Skip to content
โฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brain
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherUnique SchoolCreative learningLife Long Learning
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Learning TheoryGrowth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trend
  • Life
    Healing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/CrisisLife classroom
  • Voice of New Gen
  • Playground
    BookMovieSpace
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
โฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brain
Social Issues
24 December 2025

โอบกอดและดูแลใจเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงคราม ด้วย พลังของ ‘นิทาน ศิลปะ และดนตรี’

เรื่อง นฤมล ทับปาน ภาพ ปริสุทธิ์

  • ในภาวะสงคราม ‘เด็กคือผู้ที่เปราะบางที่สุด’ ความไม่ปลอดภัย ความสูญเสีย และความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ส่งผลต่อจิตใจและอารมณ์โดยตรง เมื่อจิตใจและอารมณ์ไม่มั่นคง ย่อมส่งผลต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ การดูแลหัวใจอันเปราะบางนี้ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย
  • ‘ครูศักดา’ กับ ‘ครูยอด’ ผู้ที่ทำงานศิลปะกับเด็กอยู่แล้ว ร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางใจเล็กๆ ในศูนย์พักพิง ด้วยการชวนเด็กๆ เล่านิทาน วาดภาพ และเล่นดนตรี เพื่อสร้างความผ่อนคลาย เสริมพลังใจให้ครอบครัวผู้ประสบภัย 
  • “การมีพื้นที่ให้เด็กได้นั่งเปิดดูหนังสือ นั่งขีดเขียน ระบายสี หรือแค่เล่นตุ๊กตา ในสถานการณ์แบบนี้ อย่างน้อยเขาได้รับการเยียวยาสภาพจิตใจ เด็กที่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีความมั่นคงทางจิตใจ ซึ่งเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดน ก็จะช่วยดึงให้เขามีความสุขในช่วงเวลานั้นได้” ครูศักดา กล่าว
  • หนังสือภาพ นิทาน ศิลปะ จะทำหน้าที่ เป็นเพื่อน ในยามที่เด็กมีความกังวล มีความทุกข์ใจอยู่ภายใน ปลอบประโลมเด็กๆ ด้วย ความรัก และส่งต่อการแบ่งปันซึ่งกันและกันระหว่างเพื่อนมนุษย์

ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ต่อเนื่องมากว่าสัปดาห์ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนนับสิบนับร้อย และในสมการนี้ ‘เด็กคือผู้ที่เปราะบางที่สุด’ ไม่ว่าเขาจะรับรู้หรือไม่ว่าบ้านเมืองกับกำลังเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กรับรู้ได้แน่ๆ คือ ความไม่ปลอดภัย ความสูญเสีย และความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน 

เหล่านี้ส่งผลต่อจิตใจและอารมณ์โดยตรง เมื่อจิตใจและอารมณ์ไม่มั่นคง ย่อมส่งผลต่อพัฒนาการด้านอื่นๆ การดูแลหัวใจอันเปราะบางของเด็กๆ จึงเป็นสิ่งที่นำพา ครูศักดา – ศักดา คุ้นเคย ครูพิเศษ ศูนย์การเรียนประถมภูมิธรรม มาพบกับ ครูยอด – เจริญพงศ์ ชูเลิศ นักเล่านิทาน จากกลุ่มเล่านิทานใบไม้ ผู้ที่เป็นทั้งผู้ประสบภัยและครูอาสา และร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางใจเล็กๆ ในศูนย์พักพิง ด้วยการชวนเด็กๆ เล่านิทาน วาดภาพ และเล่นดนตรี เพื่อสร้างความผ่อนคลาย เสริมพลังใจให้ครอบครัวผู้ประสบภัย 

และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 ครูทั้งสองคนได้มาถ่ายทอดเรื่องราวในกิจกรรม ‘พลังหนังสือภาพดูแลหัวใจ: เรื่องเล่าจากการทำงานกับเด็กๆ ที่ชายแดน’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Children’s Picture Book Festival 2025 เทศกาลหนังสือภาพสำหรับเด็ก โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ 

“ความกังวล ความไม่มั่นคงในชีวิต ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ชายแดนในเวลานี้ และเกิดกับทุกช่วงวัย”  ครูยอดเล่าความรู้สึกจากมุมมองของผู้ประสบภัย

ในขณะที่ครูศักดา พูดถึงการใช้หนังสือภาพและศิลปะดูแลใจเด็กๆ ในสถานการณ์นี้

“การมีพื้นที่ให้เด็กได้นั่งเปิดดูหนังสือ นั่งขีดเขียน ระบายสี หรือแค่เล่นตุ๊กตา ในสถานการณ์แบบนี้ อย่างน้อยเขาได้รับการเยียวยาสภาพจิตใจ เด็กที่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีความมั่นคงทางจิตใจ ซึ่งเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดน ก็จะช่วยดึงให้เขามีความสุขในช่วงเวลานั้นได้” 

คืนความปกติให้เด็กในภาวะที่ไม่ปกติ ด้วย พลังของ ‘นิทาน ศิลปะ และดนตรี’ 

ท่ามกลางเสียงระเบิด เสียงปืนดังที่อยู่ไกลๆ การได้อ่านนิทานจะทำให้เด็กได้สัมผัสถึงชีวิตที่ปกติเหมือนตอนอยู่บ้านหรือโรงเรียน ทั้งยังเป็นสะพานเชื่อมใจ เป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้ปกครองได้ใช้เวลาร่วมกับเด็ก ช่วยลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นได้

ในส่วนของครูยอดและครูศักดา ใช้กิจกรรมง่ายๆ ที่ทำกันเป็นปกติอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเล่านิทานที่ผสมผสานการละครสร้างสรรค์เข้าไปด้วย พร้อมทั้งใช้ดนตรีประกอบ จัดสรรมุมหนังสือให้เด็กๆ ได้เลือกเปิดอ่าน เปิดดู โดยส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือภาพที่เน้นสื่อสารเชิงบวก เพราะเป้าหมายสำคัญคือการคลายความกังวลให้เด็กๆ ใช้จินตนาการนำพาเขาไปสู่ความสุขสงบในใจ นอกจากนี้ยังมีมุมศิลปะ ให้เด็กๆ ได้วาดภาพระบายสีเพื่อสื่อสารสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

“กิจกรรมของเราก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ เราแค่คิดว่าเอาอุปกรณ์ศิลปะเหล่านั้นไปลง เอาหนังสือนิทานไปแขวนให้เด็กๆ ได้เลือกชอปปิง แล้วในพื้นที่ไหนที่จะทำกิจกรรมได้ ใต้ถุนอาคาร ร่มไม้ ที่ไหนมีที่วางหนังสือได้ หรือมีที่จะแขวนให้เด็กหยิบจับได้สะดวก แล้วเราก็คุยเล่นกับเด็กๆ ว่า เรามาตากหนังสือกันนะ เรามาทำราวตากผ้า แล้วเอาหนังสือมาตาก เด็กๆ ก็มาช่วยทำ เราก็มีเชือกฟางไป เพราะถ้าเอาหนังสือไปกองไว้เฉยมันก็ดูไม่น่าหยิบ ทำยังไงให้มองเห็นแล้วหยิบได้ง่าย ก็เลยออกมาเป็นราวตากหนังสือ” ครูยอด เล่าถึงกิจกรรมที่ทำกับเด็กๆ ซึ่งในสถานการณ์ไม่ปกติก็ไม่ลืมที่จะใส่ความสร้างสรรค์ลงไป แม้ครูยอดบอกว่านี่เป็นกิจกรรมธรรมดาๆ แต่กิจกรรมธรรมดาที่ว่ามีความหมายต่อใจเด็กมากทีเดียว

ครูยอดเล่าถึงการทำงานศิลปะกับเด็กในภาวะสงครามว่า ณ เวลานั้น ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างมีสภาวะข้างในที่ไม่มั่นคง รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ดังนั้นนิทาน จึงควรเป็นการให้พลังบวก เน้นสื่อถึงเรื่องความรัก การแบ่งปัน การมีน้ำใจ ในเบื้องต้นควรจะเป็นอย่างนั้นก่อน เมื่อสภาวะข้างในนิ่งแล้ว การใช้นิทานที่ชวนให้เด็กได้บอกเล่า หรือพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจ โดยไม่สร้างความเกลียดชังต่อกัน เป็นสิ่งที่ควรทำ

“สภาพจิตใจของเด็กๆ ณ ตอนเกิดเหตุเชื่อเลยว่า เด็กเขาจะมีความกลัว ความกังวล มีความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่ใช่แค่เฉพาะเด็กอย่างเดียว ผู้ใหญ่ก็เช่นเดียวกัน

เราก็ได้มีโอกาสเอานิทานไปให้เด็กๆ ได้อ่าน หรือแม้แต่ผู้ใหญ่หรือใครก็แล้วแต่ที่อยู่ในศูนย์พักพิง เราเห็นว่านี่แหละ มันจะมีบางช่วงจังหวะที่เขาได้อ่านนิทาน จะลดความรู้สึกตรงนั้นไป ช่วยคลายความรู้สึกตรงนั้นได้บ้าง โดยเฉพาะถ้านิทานบางเล่มที่พูดถึงเรื่องการแบ่งปัน ความสุข การเยียวยาใจ ความรัก รู้สึกเลยว่าในสภาวะนั้นนิทานเขาได้ทำหน้าที่ของเขานะ” 

ครูยอด – เจริญพงศ์ ชูเลิศ นักเล่านิทาน จากกลุ่มเล่านิทานใบไม้

“นิทานทำหน้าที่อย่างแรกเลยคือ เป็นเพื่อน ในยามที่เขามีความกังวล มีความทุกข์ใจอยู่ภายใน นิทานก็จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเพื่อนที่คอยรับฟังเขา หรือนิทานบางเล่มช่วยให้ความสุข เหมือนปลอบประโลมเด็กๆ ในช่วงที่เขามีความทุกข์ ได้อ่าน ได้เปิดดูภาพแล้วก็ยิ้มได้ รับรู้ถึงความรัก เห็นการมีน้ำใจ การแบ่งปันซึ่งกันและกันระหว่างเพื่อนมนุษย์ นิทานแต่ละเล่มก็จะทำหน้าที่ประมาณนี้”

“หนังสือหนึ่งเล่ม มันมีประโยชน์มหาศาลโดยเฉพาะในสภาวะสงคราม อย่างเวลาผมเปิดหนังสืออ่านมันจะได้อะไรสักอย่าง ไม่ได้ข้อความดีๆ ก็จะได้ไอเดียมาทำงาน ทำของเล่นให้เด็ก ก็เลยเชื่อว่า หนังสือมันมีแรงบันดาลใจหรือสิ่งที่ซ่อนอยู่แค่ว่าเด็กๆ เปิดอ่าน หรือแค่เปิดดูภาพ เราก็จะเห็นอะไรที่เขาสื่อสารกับหนังสือ การมีพื้นที่ให้เด็กได้นั่งเปิดดูหนังสือ นั่งขีดเขียน ระบายสี หรือแค่เล่นตุ๊กตา ในสถานการณ์แบบนี้ อย่างน้อยเขาได้รับการเยียวยาสภาพจิตใจ เด็กที่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีความมั่นคงทางจิตใจ ซึ่งเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดน ก็จะช่วยดึงให้เขามีความสุขในช่วงเวลานั้นได้” ครูศักดา พูดเสริมพลังของหนังสือในสถานการณ์นี้ 

“ถ้าเด็กเล็กก็ต้องเป็นนิทาน โดยใช้นิทานที่เราใช้กับการละครของเราอยู่แล้ว อย่างเรื่อง ควายไม่กินหญ้า เกี่ยวกับควายที่มีความฝัน อยากเป็นนู่นเป็นนี่ อยากเป็นพระอาทิตย์ เหมือนเพ้อฝันไปจนสุดท้ายเป็นอะไรไม่ได้ ก็ต้องกลับมาเป็นตัวเอง ก็จะใช้เรื่องนี้เป็นหลัก แล้วก็มีเสริมๆ นิทานเรื่องอื่นๆ ด้วย”

“นิทานหลากหลายเรื่องมันจะมีประเด็นที่เราต้องไปคัด อย่างตรงนี้เพื่อที่จะให้เขาคลายความเศร้า ความทุกข์ ความกังวลที่เกิดขึ้น ก็ต้องใช้เรื่องที่มีความสนุก เน้นสร้างความสุข สร้างรอยยิ้มในเบื้องต้น แต่ว่าสภาวะที่เกิดขึ้นมันอะไรก็ได้ ขอให้เป็นนิทานที่สื่อสารกับเด็กได้ เน้นเชิงบวกด้วย ให้เขามีความสุข ลืมความทุกข์ไปบ้างแค่ช่วงนึงก่อน เพราะความทุกข์ในระยะยาวก็ดูแลกันอีกแบบ แต่เบื้องต้นคือแบบนี้ก่อน คือสภาพจิตใจคน บางทีมันไม่สามารถที่จะสู้ได้เลย หรือดีขึ้นภายในเดือนสองเดือน”

นอกจากนี้ ครูศักดาเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเด็กว่า “หลังจากที่ผมได้ลงพื้นที่ไปเล่านิทาน เล่นดนตรี ใช้ละครในการพาเด็กๆ ทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ เด็กๆ เขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจนเลยคืออย่างวันที่ผมไป แค่ 2 วัน เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากที่เราสังเกตเขาจะมีวิตกกังวล แต่พอเริ่มมีนิทานเข้าไป มีของเล่น มีเสียงดนตรีที่อยู่รอบๆ ตัว เขาก็เริ่มคลายความกังวล 

นิทานเป็นสื่อสำหรับเด็กที่ดี มันจะเข้าไปภายในตัวในใจเข้าโดยตรง มากกว่าการบอกการสอนของครู หรือพ่อแม่ด้วยซ้ำ ยิ่งเราใช้เทคนิคการเล่านิทาน เป็นเพลง หรือเป็นภาพประกอบอย่างนี้ มันก็จะส่งผลต่อเด็กได้ดีเลย”

อีกทั้งครูยอดยังมองไปถึงการใช้นิทานในการสอนเรื่องสันติภาพ ลดการสร้างอคติต่อเพื่อนมนุษย์ให้กับเด็กๆ ด้วย แต่ทั้งนี้ต้องให้เด็กอยู่ในสภาวะจิตใจที่พร้อมเสียก่อน 

“จริงๆ แล้ว นิทานสามารถสอนในเรื่องสันติภาพได้เลย แต่ ณ ช่วงเวลานั้นสิ่งที่เราต้องรีบทำก่อนเป็นอันดับแรกเลยคือ การสร้างความสงบทางใจ สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เขาก่อน เพราะว่าการจะให้เขาได้ความรู้ หรือได้แง่อื่นๆ ถ้าเราอ่านในสภาวะปกติมันอาจจะโอเคนะ มันอาจจะคาดหวังได้ แต่ ณ เวลานั้นที่เราเอานิทานมาทำกิจกรรมกับเด็ก ขอแค่เขามีความสุข คลายความกังวล คลายความทุกข์ในใจได้ ถือว่านิทานได้ทำหน้าที่ของเขาแล้ว” 

“นอกจากนี้การเล่านิทานยังทำให้เราได้เข้าใจเด็กมากขึ้นด้วย และเข้าใจตัวเองด้วย เข้าใจลูกที่เราเลี้ยงมา นิทานทำให้เรารู้ว่าควรจะคุยกับเขายังไง ควรจะสื่อสารกับเด็กแบบไหน บางทีนิทานมันก็เป็นเหมือนเพื่อนเรานะ เหมือนครูของเราที่เรานำไปใช้ทำงานกับเด็ก”

ครูศักดา – ศักดา คุ้นเคย ครูพิเศษ ศูนย์การเรียนประถมภูมิธรรม

ภาพวาดของเด็กๆ สะท้อนความความรู้สึก ความหวัง และความฝัน ที่ผู้ใหญ่ทุกคนควรฟัง

นอกจากมุมราวตากนิทานที่ให้เด็กๆ ได้เลือกหยิบจับ กิจกรรมเล่านิทานที่ผสมผสานการละครสร้างสรรค์เข้าไปด้วย พร้อมทั้งใช้ดนตรีประกอบ สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กได้สื่อสารสิ่งที่อยู่ในออกมาได้ดีเลยนั่นก็คือ ‘​การวาดภาพ’ โดยให้เด็กวาดรูปสิ่งที่คิดถึง ไม่ว่าจะเป็น บ้าน สัตว์เลี้ยง หรือการได้เล่นกับเพื่อนเหมือนอย่างที่เคยได้ทำ 

ครูยอดเล่าเสริมถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องนั่นคือ การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสงครามให้กับเด็ก เพื่อลดอคติและความเกลียดชังที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรื่องนี้กระบวนการศิลปะทำหน้าที่ได้ดี ผ่านภาพวาดของเด็ก

“ภาพวาดของเด็กๆ ในพื้นที่ ทำหน้าที่ว่าเขาอยากจะพูดอะไร อยากสื่อสารออกมายังไง ซึ่งเราก็จะได้ภาพที่มีความหลากหลายมาก หลากหลายอารมณ์ด้วย เช่น คิดถึงบ้าน บางทีเขาก็วาดบ้าน วาดสัตว์เลี้ยงตัวเอง เราก็จะเห็นว่ามันมีสภาวะนั้นอยู่ พอเด็กๆ วาดเสร็จเราก็ค่อยเอาผลงานมาคุยกัน ว่าเด็กๆ วาดอะไรในภาพนั้น เด็กๆ มีสัตว์เลี้ยงที่บ้านใช่ไหม น้องหมาชื่ออะไร ค่อยๆ ชวนเขาคุยต่อ เพื่อคลายความกังวล ความคิดถึงเหล่านั้น” 

ทั้งนี้ ภาพวาดของเด็กๆ ในพื้นที่ ภายหลังถูกนำไปจัดแสดงเป็นนิทรรศการผลงานศิลปะที่ ธนสาร แกลเลอรี่ (Tanasarn Gallery) นิทรรศการชื่อ ‘Borderless Voice งานศิลปะเด็กผู้อพยพในวันที่มีบ้าน…แต่กลับไม่ได้ เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา’ โดยนำมาร้อยเรียงเป็นนิทาน 3 ภาษา ไทย-อังกฤษ-กัมพูชา ชื่อว่า ‘ภูเขาดงรัก’ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนเศษเสี้ยวความรู้สึก ความหวัง และความฝัน ที่ผู้ใหญ่ทุกคนควรฟัง และตระหนักว่า ความเกลียดชังไม่อาจนำไปสู่สิ่งใด นอกจากความสูญเสียที่ไม่สิ้นสุด ถึงเวลาแล้วที่จะเลือกส่งต่อ ‘ความรัก’ แทนที่จะปล่อยให้ ‘ความเกลียดชัง’ ดำรงอยู่

“คือเจ้าของแกลเลอรีเขาไม่อยากให้เกิดการเกลียดชังกันขึ้นในสังคมในระหว่างประเทศสองประเทศ เราก็เหมือนเป็นพี่น้องกัน พอไม่ได้มีภาวะสงครามเราก็ไปมาหาสู่กัน ผมก็เลยเอาผลงานศิลปะที่เราชวนเด็กวาดรูปตอนนั้น มาเล่าในรูปแบบของนิทาน แล้วต่อยอดเป็นการแสดงเล่าเรื่องผ่านใบไม้ ระหว่างจัดแสดงนิทรรศการนี้ด้วย ก็คือมันจะมีจุดเชื่อมร้อยกันเป็นภาพขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่เราอยากสื่อสารก็คือไม่อยากสร้างความเกลียดชังในสังคม เพราะสงครามมันก็สร้างความเดือดร้อนให้ทั้งสองฝ่าย สร้างความเสียหายเยอะมาก” 

หลักการ 4 ป. เพื่อประคองเด็กและครอบครัวท่ามกลางสงคราม

ในกิจกรรมนี้นอกจากครูยอดและครูศักดาจะมาเล่าประสบการณ์ในการทำกิจกรรมในพื้นที่แล้ว ยังมีการหยิบยกเนื้อหาในหนังสือ ‘ปลูกกล้ากลางไฟ แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงคราม’ มาแนะนำหลักการประคับประคองเด็กและครอบครัวท่ามกลางสงคราม ที่เรียกว่า ‘หลัก 4 ป.’ โดยเริ่มจากการเอาชีวิตรอดขั้นพื้นฐานไปจนถึงการดูแลสุขภาพจิต

1.ปลอดภัย: การตอบสนองที่สำคัญที่สุด คือการปกป้องชีวิตของเด็กและครอบครัว ได้แก่ 

  • ให้การดูแลขั้นพื้นฐาน อาหาร น้ำที่สะอาด ยารักษาโรค และที่พักอาศัยชั่วคราวที่เป็นมิตรกับเด็ก (Child-Friendly Space: CFS) โดยแยกออกจากโซนผู้ใหญ่
  • จัดสรรมุมสงบที่มีหนังสือ ตุ๊กตา อย่างน้อย 1 ตารางเมตร ให้เด็กสามารถเข้าถึงการเล่นและเรียนรู้ได้ทันที

2.ปลอบขวัญ

  • มอบ ‘ความปกติ’ ที่คุ้นเคยผ่านวงเล่านิทาน, มุมอ่านหนังสือ, มุมวาดภาพ และ กิจกรรม Storytelling & Expressive Art ศิลปะการระบายออก จะช่วยให้เด็กเข้าใจอารมณ์ที่อาจจะยับไม่ชื่อเรียกได้
  • จัดสัดส่วนกิจกรรมระหว่าง ‘การเล่นอิสระ’ และ ‘การเล่นที่มีเป้าหมาย’ โดยใช้อัตราส่วน 60:40 เพื่อกระตุ้นความยืดหยุ่นและการควบคุมตนเองของเด็ก

3.ป้องกัน: หลักการ Psychological First Aid (PFA) ของ WHO แนะนำ 3 ขั้นตอน 

  • สังเกตอาการ รับฟังอย่างเคารพ และ เชื่อมต่อกับทรัพยากร
  • ฝึกอบรมครู อาสาสมัคร ให้เข้าใจหลักการ PFA และพัฒนากิจกรรม เล่น-พูด-ปรับตัว อย่างง่าย เช่น การเล่นบทบาทสมมติ เกมตั้งชื่ออารมณ์ ช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนา PTSD 

4.เปิดบริการ (Specialised Mental Health Services) เด็กบางคนที่ยังมีอาการฝันร้าย กังวลเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น หรือหวาดกลัว จำเป็นต้องเชื่อมต่อไปยังบริการเฉพาะทาง โดย 

  • ศูนย์พักพิงสามารถตั้งจุดคัดกรอง
  • กำหนดเส้นทางส่งต่อหน่วยงานสุขภาพจิตระดับอำเภอหรือโรงพยาบาลศูนย์
  • หากพื้นที่ห่างไกลใช้ระบบ Kyiv Digital ที่ผนวกระบบจิตวิทยาออนไลน์ให้เด็กและทหารผ่านศึกเข้าใช้ฟรี 

ไม่ใช่แค่เฉพาะภาวะสงครามแต่หลักการนี้ยังสามารถปรับใช้ในทุกๆ เหตุการณ์ความไม่ปกติที่สั่นสะเทือนหัวใจของเด็กๆ ได้ 

Tags:

เด็กครูศักดา - ศักดา คุ้นเคยครูยอด - เจริญพงศ์ ชูเลิศภาวะสงครามสุขภาพจิตการดูแลใจหนังสือการสื่อสารเชิงบวกดนตรีศิลปะนิทาน

Author:

illustrator

นฤมล ทับปาน

Photographer:

illustrator

ปริสุทธิ์

Related Posts

  • Book
    ฤดูร้อนเมื่อครั้งประถม ผมได้เป็นอัศวิน: เด็กชายผู้บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ความกล้าหาญด้วยตัวเอง

    เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • Book
    แบดบอยผู้น่ารัก ‘ฮักเกิลเบอร์รี่ ฟินน์’

    เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • How to enjoy life
    สอนให้เด็กรู้ว่าอารมณ์ไม่ใช่ผู้ร้าย เรียนรู้และเข้าใจตัวเองผ่านดนตรี: กฤษดา หุ่นเจริญ

    เรื่อง อภิบาล ว่องวงษ์รักษ์ชุติมา ซุ้นเจริญ

  • Character building
    ‘สุขภาพจิตที่ดี’ ต้องยืนหนึ่ง ปั้นลูกให้แกร่งและอยู่รอดในอนาคต

    เรื่อง วิภาวี เธียรลีลา

  • Space
    ปัตตานี ดีโคตร: เดินเล่นในย่านส่วนตัว แต่เรียนรู้แบบส่วนรวม

    เรื่อง ณิชากร ศรีเพชรดีอุบลวรรณ ปลื้มจิตร

  • Social Issues
  • Podcasts
  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel