อยผ่าน 

ถ้าลูกเสียงดัง ให้เราเสียงเบา 

ถ้าลูกอาละวาด ให้เราพาเขาสงบ 

ถ้าลูกร้องไห้ ให้เรากอดเขา 

ถ้าลูกทำร้าย ให้เรากอดเขาให้แน่น จับมือ บอกสั้นๆ “ไม่ทำ…” 

ถ้าลูกไม่พร้อม ให้เรารอเขา 

ถ้าลูกพร้อม แต่ถ้าเรายังไม่พร้อม ให้เรารอตัวเองพร้อมก่อน 

ถ้าลูกพร้อม เราพร้อม ให้สอนเขาได้ 

ถ้าลูกทำผิด ให้เราสอนเขาว่าที่ถูกต้องทำอย่างไร ไม่ใช่ลงโทษเขาจนหวาดกลัว

ถ้าลูกบอกไม่รัก บอกเขาว่า ‘ไม่เป็นไร พ่อแม่รักลูกเอง’ ให้เวลากับเขามากขึ้น เล่นด้วยกัน อ่าน หนังสือ ทำกิจกรรม ทำงานบ้าน นอนกอดกัน บอกรักทุกวัน 

อย่างไรก็ตาม ถ้าพ่อแม่เผลอทำผิดพลาดไปแล้ว การให้อภัยตัวเอง และการกลับไปขอโทษพร้อมกับ ทำความเข้าใจกับลูกเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมที่จะดูแลจิตใจตัวเองและลูกอยู่เสมอ

อ้างอิง 

Sisterhen, L. L., & Wy, P. A. W. (2021). Temper tantrums. In StatPearls [Internet].  StatPearls Publishing. 

Widick, C, Parker, C A, & Knefelkamp, L (1978) Erik Erikson and psychosocial  development New directions for student services, 1978(4), 1-17

Tags:

พ่อแม่เด็กเล็กอารมณ์การรับมือเข้าใจลูกในวันที่เขาเปลี่ยนไป

Author:

illustrator

เมริษา ยอดมณฑป

นักจิตวิทยาเจ้าของเพจ ‘ตามใจนักจิตวิทยา’ เพจที่อยากให้ทุกคนเข้าถึง ‘นักจิตวิทยา’ ได้มากขึ้นในฐานะเพื่อนแปลกหน้าผู้เคียงข้าง ปัจจุบันเป็นนักจิตวิทยาที่ห้องเรียนครอบครัว เป็น "ครูเม" ของเด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่ ความฝันต่อไปคือการเป็นนักเล่นบำบัด วิทยากร นักเขียน และการเปิดร้านหนังสือเล็กๆ เป็นของตัวเอง

Illustrator:

illustrator

ninaiscat

ทิพยา ทิพย์พันธ์ (ninaiscat) เป็นนักวาดภาพประกอบและนักออกแบบกราฟิกอิสระ ชอบแมว (เป็นชีวิตจิตใจ) ชอบทำกับข้าว กินกาแฟทุกวันและมีความฝันว่าอยากมีบ้านสักหลังที่เชียงใหม่

Related Posts

  • Early childhoodFamily Psychology
    เข้าใจลูกในวันที่เขาเปลี่ยนไป EP.10 ในวันที่ลูกใจร้อน พ่อแม่มีหน้าที่ต้องช้าลง

    เรื่อง เมริษา ยอดมณฑป ภาพ ninaiscat

  • Early childhoodFamily Psychology
    เข้าใจลูกในวันที่เขาเปลี่ยนไป EP.9 บาดแผลของการทำผิดพลาดแล้วถูกประจานให้อับอาย

    เรื่อง เมริษา ยอดมณฑป ภาพ ninaiscat

  • Early childhoodFamily Psychology
    เข้าใจลูกในวันที่เขาเปลี่ยนไป EP.6 ลูกจะฟังและเชื่อใจพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่พูดคำไหนคำนั้น พูดความจริง และรักษาสัญญาเสมอ

    เรื่อง เมริษา ยอดมณฑป ภาพ ninaiscat

  • Early childhoodFamily Psychology
    เข้าใจลูกในวันที่เขาเปลี่ยนไป EP.4 ‘แนวทางในการรับมือกับเด็กปฐมวัยพลังล้นเหลือ’

    เรื่อง เมริษา ยอดมณฑป ภาพ ninaiscat

  • Early childhoodFamily Psychology
    เข้าใจลูกในวันที่เขาเปลี่ยนไป EP.2 ‘6 วิธี เปลี่ยนวิกฤตวัยทอง 2 ขวบ (Terrible 2) ให้เป็นช่วงเวลาทองแห่งการเติบโตของพ่อแม่ลูก’

    เรื่อง เมริษา ยอดมณฑป ภาพ ninaiscat

Posts navigation

Newer posts

Recent Posts

  • The Edge of Seventeen: เราต่างต้องการเป็นที่รักและมีค่าเสมอสำหรับใครบางคน
  • คนตัวจิ๋ว: หัวใจที่อ่อนโยน การสื่อสารโดยไม่ตัดสิน คือสะพานที่พาเราก้าวข้ามความแตกต่างไปสู่มิตรภาพที่แท้จริง
  • การไร้ตัวตน-ไม่ถูกมองเห็น-ไม่ถูกยอมรับ คือสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตของวัยรุ่น
  • Eighth Grade: เมื่อเด็กมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ความรักจากพ่อแม่คือแสงสว่างท่ามกลางความพร่ามัวและจอมปลอม
  • ‘ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน’ …แล้วนิสัย(เสีย)ของเด็กมาจากใครกันนะ?

Recent Comments

  • Existential crisis: วิกฤตชีวิตที่มาพร้อมกับคำถาม “แล้วฉันอยู่เพื่ออะไร” – EducationNet on Midlife Crisis: เมื่อเป็นผู้ใหญ่ ทำไมใจถึงวิกฤต
  • The Psychological Wounds of Winnie the Pooh and His Friends: Exploring Characters from a Classic Literary Work - World Today News on วินนีเดอะพูห์ : ด้วยหัวใจอันแหว่งวิ่น และความลับในป่าลึก
  • Exploring the Psychological Wounds of Winnie the Pooh and Friends: A Fascinating Analysis - Archyde on วินนีเดอะพูห์ : ด้วยหัวใจอันแหว่งวิ่น และความลับในป่าลึก
  • 6 วิธีฝึกสอนให้ลูกเป็นเด็กมี Critical Thinking ทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในอนาคต – โรงเรียนมารีวิทยา ป on CRITICAL THINKING: สอนเด็กให้รู้คิด ผิดหรือถูกก็ใช้วิจารณญาณเป็น
  • Best รูป พลเมือง ดี Update New – Haiduongcompany.com on สอนและสร้างพลเมืองประชาธิปไตย เรื่องไม่ง่ายที่ครูทำได้

Archives

  • June 2025
  • May 2025
  • April 2025
  • March 2025
  • February 2025
  • January 2025
  • December 2024
  • November 2024
  • October 2024
  • September 2024
  • August 2024
  • July 2024
  • June 2024
  • May 2024
  • April 2024
  • March 2024
  • February 2024
  • January 2024
  • December 2023
  • November 2023
  • October 2023
  • September 2023
  • August 2023
  • July 2023
  • June 2023
  • May 2023
  • April 2023
  • March 2023
  • February 2023
  • January 2023
  • December 2022
  • November 2022
  • October 2022
  • September 2022
  • August 2022
  • July 2022
  • June 2022
  • May 2022
  • April 2022
  • March 2022
  • February 2022
  • January 2022
  • December 2021
  • November 2021
  • October 2021
  • September 2021
  • August 2021
  • July 2021
  • June 2021
  • May 2021
  • April 2021
  • March 2021
  • February 2021
  • January 2021
  • December 2020
  • November 2020
  • October 2020
  • September 2020
  • August 2020
  • July 2020
  • June 2020
  • May 2020
  • April 2020
  • March 2020
  • February 2020
  • January 2020
  • December 2019
  • November 2019
  • October 2019
  • September 2019
  • August 2019
  • July 2019
  • June 2019
  • May 2019
  • April 2019
  • March 2019
  • February 2019
  • January 2019
  • December 2018
  • November 2018
  • October 2018
  • September 2018
  • August 2018
  • July 2018
  • June 2018
  • May 2018
  • April 2018
  • March 2018
  • February 2018
  • January 2018
  • December 2017
  • November 2017

Categories

  • Uncategorized
  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel