Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
May i Quit Being Mom__cover
Movie
9 August 2024

May I quit being a mom? ความพยายามดูแลแม่ญี่ปุ่นของรัฐบาล

เรื่อง พิมพ์พาพ์

  • ‘May I quit being a mom?’ เป็นสารคดีสัญชาติญี่ปุ่นที่อกเล่าความยากลำบากของการเป็น ‘แม่’ ในหลายๆ ครอบครัว ซึ่งก็พูดถึงเรื่องราวเปราะบางและซับซ้อนในครอบครัวได้อย่างจริงใจ รวมถึงทำให้เห็นถึงวิธีการที่รัฐบาลพยายามเข้าไปดูแลเหล่า ‘แม่’ ที่ส่วนใหญ่ต้องเป็นคนที่ดูแลลูกเพียงคนเดียว
  • เรื่องราวที่ชวนเสียน้ำตามากที่สุดคือเรื่องของคุณแม่ ‘โทชิเอะ’ แม่ที่ไม่สามารถกอดลูกของตัวเองได้เพราะมีปมบาดแผลในอดีต ที่เคยถูกแม่ผู้ให้กำเนิดทิ้งไปตอนเป็นวัยรุ่น ทำให้เธอไม่สามารถที่จะแสดงความรักให้ลูกได้รับรู้ได้มากเพียงพอ
  • สังคมมีส่วนรับผิดชอบอย่างมากในการเลี้ยงเด็กคนนึงขึ้นมา ทั้งครอบครัว จิตแพทย์ โรงเรียน รัฐบาล เมื่อทุกฝ่ายมาช่วยแบ่งเบา รับฟังปัญหา ก็จะช่วยเติมพลังให้แม่ผู้เปรียบเสมือนหัวหน้ากลุ่ม สามารถมอบความรักให้ลูกได้อย่างเต็มที่ ทำให้เห็นว่าการเลี้ยงเด็กคนนึงไม่ควรเป็นงานของแม่เพียงคนเดียว

สารคดีจากประเทศญี่ปุ่นที่บอกเล่าความยากลำบากของการเป็นพ่อแม่ โดยเฉพาะคนเป็น ‘แม่’  ที่สังคมมักจะกดดันว่าจะต้องเป็นคนที่ดูแลลูกเพียงคนเดียว โดยมีผู้กำกับจากสารคดีเรื่อง Kid konference (2022) เล่าถึงโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความคิดของเด็กๆ เหมือนพวกเขาเป็นผู้ใหญ่ซึ่งเราเคยเขียนถึงก่อนหน้านี้มาแล้ว

สำหรับสารคดีเรื่อง May I quit being a mom? ก็ทำให้เราเสียน้ำตามากมายเพราะพูดถึงเรื่องราวเปราะบางและซับซ้อนในครอบครัวได้อย่างจริงใจ และทำให้เห็นถึงวิธีการที่รัฐบาลพยายามเข้าไปดูแล และตัวผู้กำกับเองที่นำเรื่องนี้มาเผยแพร่เพื่อให้คนในสังคมรับรู้และทำความเข้าใจร่วมกัน

เรื่องเริ่มจากไปสัมภาษณ์คุณแม่ๆ หลายคนที่รู้สึกเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกจนเกิดความคิด ‘อยากลาออกจากการเป็นแม่’ พวกเธอรู้สึกย้อนแย้งกับตัวเอง เพราะในใจรู้สึกรักลูกแต่บางครั้งก็อยากหนีไปให้พ้นๆ 

สารคดีพยายามพูดถึงภาวะซึมเศร้าและความรู้สึกโดดเดี่ยวที่คนเป็นแม่มักจะเผชิญหลังคลอดลูก เพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหานี้จะได้ช่วยกันป้องกันก่อนจะสายเกินไป

พวกเขาเล่าว่ามีหลายครอบครัวที่มีปัญหาสุขภาพจิตโดยไม่รู้ตัวว่าต้องเข้ารับการรักษา มีครอบครัวที่ต้องเสียแม่ไปจากโรคซึมเศร้า และมีครอบครัวที่ทำร้ายเด็กเพราะต้องอยู่กับความเครียดและไม่เคยเข้าถึงการรักษาทางจิตใจ

โดยทางสารคดีก็ได้ไปติดตามชีวิตของหลายครอบครัว มีทั้งคุณแม่ที่กำลังจะต้อนรับลูกคนที่สามพร้อมกับกังวลว่าจะต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอดอีกครั้ง มีคุณแม่ที่เยียวยาตัวเองจากการที่แม่ของเธอฆ่าตัวตายตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กน้อย เธอเคยไม่เห็นภาพตัวเองว่าจะเป็นแม่คนได้แต่กลับกลายเป็นว่าเธอสามารถมอบความรักให้ลูกได้อย่างเต็มเปี่ยม

และก็มีคุณแม่ที่ทำให้เราเสียน้ำตามากที่สุดคือคุณแม่ ‘โทชิเอะ’ เธอคือแม่ที่ไม่สามารถกอดลูกของตัวเองได้เพราะมีปมบาดแผลในอดีตที่เคยถูกแม่ผู้ให้กำเนิดทิ้งไปตอนเป็นวัยรุ่น

โทชิเอะมีลูกสามคน ลูกสาวคนโตของเธอกำลังเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น และมีปัญหาโดดเรียนบ้าง แกล้งเพื่อนบ้าง จนครูประจำชั้นเรียกโทชิเอะไปคุยด้วยบ่อยๆ โทชิเอะเปิดเผยว่าเธอรู้ว่าลูกๆ ต้องการความรักจากเธอแต่เธอไม่สามารถแสดงออกได้ เธอมักจะดุและเข้มงวดกับลูกๆ มาก

จนวันหนึ่งลูกสาวคนโตเขียนจดหมายมาว่า “แม่รักหนูบ้างมั้ย?” และเธอไม่ได้เขียนกลับไป เธอนำเรื่องนี้มาปรึกษากับทางทีมงานว่าเธอไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าเธอไม่รัก และรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งอย่างที่เธอเคยรู้สึกกับแม่ของตัวเอง สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจเปิดใจกับลูกก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

เธอบอกกับลูกว่า “แม่อยากแน่ใจว่าลูกรู้ว่าทุกครั้งที่แม่หงุดหงิด ซึ่งแม่จะหงุดหงิดอีกแน่ๆ แต่นั่นไม่ใช่เพราะแม่ไม่รักลูก” เธอขอกอดลูกและบอกลูกว่า “เธออยากกอดลูกมานานมากๆ แต่ที่ไม่ได้ทำไม่ใช่เพราะไม่รักลูก แต่แม่แค่ทำไม่ได้” หลังจากที่เธอบอกความในใจนี้ เธอกับลูกๆ ก็กลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง เธอบอกว่า เธอน่าจะทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว และต่อมาเธอยังตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้กับลูกสาวคนโต ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ลูกๆ หลายคนอยากได้ยินมากที่สุด เลยขอยกมาใส่ไว้ในครั้งนี้

“ฟูกะลูกรัก ขอบใจนะที่เป็นพี่สาวคนโต ยังกังวลอยู่ไหมว่าแม่ไม่รักลูก ถึงลูกจะไม่ชอบวิชาเลขหรือการเลี้ยงน้อง

ต่อให้ลูกหนีเรียนหรือเกลียดแม่ในบางครั้ง แม่ก็ยังรักลูกจ้ะ มาหาสิ่งที่ลูกชอบทำกันเถอะนะ แม่ดีใจที่จะได้ร่วมเส้นทางนี้ไปกับลูก

บางครั้งอาจเหมือนลูกกำลังแตกสลาย แต่อย่าลังเลที่จะมาให้แม่ช่วยนะ พ่อกับแม่จะอยู่ข้างลูกเสมอจ้ะ

รัก จากแม่”

ในสารคดีบอกเราอีกว่าสังคมมีส่วนรับผิดชอบอย่างมากในการเลี้ยงเด็กคนนึงขึ้นมา ทั้งครอบครัว จิตแพทย์ โรงเรียน รัฐบาล เมื่อทุกฝ่ายมาช่วยแบ่งเบา รับฟังปัญหา ก็จะช่วยเติมพลังให้แม่ผู้เปรียบเสมือนหัวหน้ากลุ่ม สามารถมอบความรักให้ลูกได้อย่างเต็มที่ ทำให้เห็นว่าการเลี้ยงเด็กคนนึงไม่ควรเป็นงานของแม่เพียงคนเดียวจริงๆ

เรื่องที่น่าสนใจที่เรารู้สึกว่าแทบทุกครอบครัวน่าจะเป็นคือมีปัญหาในการสื่อสารกัน ทั้งครอบครัวของโทชิเอะที่เล่าไปก่อนหน้านี้ ส่วนนึงของปัญหาก็เกิดจากการไม่ได้สื่อสารความรู้สึกกันนานหลายปี แล้วพอมีคนเข้ามาบอกวิธีที่จะแสดงความรู้สึก พวกเขาก็ผ่านมันไปได้

สารคดีพาไปให้เห็นอีกมุมหนึ่งของการไม่สื่อสารกัน คือเวลาอยู่บ้าน พ่อๆ ทั้งหลายมักจะอยู่ในท่าเล่นมือถือ หรือนอนหลับสบาย ขณะที่แม่ๆ ทำงานไม่หยุด เมื่อไปสัมภาษณ์ พ่อส่วนใหญ่จะบอกว่าไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือยังไง หรือเคยถามแล้วว่าให้ช่วยอะไรมั้ยแต่แม่ก็ไม่พูดอะไร เลยปล่อยให้แม่เป็นคนจัดการ 

ส่วนในมุมของแม่เองก็ยอมรับว่าไม่อยากพูด เพราะไม่อยากบังคับให้ทำ พวกเธอมักจะพูดว่าอยากให้พ่อมีจิตสำนึกช่วยเอง หรือบางครั้งพวกเธอก็ไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพราะถูกกดดันว่าคนเป็นแม่ต้องทำได้สิ แต่มันกลายเป็นต่างฝ่ายต่างเข้าใจและมีความคาดหวังไปคนละแบบ ทุกคนต่างเลือกจะเก็บงำความรู้สึกของตัวเองจนมันระเบิดและกลายเป็นปัญหาใหญ่

ทีนี้สารคดีก็พาไปให้เห็นในมุมของพ่อบ้าง และชี้ให้เห็นว่าการออกไปทำงาน สามารถนับว่าเป็นการดูแลครอบครัวด้วยได้มั้ย เพื่อให้ฝั่งแม่เห็นใจว่าพวกพ่อๆ ก็พยายามทำเพื่อครอบครัวอยู่และมันไม่ได้สบายอย่างที่พวกเธอคิด

สุดท้ายการพยายามสื่อสารของทั้งสองฝั่งคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ทั้งพ่อและแม่ต้องมานั่งเปิดใจต่อกันโดยวิธีการสื่อสารที่เป็นสันติ แม่ก็ต้องฝึกพูดขอความช่วยเหลือให้เป็น พ่อก็ต้องฝึกแบ่งเบา ใส่ใจ หรือรับฟังปัญหาอย่างตั้งใจ ต่างฝ่ายต่างต้องมอบความเข้าอกเข้าใจ (Emphathy) ให้กัน ปัญหาถึงจะค่อยๆ คลี่คลายได้

เราคิดว่าสารคดีนี้เล่าเรื่องได้ดีเพราะเขาไม่ได้ทำมาเพื่อเข้าข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่ง หรือบอกว่าฝั่งไหนเหนื่อยกว่าฝั่งไหน แต่ทำตัวเป็นสื่อกลางที่บอกเล่าความในใจของแต่ละฝ่ายออกมาเพื่อผลักดันให้แก้ไขปัญหาร่วมกันด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น อาจจะทำให้คนเป็นพ่อแม่ไม่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว เพราะยังมีคนที่เข้าใจและกำลังเผชิญปัญหาเหมือนๆ กันอยู่ และยังทำให้เห็นว่าปัญหาครอบครัวส่วนใหญ่ก็ไม่สามาถแก้ไขด้วยคนเพียงคนเดียวได้ แม่ไม่ควรรับบทนางแบกจนต้องรู้สึกอยากลาออก มันเป็นหน้าที่ที่เราทุกคนในสังคมต้องตระหนักรู้และร่วมมือกันถึงจะทำให้ครอบครัวเติบโตอย่างแข็งแรง

Tags:

สุขภาพจิตพ่อแม่ลูกสังคมแม่รัฐบาลซึมเศร้าหลังคลอดMay I quit being a mom?

Author:

illustrator

พิมพ์พาพ์

เป็นลูกคนเดียวจากแม่เลี้ยงเดี่ยว เรียกตัวเองว่านักวาดภาพประกอบที่ชอบวาดคนหน้าแมว เผลอเสียน้ำตาให้กับหนังครอบครัวอยู่บ่อยๆ

Related Posts

  • Movie
    Better  Days: ชีวิตใครบางคนคงไม่แตกสลาย ถ้าทุกคนหยุดการบูลลี่ก่อนที่จะมันจะกลายเป็นอาชญากรรม

    เรื่อง อภิบาล ว่องวงษ์รักษ์ ภาพ ภาณุพงศ์ สุวรรณจุฑามณี

  • Healing the trauma
    ความสัมพันธ์ที่ทำร้ายทารุณ

    เรื่อง ภัทรารัตน์ สุวรรณวัฒนา ภาพ กรองพร ทององอาจ

  • Adolescent Brain
    เพราะสมองหรือเพราะใจ? ทำไมวัยรุ่นถึงเป็นซึมเศร้า ทำความเข้าใจผ่านปัจจัยสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

    เรื่อง ศุภณัฐ เติมชัยอนันต์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • BookDear Parents
    โปรดโอบกอดมนุษย์ลูก: โลกร้ายกาจอาจไม่ทำลายคน ความเดียวดายต่างหาก

    เรื่อง พิมพ์พาพ์

  • MovieDear Parents
    Orange is the new black: แม้ในเรือนจำความเป็นมนุษย์ไม่ควรถูกกักขัง

    เรื่อง พิมพ์พาพ์

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel