Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Family PsychologyDear ParentsEarly childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่น
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Space
9 March 2021

Para Plearn : นวัตกรรม ‘ของเล่น’ ที่ช่วยให้การเล่นของเด็กๆ ปลอดภัย กระตุ้นการเรียนรู้และพัฒนาการ

เรื่อง ณัฐมน ทีฆาวงศ์วัชราภรณ์ สนทนา

  • การเล่นของเด็กถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นการปูพื้นฐานด้านสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ และสังคม รวมไปถึง การแก้ปัญหา ฝึกสมาธิ และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนา PQ (Play Quotient) หรือ ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น ซึ่งจะกลายเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวพวกเขาไปจนโต 
  • ต้นแบบนวัตกรรมของเล่นจากยางพารา ภายใต้ชื่อ ‘Para Plearn’ ของเล่นที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างเพลิดเพลินและปลอดภัย เพื่อเสริมทักษะและกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กๆ 3 ชนิด ประกอบไปด้วย Para Note, Para Dough และ Para Sand

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เคยกล่าวไว้ว่า “งานของเด็กคือการเล่น” 

เพราะการเล่นของเด็กถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาศักยภาพอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นการปูพื้นฐานด้านสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ และสังคม รวมไปถึง การแก้ปัญหา ฝึกสมาธิ และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนา PQ (Play Quotient) หรือ ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น ซึ่งจะกลายเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวพวกเขาไปจนโต 

สำหรับ PQ หรือ Play Quotient ประกอบไปด้วย

  • พัฒนาการทางร่างกาย เช่น พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่จากการวิ่งเล่น ปีนป่าย และพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กจากการปั้นดินน้ำมัน
  • พัฒนาการทางสมอง เช่น ความคิดสร้างสรรค์จากการประดิษฐ์ การคิดวางแผนต่อบล็อก ฝึกกะระยะจากการรับส่งบอล
  • พัฒนาการทางสังคม เช่น การรู้จักแบ่งปัน และการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันในระหว่างเล่น
  • พัฒนาการทางภาษา เช่น การสื่อสารเมื่อเล่นกับเพื่อน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี นอกจากการเล่นโดยหยิบจับของใกล้ตัวมาประยุกต์ใช้แล้ว ในปัจจุบันมี ‘ของเล่น’ มากมายที่ถูกออกแบบเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ทว่าปัญหาที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนกังวลก็คือเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ โดยเฉพาะสารเคมีที่ปะปนอยู่ในของเล่นที่เด็กๆ ต้องสัมผัสใกล้ชิด  

ล่าสุด ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดตัว ต้นแบบนวัตกรรมของเล่นจากยางพารา ภายใต้ชื่อ ‘Para Plearn’ ของเล่นที่จะช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างเพลิดเพลินและปลอดภัย 

ดร.ปณิธิ วิรุฬห์พอจิต หัวหน้าทีมวิจัยกระบวนการแปรรูปยางขั้นสูง​ เอ็มเทค สวทช. เล่าว่า ทีมวิจัยมีแนวคิดในการเพิ่มมูลค่ายางพารา พืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น จึงได้นำยางพารามาทดลองเปลี่ยนสภาพให้อยู่ในรูปแบบต่างๆ กระทั่งนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเล่นเพื่อเสริมทักษะและกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กๆ 3 ชนิด ประกอบไปด้วย Para Note, Para Dough และ Para Sand

ดร.ปณิธิ วิรุฬห์พอจิต หัวหน้าทีมวิจัยกระบวนการแปรรูปยางขั้นสูง​ เอ็มเทค สวทช.

Para Note: เขียนได้ไร้ฝุ่น ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก

“Para Note คือการนำยางพารามาทำให้แข็ง แล้วนำมาอัดเป็นแท่ง สามารถใช้เขียนกระดานหรือพื้นผิวที่มีความขรุขระได้คล้ายกับชอล์ก โดยทั่วไปชอล์กตามท้องตลาดมักทำจากแร่ยิปซัม หรือเกลือจืด ซึ่งเป็นแคลเซียมซัลเฟต เวลาเขียนจะเลอะมือ เกิดฝุ่นได้ง่ายและเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ แต่ Para Note ที่ทีมวิจัยพัฒนาขึ้นนั้น เขียนได้ไม่เลอะมือ ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย และไม่เป็นอันตราย อีกทั้งยังแตกหักได้ยากกว่าชอล์กที่วางจำหน่ายทั่วไป ที่สำคัญคือสามารถลบให้สะอาดได้ด้วยยางพาราที่มีความอ่อนตัวน้อยกว่า และขึ้นรูปเป็นลักษณะต่างๆ ได้ตามรูปแบบแม่พิมพ์”

Para Note นอกจากจะเป็นนวัตกรรมที่ปลอดภัยไร้สารเคมีแล้ว ยังเป็นของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้แก่เด็กๆ ได้อย่างดี เพราะการส่งเสริมให้เด็กเล็กขีดเขียนด้วยชอล์ก หรือดินสอไม้นั้น จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กให้มีความแข็งแรง ฝึกการทำงานที่สัมพันธ์ระหว่างมือกับตา ช่วยให้เด็กมีสมาธิมีจดจ่อกับสิ่งที่เขียนตรงหน้า รวมทั้งเสริมสร้างให้เด็กๆ มีจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ด้วย

Para Dough: ยางปั้นไร้สารอันตราย ฝึกสมาธิ สร้างจินตนาการ

สำหรับ Para Dough ดร.ปณิธิ อธิบายว่า เกิดจากการทดลองนำแผ่นยางพารามาทำให้อ่อนตัวมากที่สุด จากนั้นทดลองผสมกับน้ำมันปาล์มและแป้ง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ จนเกิดเป็น Para Dough หรือยางสำหรับปั้น มีลักษณะคล้ายกับดินน้ำมัน แต่ไม่มีกลิ่นและปลอดภัยกว่าดินน้ำมันทั่วไป เพราะปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย อีกทั้งยังสามารถคงสภาพอยู่ได้โดยไม่แห้งแข็ง ทนความร้อน-เย็นได้ ไม่ขึ้นรา และไม่มีกลิ่นแม้จะทิ้งเอาไว้เป็นเวลานาน จึงเป็นนวัตกรรมอีกตัวหนึ่งที่มีความปลอดภัย เพราะส่วนผสมทุกอย่างที่ใช้ผลิตล้วนมาจากธรรมชาติ 

ทั้งนี้ การปั้น Para Dough ยังถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของเด็กๆ ได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กในช่วงแรกเกิดถึง 3 ขวบ เพราะเป็นช่วงที่สมองของเด็กพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพมากที่สุด ในส่วนของเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป การปั้นสามารถช่วยฝึกสมาธิ เสริมสร้างจินตนาการ และต่อยอดกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์ให้แก่เด็กได้อีกด้วย

Para Sand: ขึ้นรูปทรงตามใจ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

นวัตกรรมตัวสุดท้ายคือ Para Sand  ดร.ปณิธิ อธิบายว่า เป็นผลิตภัณฑ์ยางพาราที่มีลักษณะเป็นผงเหมือนทรายแต่มีความหนืดไม่แตกตัว ลักษณะคล้ายสไลม์แบบผง มีรูปแบบการพัฒนาเช่นเดียวกับ Para Dough แต่มีการผสมวัตถุดิบในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ความพิเศษของ Para Sand คือสามารถนำผงยางพารามาปั้นหรืออัดขึ้นรูปเป็นรูปทรงต่างๆ และเปลี่ยนรูปให้กลับมาเป็นผงเช่นเดิมได้ โดยนำกลับมาปั้นขึ้นรูปใหม่ได้มากกว่า 10 ครั้ง รวมทั้งเติมสีและกลิ่นต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งประโยชน์ของ Para Sand นั้นจะคล้ายๆ Para Dough คือช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ รวมทั้งช่วยเสริมสร้างพัฒนาการกล้ามเนื้อมือและนิ้วของเด็กๆ ในการหยิบ จับ นวด ปั้นให้ออกมาเป็นรูปทรงต่างๆ และที่สำคัญคือการสร้างความภูมิใจเมื่อเด็กๆ ปั้นชิ้นงานต่างๆ ออกมาได้สำเร็จ 

(Para Plearn เป็นนวัตกรรมของเล่นจากยางพาราที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ มีพัฒนาการที่ดีสมวัย เล่นได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สวทช.)

Tags:

ดร.ปณิธิ วิรุฬห์พอจิตสวทช.การเล่นอิสระ(free play)ของเล่นPara Plearn

Author:

illustrator

ณัฐมน ทีฆาวงศ์

illustrator

วัชราภรณ์ สนทนา

Related Posts

  • Free play
    Social Issues
    ‘เล่นสร้างโลก’ ปั้นเด็กปฐมวัยให้มีสมรรถนะผ่านพื้นที่เรียนรู้และการเล่นอิสระ

    เรื่อง นฤมล ทับปาน ภาพ ปริสุทธิ์

  • Space
    Loose Parts เล่นอย่างไรในยุคโควิด ไม่ให้วิกฤติหยุดจินตนาการเด็ก

    เรื่อง สุมณฑา ปลื้มสูงเนิน

  • Early childhoodLearning Theory
    ‘การเล่น’ คืองานที่เด็กทุกคนต้องได้ทำอย่างสุดความสามารถ

    เรื่องและภาพ สุมณฑา ปลื้มสูงเนิน

  • Early childhoodBook
    พลังแห่งวัยเยาว์: ขอผู้ใหญ่ ‘อย่าเข้าไปยุ่ง’ เด็กเล็กควรเล่นอิสระมากกว่าฝึกฝน

    เรื่องและภาพ ณิชากร ศรีเพชรดี

  • Early childhoodBook
    THE HAPPIEST KIDS IN THE WORLD: อิสรภาพจากการได้เล่นอิสระ เคล็ดลับเด็กดัตช์แฮปปี้สุดๆ

    เรื่อง ณิชากร ศรีเพชรดี

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel