Skip to content
วัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัย
  • Creative Learning
    Life Long LearningEveryone can be an EducatorUnique TeacherUnique SchoolCreative learning
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    21st Century skillsEducation trendLearning TheoryGrowth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    BookMovieSpace
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
วัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัย
Book
2 October 2025

ที่ที่ดีที่สุดในโลกอยู่ตรงนี้: เมื่อหยุดค้นหาจึงได้ค้นพบ

เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • หนังสือ ‘ที่ที่ดีที่สุดในโลกอยู่ตรงนี้’ หรือชื่อภาษาสเปนว่า El major lugar del mundo es aqui mismo เขียนโดย ฟรานเซส มิราเยส ร่วมกับ กาเร ซันโตส แปลเป็นภาษาไทยโดย รัศมี กฤษณมิษ เป็นหนังสือแนวอบอุ่นฮีลใจ อ่านง่ายย่อยง่าย แต่อาจช่วยให้คุณค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่คุณยังหาไม่พบ
  • หนังสือเล่าเรื่องของ อิรีส หญิงสาวที่สิ้นหวังหลังสูญเสียครอบครัว แต่การได้พบ ร้านกาแฟลึกลับ และชายชื่อ ลูกา ทำให้เธอเรียนรู้การปล่อยวางอดีต อยู่กับปัจจุบัน และค้นพบว่าความสุขแท้จริงอยู่ใกล้ตัวเสมอ
  • เมื่อเราตระหนักว่า ช่วงเวลาปัจจุบันเท่านั้น ที่เป็นช่วงเวลาเดียวที่เรามีอยู่จริง ช่วงเวลานี้เท่านั้น ที่เราสามารถลงมือทำสิ่งที่อยากทำ เราจึงสามารถใช้ชีวิตอย่างที่เคยใฝ่ฝัน เคยตั้งความหวัง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

หลายคนอาจจะเคยอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า ‘ปัจจุบันเป็นเวลาประเสริฐสุด’ หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานเขียนของพระอาจารย์ ติช นัท ฮันห์ พระนิกายเซนชาวเวียดนาม ซึ่งเนื้อหาโดยสรุปของหนังสือ พูดถึงความสำคัญของการมีสติอยู่กับปัจจุบัน ไม่จมอยู่กับอดีตที่ผ่านไปแล้ว และไม่เพ้อฝันไปกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

เปล่าหรอกครับ บทความชิ้นนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเขียนถึงหนังสือเล่มนี้หรอก เพียงแต่ว่า หนังสือเล่มที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟัง มีบางแง่มุมที่ชวนให้นึกถึงหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา

หนังสือเล่มที่ผมกำลังจะเขียนถึง มีชื่อว่า ‘ที่ที่ดีที่สุดในโลกอยู่ตรงนี้’ หรือชื่อภาษาสเปนว่า El major lugar del mundo es aqui mismo เขียนโดย ฟรานเซส มิราเยส ร่วมกับ กาเร ซันโตส แปลเป็นภาษาไทยโดย รัศมี กฤษณมิษ เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ความยาวไม่ถึง 200 หน้า ซึ่งสามารถอ่านจบได้ในเวลาไม่กี่วัน หรือไม่กี่ชั่วโมง

เมื่อดูจากหน้าปก ที่เป็นภาพวาดคาเฟ่สีพาสเทลน่ารักๆ บวกกับคำโปรยหลังปก ก็พอเดาได้ว่า นี่คือหนังสือแนวอบอุ่นฮีลใจ อ่านง่ายย่อยง่าย ซึ่งจริงๆ ก็เป็นเช่นนั้น แต่ผมอยากจะบอกว่า สิ่งที่ดูง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์  มิหนำซ้ำ ความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา อาจเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด ในวันที่เหนื่อยล้า หรือผิดหวังกับเรื่องราวแย่ๆ ในชีวิต

ไม่ต่างจากคนที่กำลังป่วย หรือเพิ่งหายจากป่วย ข้าวต้มหรือโจ๊กร้อนๆ สักชาม พร้อมกับข้าวที่ย่อยง่าย อาจเหมาะกับคนนั้นมากกว่าอาหารมื้อใหญ่ ที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย 

เช่นเดียวกัน หนังสือเล่มเล็กที่อ่านง่ายย่อยง่ายเล่มนี้ อาจช่วยให้คุณค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่คุณยังหาไม่พบ หรืออาจจะดีกว่านั้นอีก ถ้าหนังสือเล่มนี้ ช่วยให้คุณระลึกได้ว่า จริงๆ แล้ว สิ่งที่เพียรพยายามแสวงหามาตลอด คือสิ่งที่คุณมีอยู่กับตัวอยู่แล้ว หากเพียงแต่หลงลืมว่าเก็บมันไว้ที่ไหนเท่านั้นเอง

อิรีส หญิงสาววัยสามสิบหก เพิ่งสูญเสียพ่อกับแม่ไปด้วยอุบัติเหตุ เธออยู่ลำพังตัวคนเดียว ทำงานรับโทรศัพท์ที่บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง อิรีสไม่ชอบงานที่ทำหรอก แต่เธอก็ทนทำไป เหมือนกับที่เธอทนใช้ชีวิตอย่างไร้ความหมายไปวันๆ

เธอไม่รู้เลยว่า ความหมายของชีวิตคืออะไร หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า เธอไม่รู้เลยว่า จะค้นหาความสุขให้กับชีวิตได้อย่างไร

แน่นอนว่า อิรีส เคยพบเจอสิ่งดีๆ ในชีวิต แต่มันก็ล้วนกลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนวัยรุ่น เธอเคยพบชายหนุ่มที่ทำให้หัวใจเธอพองโต แต่เรื่องนั้นก็ผ่านไปเนิ่นนานแล้ว เธอเคยเลี้ยงหมาน่ารักตัวหนึ่ง แต่มันก็จากไปแล้ว เธอเคยมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่นั่นก็ผ่านไปแล้วเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้อิรีส กลายเป็นคนยึดติดอยู่กับอดีต ช่วงเวลาปัจจุบันของเธอ จึงเป็นแค่การใช้ชีวิตไปวันๆ อย่างไร้ความหมายและไร้ความสุข

อ่านมาถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะนึกถึงปรากฎการณ์ทางจิตใจที่เรียกว่า การโหยหาอดีต (Nostalgia) ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนหลายๆ คนในโลกปัจจุบัน คนที่อาการโหยหาอดีต มักจะรู้สึกว่า ช่วงเวลาในอดีตเป็นช่วงเวลาที่ดีงามกว่าปัจจุบัน

ทั้งที่โลกปัจจุบัน มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายกว่าอดีต ทั้งการเดินทาง การติดต่อสื่อสาร การมีเครื่องมือเครื่องใช้ช่วยผ่อนแรง หรือกระทั่งการมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ที่ช่วยย่นเวลาในการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลจำนวนมาก แต่ผู้คนจำนวนมากก็ยังรู้สึกว่า วันวานยังหอมหวานกว่าวันนี้

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะสมองของคนเรา มักเลือกจดจำแต่สิ่งดีๆ โดยลบเลือนหรือมองข้ามเหตุการณ์แย่ๆ ที่ไม่สำคัญไป ทำให้ภาพความทรงจำของเรา มักจะเป็นภาพที่สวยงาม อบอุ่น อ่อนโยนและอ่อนเยาว์

นอกจากนี้ ช่วงวัยเยาว์ของคนส่วนใหญ่ มักเป็นช่วงชีวิตที่ไม่ต้องแบกรับความรับผิดชอบ เหมือนช่วงชีวิตที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดังนั้น จึงไม่แปลกที่อดีต จะเป็นอะไรที่งดงามและชวนให้โหยหา

แต่เอาเข้าจริงๆ ผมคิดว่า อิรีส ไม่ได้เป็นแค่คนที่โหยหาอดีตหรอก เธอน่าจะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรงจากการสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกะทันหัน (PTSD – Post Traumatic Stress Disorder)และมีความเป็นไปได้ว่า เธอจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าด้วย

ในบทแรกของหนังสือเล่มนี้ อิรีส รู้สึกว่า ชีวิตของเธอช่างไร้ความหมาย ความฝัน และความสุข ในวูบหนึ่งของห้วงคำนึง เธอคิดจะฆ่าตัวตาย แต่การเล่นซุกซนของเด็กน้อยคนหนึ่งช่วยให้เธอได้สติขึ้นมา และตอนนั้นเอง อิรีส มองเห็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่เธอไม่เคยสังเกตมาก่อน

ร้านกาแฟเล็กๆ มีชื่อที่แสนยาวว่า ‘ที่ที่ดีที่สุดอยู่ตรงนี้’

หลังจากเดินเข้าไปในร้านแล้ว อิรีสจึงพบว่า นอกจากจะชื่อแปลกๆ แล้ว บรรยากาศและผู้คนในร้าน ก็ดูจะไม่ปกติธรรมดา โดยเฉพาะผู้ชายแปลกๆ แต่ดูมีเสน่ห์ ซึ่งจู่ๆ ก็มานั่งโต๊ะเดียวกับอิรีส แถมพูดคุยกับเธออย่างสนิทสนมราวกับเคยรู้จักกันมานาน

ไม่สิ ไม่ใช่แค่รู้จักหรอก ผู้ชายคนนั้น ซึ่งอิรีสมารู้ในภายหลังว่าชื่อ ลูกา ยังถึงขั้นรู้ใจอิรีสด้วย เขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร เขารู้กระทั่งว่าแหวนที่เธอสวม ได้มาจากคนที่เธอรัก ซึ่งจากไปแล้วตลอดกาล

คำพูดของลูกา ทำให้อิรีสนึกถึงพ่อและแม่ และความคิดนั้นทำให้เธอเศร้า แต่ลูกาก็พูดขึ้นว่า

“แต่ละวันเรามีความคิดอยู่ราวหกหมื่นกว่าเรื่อง ทั้งในแง่ดีและในแง่ร้าย มีทั้งเรื่องไร้สาระและลึกซึ้ง… หากมีความคิดใดที่ทำให้เธอปวดร้าว ก็เพียงแต่แปะป้ายลงไปว่า นี่คือ ความคิด แล้วปล่อยให้มันผ่านไปก็พอ”

สิ่งที่แปลกอีกอย่างก็คือ ขณะที่ลูการู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับอิรีส แต่เขากลับจำเรื่องของตัวเองไม่ได้เลย นอกจากชื่อแล้ว เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน

“อะไรๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น… แต่ฉันไม่แคร์นักหรอก ฉันรู้แต่เพียงว่า ขณะนี้เธอกับฉันอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งนี้เท่านั้น”

ตอนนั้นเอง อิรีส เอ่ยปากตอบรับเขาว่า “ที่ที่ดีที่สุดในโลกอยู่ตรงนี้”

‘ตรงนี้’ ในหนังสือเล่มนี้ ไม่ได้หมายความถึงสถานที่ หากแต่หมายความถึงช่วงเวลา ณ ปัจจุบัน มากกว่า ที่ตรงนี้ ซึ่งเป็นที่ที่ดีที่สุด จึงหมายถึงช่วงเวลาที่อิรีสกำลังนั่งในร้านกาแฟชื่อแปลกๆ และกำลังใช้เวลาอย่างมีความสุขกับชายแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จัก

ไม่เพียงแต่พระอาจารย์ ติช นัท ฮันห์ เท่านั้น ยังมีนักปราชญ์ นักคิด นักเขียนอีกหลายคน รวมถึงเซเนกา นักปราชญ์ชาวกรีก ที่กล่าวย้ำความสำคัญของช่วงเวลาปัจจุบัน เพราะนี่คือช่วงเวลาเดียวที่เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้ ด้วยการลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง ขณะที่ช่วงเวลาอดีต แม้จะหอมหวาน แต่ก็เป็นสิ่งที่ผ่านเลยไปแล้ว และไม่มีวันย้อนคืน ส่วนช่วงเวลาอนาคต แม้จะดูสดใส แต่ก็เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่แน่ว่าจะเกิดขึ้นได้จริงด้วย

เมื่อเราตระหนักว่า ช่วงเวลาปัจจุบันเท่านั้น ที่เป็นช่วงเวลาเดียวที่เรามีอยู่จริง ช่วงเวลานี้เท่านั้น ที่เราสามารถลงมือทำสิ่งที่อยากทำ เราจึงสามารถใช้ชีวิตอย่างที่เคยใฝ่ฝัน เคยตั้งความหวัง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้

เรื่องราวของอิรีส กับลูกา และร้านกาแฟชื่อแสนยาว อาจจะดำเนินไปภายใต้รูปลักษณ์ของนิยายแฟนตาซี ที่ผสมผสานความโรแมนติก แต่ภายใต้ฉากหน้าที่ดูสวยหวาน มีเรื่องราวที่ให้แง่คิดที่ลึกซึ้งจริงจัง ไม่แพ้หนังสือแนวปรัชญาสอนใจ หรือหนังสือว่าด้วยการพัฒนาตนเองเลย

ลูกา ได้สอนให้อิรีสค้นพบความงดงามในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ความทรงจำเล็กๆ ที่ไม่ได้มีความสำคัญ แต่ก็ทำให้เรายิ้มอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึง หรือ ความสุข ก็ไม่ต่างจากบทกวีไฮกุ ที่เรียบง่าย กระชับ และลดทอนส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป

ที่สำคัญ ลูกา สอนให้อิรีสตระหนักว่า การให้อภัยตัวเอง เป็นสิ่งที่ทุกคนพึงกระทำ ไม่แพ้การให้อภัยคนอื่น หลายครั้งหลายหน เรามักเข้มงวดกับตัวเองจนเกินไป จนไม่ยอมให้อภัยความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเคยทำ หรือหลงลืมที่จะทำ

นอกจากลูกาแล้ว ร้านกาแฟ ‘ที่ที่ดีที่สุดอยู่ตรงนี้’ ยังมีคนแปลกๆ อีกคนหนึ่ง คือ เจ้าของร้าน ซึ่งทุกคนเรียกเขาว่า ‘นักมายากล’ และนักมายากลผู้นี้ ได้มอบนาฬิกาเรือนหนึ่งให้กับอิรีส นาฬิกาที่กลไกยังทำงานอยู่ แต่เข็มนาฬิกากลับหยุดอยู่กับที่

ก็คงไม่ต่างจากชีวิตของอิรีส หรือใครอีกหลายๆ คน ที่ชีวิตยึดติดอยู่กับช่วงเวลาแสนหวานในอดีต จนทำให้เวลาของเธอ ไม่อาจเดินหน้าต่อไปได้

ในเวลาต่อมา อิรีส จึงค้นพบว่า ที่ด้านหลังหน้าปัดนาฬิกา มีข้อความเล็กๆ จารึกไว้ว่า ‘จงทิ้งอดีต แล้วปล่อยให้ปัจจุบันเดินหน้าไป’

ปมปริศนาของร้านกาแฟ รวมถึงตัวลูกาและนักมายากล ได้รับการเฉลยในช่วงท้ายของเรื่อง ร้านกาแฟแห่งนี้ ไม่ได้มีอยู่จริง ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นโดยเวทย์มนต์มหัศจรรย์ หรืออาจเป็นเพียงแค่จินตนาการในสมองของอิรีส แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญหรอก เพราะสิ่งที่สำคัญจริงๆ อยู่ที่ว่า อิรีสได้เรียนรู้อะไรจาก ‘ที่ที่ดีที่สุดอยู่ตรงนี้’

อิรีส ได้เรียนรู้ว่า หากต้องการให้ชีวิตเดินหน้าต่อไปได้ เธอจำเป็นต้องปล่อยวางอดีต แน่นอน นั่นไม่ได้หมายความว่า เธอจะต้องลบเลือน หรือหลงลืมความทรงจำแสนอบอุ่นที่เคยมี เพียงแค่เธอจะต้องไม่ยึดติดกับมัน จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริง

เหมือนเช่นที่คำจารึกหลังหน้าปัดนาฬิกา ที่เขียนไว้ว่า “จงทิ้งอดีต แล้วปล่อยให้ปัจจุบันเดินหน้าไป”

มีเพียงการปล่อยมือจากอดีตเท่านั้น ที่ทำให้เราสามารถสร้างความหวังและความฝันขึ้นมาใหม่ และมีเพียงการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันเท่านั้น ที่ทำให้เราค้นพบว่า จริงๆ แล้ว ความสุข อยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ ขอเพียงแค่ไม่หลงลืมที่จะมอง

เหมือนเช่นบทกวีไฮกุ ซึ่งอิรีส แต่งขึ้นเพื่อมอบให้กับลูกา คนรักในจินตนาการของเธอ (รวมทั้งมอบให้โอลิวิเยร์ ชายหนุ่มคนรักตัวจริงของเธอ) 

“ปากกาอยู่ทางขวา

หัวใจอยู่ทางซ้าย

และเธออยู่ในทุกหนแห่ง”

Tags:

PTSDที่ที่ดีที่สุดในโลกอยู่ตรงนี้ชีวิต

Author:

illustrator

สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

อดีตนักแปล-นักข่าว ปัจจุบันเป็นพ่อค้า พ่อบ้าน และพ่อของลูกชายวัยรุ่น รักหนังสือ ชอบเข้าร้านหนังสือ และชอบซื้อหนังสือมาดองเป็นกองโต

Related Posts

  • Vicharjai
    Everyone can be an Educator
    ‘วิชาใจ’ คอนเทนต์อิงธรรม โดย พระจิตร์ จิตตสวโร ที่ชวนสำรวจความคิดโดยไม่หลีกหนีความรู้สึก

    เรื่อง อภิบาล ว่องวงษ์รักษ์ ภาพ ปริสุทธิ์

  • Book
    ความฝันที่ล้มเหลวไม่เจ็บปวดเท่าความฝันที่ไม่ได้ลงมือทำ: คิริโกะกับคาเฟ่เยียวยาใจ

    เรื่อง อภิบาล ว่องวงษ์รักษ์

  • Book
    มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน: ชีวิตมีไว้เพื่อใช้ มิใช่แค่เพื่อค้นหาความหมาย

    เรื่อง สิทธิพงศ์ อุรุวาทิน

  • How to enjoy life
    ความหมายของชีวิต: เรียนรู้ และสร้างมันขึ้นมา

    เรื่อง ชัค ชัชพงศ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • How to enjoy life
    Law of Jante: เอนจอยกับชีวิตด้วยแนวคิด ‘I ไม่ได้ดีเลิศไปกว่า You หรอก’

    เรื่อง ปริพนธ์ นำพบสันติ ภาพ ninaiscat

  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts
  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel