เรื่อง: สัญญา มัครินทร์
ภาพยนตร์ทุกเรื่องบนโลกนี้ล้วนมีประเด็นเกี่ยวกับเพศอยู่ในนั้นเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็นมันในมิติไหน
5 หนังที่เลือกมา เป็นหนังที่กล่าวถึงประเด็นเรื่องเพศ ในช่วงเด็กก่อนวัยรุ่น วัยรุ่นตอนต้น และวัยรุ่น ได้น่าสนใจ พอที่จะให้เราได้กลับมาทบทวน ตั้งคำถามกับตัวเอง หรือถามเอากับสังคมว่า ‘เพศศึกษา’ ควร ‘เป็น’ หรือ ‘อยู่’ อย่างไร ให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงและวุฒิภาวะของคนในสังคม
รักจัดหนัก Love, Not Yet (ไทย: 2011)
หนังไทยและเป็นหนังวัยรุ่น ดูปีและวันเวลาที่สร้างนั้นผ่านไปเพียง 7 ปี ประเด็นเรื่องเพศ เซ็กส์ และวัยรุ่นในหนังดูเบาบางลงไปหลายเท่า เมื่อสื่อและโลกของยุคสมัยนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ในมิติต่างๆ มากมาย จนเราเองมองว่าประเด็นเหล่านี้กลายเป็นเรื่องธรรมดา เคยชิน และเป็นปกติไปแล้ว
ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าเนื้อหาหรือสารของหนังจะดูอ่อนด้อยเบาบางลงไปตามยุคสมัย เพราะสารที่หนังจะสื่อ ยังคงแข็งแรง ร่วมยุค ร่วมสมัย
รักจัดหนัก ต้องการเล่นประเด็นความรักความสัมพันธ์ของวัยรุ่นที่พูดถึงเซ็กส์อย่างตรงไปตรงมา พูดถึงวัยรุ่นด้วยน้ำเสียงและท่าทีของคนรุ่นเดียวกัน ด้วยสายตาการมองโลกที่ก้ำกึ่งระหว่างความเป็นเด็กและผู้ใหญ่ โดยหนังไม่พยายามเทศน์ บอก หรือสอนอะไรมาก แต่ให้คนดู โดยเฉพาะวัยรุ่นคิดเอง
หนังเล่าเรื่องถึงวัยรุ่น 3 กลุ่ม ผ่านหนังสั้น 3 เรื่อง 3 รส
- เรื่องที่ 1 ไปเสม็ด
เมื่อแอนกับวิท คู่รักวัยรุ่น ม.6 ‘ไปเสม็ด’ แล้วก็ ‘เสร็จ’ กันจริงๆ แต่พอกลับมากรุงเทพฯ แล้วเรื่องมัน ‘ไม่เสร็จ’ ง่ายๆ น่ะสิ เพราะแอนสงสัยว่าตัวเองน่าจะท้อง จนเริ่มเครียด จิตตก ส่วนวิทจิตตกยิ่งกว่า เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ต้องไปแข่งขันกีฬาหมากรุก
หนังเล่าเรื่องได้แสบ คัน และเสียดสีดีนัก เมื่อพยายามทำให้วิทเป็นเด็กที่เก่งด้านการใช้ความคิด รู้จักคิดวางแผน ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง เห็นได้จากที่วิท เลือกเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ ตอบคำถามอย่างฉะฉาน สอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยอย่างเป็นผู้ใหญ่ และน่าจะมีชั้นเชิงเพราะเป็นคนเล่นหมากรุกมือรางวัล แต่วิทดันมาตกม้าตายเมื่อมีเซ็กส์แบบไม่รู้จักป้องกัน และไม่ได้คิดไกล (ห่า) อะไรเลย
- เรื่องที่ 2 เป็นแม่ เป็นเมีย
ม่อนกับอิ๋ง คู่รักหนุ่มนักมวยอนาคตไกลกับสาวสวยดาวโรงเรียน ทั้งคู่อยู่กินด้วยกันและไม่ยอมออกจากบ้านมาหลายเดือนแล้ว เพราะม่อนมันดันไปทำให้อิ๋งท้อง ฝ่ายหญิงเลยอับอายขายขี้หน้าไม่ขอออกจากบ้านจนกว่าจะคลอด แต่วันแห่งความลับก็ถูกเปิดเผย เมื่อคนแห่แหนมาซื้อของในบ้านของอิ๋งที่เป็นร้านอาหารตามสั่งประจำหมู่บ้านช่วงที่แม่และพ่อของเธอไม่อยู่ร้าน
ท่าทีในการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ ตลกร้ายและขำมากๆ หนังสะท้อนชีวิตจริงที่เราพบเห็นได้ไม่ยาก สำหรับเด็กท้องตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน วุฒิภาวะความเป็นเมียเป็นแม่ ก็เอาอะไรแน่นอนไม่ได้หรอกกับวัยแบบนี้ สิ่งที่ตลกร้ายมากกว่าในหนังก็คือ มนุษย์เพื่อนบ้านที่มีความเผือก ทั้ง นักเรียน ครู นักปฏิบัติธรรม นักศึกษา หรือแม้แต่วินมอ’ไซค์ ก็บ้าๆ บอๆ วุฒิภาวะก็พอๆ กับคนที่กำลังจะเป็นแม่และเมีย
- เรื่องสุดท้าย ทอมแฮ้ง
นัท ทอมสวยหล่อและเป็นนักบาสประจำโรงเรียน ชีวิตพลิกผันเมื่อมีปาร์ตี้บ้านเพื่อน แล้วเธอดั๊นนน… พลาดท่าผิดผีมีอะไรกับเพื่อนผู้ชาย และแจ๊คพ็อต… ดันท้องซะงั้น จากนั้นความดราม่าก็กระหน่ำมาเหมือนพายุปลาบึก เธอต้องตัดสินใจว่าจะเก็บลูกไว้หรือจัดการเอาออก
ซีนแม่ลูกคุยกัน (จินตหรารับบทเป็นแม่) ออกมาเพียงสองซีน แต่บารมีของนางทำให้หนังดูมีพลังและเห็นบทบาทความเป็นแม่ลึกซึ้ง เห็นหัวอกของความเป็นหญิงในฐานะเหยื่อ (จากขี้ปากสังคม) จากอารมณ์ชั่ววูบและสถานการณ์พาไป
การเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย (นะ) ไหนจะเรื่องเรียน เรื่องรัก และฮอร์โมนที่ชวนให้กายและใจคึกคักกับเรื่องเซ็กส์ ก็ยิ่งเหนื่อยไปกันใหญ่ จะเอาไงดีล่ะวัยรุ่น งั้นหายใจลึกๆ ดูลมหายใจอุ่นๆ ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้วกันเนอะ… จบ.
Tomboy (ฝรั่งเศส: 2011)
ลอร่า เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ที่มีความห้าวเหมือนเด็กผู้ชายมาก ทั้งหน้าตา ทรงผม รูปร่าง เธอพึ่งย้ายบ้านมาใหม่ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน และลิซ่า คือเพื่อนใหม่คนแรกของเธอ ชวนเธอเข้ากลุ่ม โดยที่เพื่อนใหม่ส่วนใหญ่ในกลุ่มนั้นเป็นผู้ชาย ลอร่าเลือกแนะนำตัวเองด้วยชื่อที่เป็นชายว่า ‘มิคาเอล’
ลิซ่า และลอร่า (ในนามมิคาเอล) เตะบอล แก้ผ้าเล่นน้ำ ถ่มน้ำลาย ชกต่อย ลอร่าเนียนเป็นเด็กผู้ชายได้ดี แต่ก็กระอักกระอ่วนใจไม่น้อยกับธรรมชาติความเป็นหญิงของเธอ โดยเมื่อต้องอยู่กับเพื่อนชายลิงทะโมนและความสัมพันธ์กับเพื่อนหญิงที่เธอหลงรักอย่างลิซ่า เธอ (ลอร่า/มิคาเอล) ต้องเลือกระหว่างปิดบัง หรือเปิดเผยความจริง ก่อนที่ภาคการศึกษาใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น…
เป็นหนังที่พูดถึงเรื่องเพศอีกเรื่องที่น่าสนใจมากๆ ผ่านตัวละครในวัยเด็กที่ต้องต่อสู้กับความเป็นชายและหญิงในตัวเอง แม้เธอจะมีครอบครัวที่อบอุ่นทั้งพ่อ แม่ และน้องสาว ต่างเข้าใจและเปิดใจรับในธรรมชาติที่เธอเป็น แต่กรอบของสังคมก็ยังมีกรอบเรื่องเพศ* ขีดเส้นแบ่งความเป็น ‘ชาย’ หรือ ‘หญิง’ อยู่ดี
“ถ้าเธอเป็นผู้หญิง แล้วเธอจูบเขามันทุเรศมาก”
“ใช่ มันน่าขยะแขยง”
คือบทสนทนาของเด็กๆ ที่สะท้อนถึงมุมมองต่อเพศสภาพของพวกเขา
ซื่อสัตย์กับตนเอง – ฉันเป็นใคร หากเรายอมรับและมั่นใจในการเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราก็จะได้เป็นในแบบที่เราเป็น
Juno (อเมริกา: 2007)
จูโน เด็ก ม.ปลายสุดเฟี้ยววัย 16 ที่คิดว่าตัวเองโตแล้วนั้น ดันท้องด้วยความบังเอิญจากการมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทของเธอเป็นครั้งแรก แต่เธอเลือกแล้วที่จะไม่ทำแท้งเหมือนคนทั่วไป จูโนเลือกที่จะอุ้มท้องลูกของตัวเองและมั่นหน้าเดินท้องป่องไปโรงเรียนแบบปกติ ทั้งที่สายตาคนในโรงเรียนไม่ได้มองเธอแบบคนปกติด้วยซ้ำ แต่เธอก็หาได้สนใจไม่ เพราะความเข้าใจและกำลังใจที่ดีจากครอบครัวและคนรอบข้าง ทำให้เธอเด็ดเดี่ยวและหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับลูกของเธอ
เป็นหนังที่พูดถึงคุณแม่วัยใสและการท้องในวัยเรียน ที่ ‘feel good’ มาก นอกจากเราจะเห็นวัฒนธรรมการเปิดกว้างเรื่องเพศของสังคมอเมริกันแล้ว เรายังเห็นทางออกของปัญหาที่เป็นมิตรกับทุกฝ่าย หนังไม่ได้โทษใครหรือหาคนผิด ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ความเป็นวัยรุ่นของจูโนที่มักคิดเสมอว่าตัวเองโตแล้ว รู้ดีทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องของความรักและชีวิตคู่ เธอจึงค่อยๆ ได้เรียนรู้สิ่งนี้ขณะที่กำลังอุ้มท้องตลอด 9 เดือน
“เป็นไปได้มั้ยที่เราจะรักกันตลอดไป?” จูโน ถามพ่อด้วยท่าทีแบบคนที่ผ่านโลกมาน้อย และนั่นอาจจะเป็นจุดที่จูโนได้กลับมาทบทวน และลดอีโก้ของตัวเอง
ย้อนกลับมาดูระบบการศึกษาไทย เราเองก็เปิดโอกาสให้เด็กที่ท้องมาเรียนได้เหมือนกันนะ แต่สภาพจิตใจของคนท้องต้องเข้มแข็งมากๆ เพราะสังคมไทยเรา… เอาเข้าจริงมักจะเหยียบย่ำซ้ำเติมคนที่ผิดพลาด มากกว่าให้กำลังใจหรือให้โอกาสกัน
หรือระบบการศึกษาไทยควรจะปฏิรูปตัวเองในการจัดการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษาอย่างเหมาะสมและทันการณ์ ไม่ต้องมาแก้ปัญหาปลายทางอย่างที่เป็น
15+ ไอคิวกระฉูด (ไทย: 2017)
เอาจริงตอนดูหนังตัวอย่าง เราไม่อยากดูเลยนะ คิดว่ามันคงเป็นหนังไร้สาระ ตลก ทะลึ่ง เอาฮา บันเทิง เบาสมองแน่ๆ แต่เมื่อมีโอกาสได้ดูแล้ว โอเคเลยในฐานะหนังเกี่ยวเพศศึกษาและการข้ามพ้นวัย แบบ ‘coming of age’ แม้ตัวบทหนังและการแสดงจะตั้งใจเล่นใหญ่ ดูขาดๆ เกินๆ และพยายามประดิษฐ์คำคมเท่ๆ จนขาดความเป็นธรรมชาติ แต่เอาเป็นว่า มันเป็นหนังที่สะท้อนมุมมองและวิธีคิดของวัยรุ่นตอนต้นได้อย่างน่าสนใจ และทำให้เราย้อนกลับไปนึกถึงตัวเองตอนวัยเท่ากันในครั้งอดีต หรือจะเรียกว่าเป็นวัยหมกมุ่นกับเรื่องเซ็กส์ก็ว่าได้ แล้วหนังเรื่องนี้ก็สะท้อนวิธีคิดแบบนี้ได้ดี
หนังว่าด้วยเด็กวัยรุ่นชาย 3 คน อายุ 15-16 เป็นจอมหื่น บ้ากาม ตัวละครหนุ่มหนึ่งคนนามว่า ‘ฉลาดเลิศ’ ดันไปชอบสาวสุดคาวาอิ ที่ชื่อ ‘เชอร์รี่’ ซึ่งเธอไม่ชอบฉลาดเลิศเลย แต่เธอดันไปตั้งคำท้าว่า ถ้าแก๊งของฉลาดเลิศชนะการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ เธอจะยอมเป็นแฟนกับฉลาดเลิศ ซึ่งมันไม่มีทางแน่ๆ ทางออกเดียวที่จะชนะครั้งนี้ได้ก็คือ ต้องกลั่นแกล้งเพื่อนสาวหัวหน้าห้องที่เรียนเก่งที่สุดนามว่า ‘สุดารัตน์’ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมที่อยู่กับเชอร์รี่ ให้ทำเธอพลาด เสียสมาธิ แล้วแพ้การแข่งขันโครงงานไปซะ ซึ่งวิธีกลั่นแกล้งทั้งหลายก็หนีไม่พ้น ‘เรื่องฮอร์โมน’ ล้วนๆ และแน่นอนว่าฮอร์โมนกับวัยรุ่นตอนต้น มันอลวนน้อยซะที่ไหน
หนังดูสนุก เพลินๆ ฮากับมุขที่ขำบ้าง เเป้กบ้าง แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว ที่น่าสนใจคือสาวๆ ตัวประกอบสุดเซ็กซี่ทั้งรุ่นใหญ่เน็ตไอดอลในตำนานอย่างบอลลูน (พินทุ์สุดา ตันไพเราะห์) และสาวสุดสะบึ้มรุ่นน้องอีกเพียบที่มาเสริมทับความฟินและความฮา ระหว่างดูหนังเรื่องนี้ก็อดคิดถึงหนังแนวทะลึ่งอย่าง Sex is Zero กับ JUNO ไม่ได้ เดาว่าผู้กำกับคงได้แรงบันดาลใจมาจากสองเรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากนี้หนังยังเล่าถึงอำนาจของผู้หญิงที่ปรากฏผ่านตัวละครหลัก อย่างสุดารัตน์ หรือครูสอนวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีอิทธิกับตัวละครอื่นๆ อย่างมาก แต่หนังก็ยอมอ่อนข้อให้กับผู้ชายอย่าง ฉลาดเลิศ ในท้ายที่สุด
ตัวหนังจะเต็มไปด้วยบรรยากาศของการเรียนรู้ คิดแบบวิทยาศาสตร์ หาเหตุและผล ตั้งคำถาม สังเกต และทดลอง ข้อมูลเชิงทฤษฎีมากมายกับสิ่งมีชีวิตและประเด็นเพศศึกษา แต่เรื่องของความรัก ความสัมพันธ์ ความผิดพลาดของคน หลายอย่างนั้นเหตุและผลแทบจะใช้ไม่ได้ ซึ่งตัวหนังเองก็พูดถึงประเด็นนี้ได้ดี
“ชีวิตไม่ได้เริ่มต้นตอนอายุเท่าไหร่ แต่ชีวิตเริ่มต้นตอนคิดได้เมื่อไหร่”
มันอาจจะหมายถึงประสบการณ์และวุฒิภาวะ ที่ยังคงเป็นตัวบอกการเติบโตและข้ามพ้นวัยของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ หรือการใช้ชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ก็คือการทดลอง และการเรียนรู้ของมนุษย์นั้นเอง
XXY (Argentina: 2007)
เป็นภาพยนตร์อาร์เจนตินาที่เปิดโลกทัศน์เราในเรื่อง ‘คนที่มีอวัยวะทั้งสองเพศในตัวคนเดียว’ มากเมื่อ 12 ปีที่แล้ว
หนังเล่าเรื่องของ ‘อเล็กซ์’ วัย 15 ปีผู้มีรูปลักษณ์ภายนอกดูเป็นผู้หญิง แต่ความจริงแล้วเธอมีอวัยวะเพศชายอยู่ด้วย (Intersex คนสองเพศ:กะเทย) เธออยู่กับพ่อผู้เป็นนักชีววิทยารับผิดชอบดูแลเต่าทะเล ส่วนแม่ของเป็นแม่บ้าน ครอบครัวของเธอเพิ่งย้ายจากประเทศอาร์เจนตินามาอยู่ที่หมู่บ้านชายทะเลในอุรุกวัย เพื่อหนีห่างจากสังคมที่ตัดสินและไม่ยอมรับในเพศสภาพของอเล็กซ์ แม่ของเธอเองก็ให้เธอกินยากดฮอร์โมนเพศชาย เพราะอยากได้ลูกสาวและเลี้ยงดูอเล็กซ์แบบลูกสาวมาตลอดเช่นกัน
การมาเยือนของเพื่อนแม่ในวันหนึ่ง นั่นคือครอบครัวที่มีลูกชายเป็นเกย์ชื่อ ‘อัลวาโร’ ติดตามมาด้วย อัลวาโรดันไปมีอะไรกับอเล็กซ์ -ผู้หญิงที่มีอวัยวะเพศชาย เข้า อเล็กซ์เป็นฝ่ายรุก ส่วนอัลวาโรก็ยินดีกับการเป็นฝ่ายรับ ความสับสนและความสัมพันธ์ที่มันดูยุ่งเหยิงจึงเกิดขึ้น-ดังความประสงค์ของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ที่เหมือนจัดแจงเรื่องนี้เอาไว้แล้ว
หนังสะท้อนทัศนคติของคนต่อเพศสภาพและเพศวิถีของผู้มีความหลากหลายทางเพศ จากสังคมและครอบครัวเองที่อยากให้ลูกเป็นแบบนั้นแบบนี้ ทั้งอเล็กซ์และอัลวาโร จะต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกสำคัญและน่าสับสนของชีวิต ว่าจะเป็นในแบบเราหรือจะแคร์ความคิดของคนอื่น
12 ปีผ่านไป ดูเหมือนสังคมโลกจะเปิดใจยอมรับกับความหลากหลายทางเพศมากยิ่งขึ้น เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่ชายกับหญิง แต่แน่นอนว่ายังมีพื้นที่อีกหลายพื้นที่ยังจำกัดและปิดรับเรื่องนี้อยู่ แต่หากมองพ้นเพศสภาพไปแล้ว เราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ผู้เท่าเทียมกัน