- “หนทางเดียวที่จะเป็นปรมาจารย์แห่งรัก คือ ฝึกรัก” ชวนอ่าน 8 หนังสือที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น ทั้งการรักตัวเองและการรักผู้อื่น
มีหนังสือมากมายพูดเรื่องความรัก และเราว่ามีหลายเล่มที่น่าจะทำให้คนอ่านรักตัวเองได้เก่งกว่าเดิม
แน่นอน คงไม่มีใครรักตัวเองได้จากการอ่านหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่ง และเห็นด้วยกับคุณดอน มิเกล รูอิซ นักเขียนชาวเม็กซิกัน ว่าความรักนั้นน่าจะต้องการการฝึกฝนไม่น้อย
หนังสือทั้ง 8 เล่มนี้ จะแสดงให้เราเห็นว่าการรักตัวเองนั้นมีมิติที่กว้างขวางและน่าสนใจแบบไหน หน้าตาเป็นยังไง วิธีการที่ผู้คนใช้กันเป็นยังไง ความรักตัวเองชดเชยความรักจากคนอื่นได้หรือไม่ รักคนอื่นน่าจะดีกว่ารักตัวเองหรือเปล่า แล้วมันต่างจากความเห็นแก่ตัว ต่างจากการพยายามพิสูจน์ตัวเอง การหลงตัวเอง หรือการไม่แคร์โลกรอบตัวยังไง และที่สำคัญที่สุด ความรักตัวเองจะมอบสายตา หัวใจ และชีวิตแบบไหนให้กับเรา
อย่างที่ว่าไว้ที่หัวข้อของเรื่องนี้ “หนทางเดียวที่จะเป็นปรมาจารย์แห่งรัก คือ ฝึกรัก”
เริ่มประสบการณ์รักด้วยการอ่านหนังสือกันค่ะ 😊
1
“ค้นหาและออกไปนอกหนังสือด้วยตัวคุณเอง หรือหยุด เพื่อสัมผัสตัวคุณซึ่งมีเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขสงบซ่อนอยู่เสมอ”
DIY Your Heart คู่มือออกแบบความสุขด้วยตัวเอง
หนังสือที่เต็มไปด้วย ‘วิธี’ ที่เราจะเข้าถึงใจตัวเอง และมีความสุขได้มากกว่าเดิม ผ่านเรื่องราว 8 เส้นทาง ซึ่งอาจจะเหมาะกับแต่ละคนต่างๆ กันไป
ความน่าสนใจก็คือ หนังสือไม่ได้ชวนแสวงหาความสุขที่จะอยู่แป๊บๆ แล้วจางหาย แต่ให้เราฝึกฝนเครื่องมือที่หลากหลายที่จะเข้าไปถึงตัวเองได้ และมีความสุขได้ท่ามกลางความไหลไปของชีวิต คุณอาจพบตัวเองในธรรมชาติ ในเสียงดนตรี ในการทำงาน หรือในการดูแลใครบางคน
ให้เรามองเห็นตัวเองได้ชัดขึ้น ช้าลง ใคร่ครวญ และมีโอกาสมอบความรักให้กับตัวเองอย่างเป็นรูปธรรม
ใครลองทำแล้ว อาจได้นิยามความรักที่น่าสนใจเพิ่มเติม
2
“ฉันสนับสนุนให้คุณกระทำเต็มกำลังโดยไม่ละสายตาจากเป้าหมาย ไม่ว่าเรื่องใด หากคุณทำ ไม่ว่าผลตอบแทนจะเล็กน้อยจ้อยร่อยหรือยิ่งใหญ่มหาศาล ได้โปรดรับรู้ว่า นั่นคือสิ่งที่คุณสมควรได้รับ”
ค่อยๆ ไป แต่ไม่หยุด – อุรุดา โควินท์
รวมงานเขียนที่เป็นลูกผสมของบทความและเรื่องสั้น ถึงบรรดาผู้คนที่ไม่เคยหยุด โดยนักเขียนที่รักในการวิ่ง การเขียน และความงาม
ค่อยๆ ไปแต่ไม่หยุด ไม่ใช่การไล่ตามเป้าหมายอย่างบ้าคลั่งจนทุกคนยอมศิโรราบ แต่เป็นการรู้ว่าเรากำลังจะไปไหน เพื่ออะไร และอย่างไร
แม้เรื่องจะเล่าถึงจิตวิญญาณอันมุ่งมั่นของผู้คนหลากหลาย แต่อุรุดาทำให้เราเห็นว่า คนที่เราเป็น วิธีการที่เราใช้ และสายตาที่เรามองย้อนกลับมาที่ตัวเองได้เต็มตานั้นสำคัญกว่าเป้าหมายมาก
ถ้าเราคุยกับตัวเองมากพอ อยู่บนย่างก้าวในจังหวะของเรา ความรัก เคารพ และภาคภูมิในตัวเองนั้น มีพร้อมอยู่แล้วในเราทุกคน
3
“อย่าอายที่จะเป็นคนที่มีความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม จงรู้สึกมันอย่างลึกซึ้ง และด้วยใจที่อ่อนโยน”
ผมเรียกเขาว่าเน็กไท – Milena Michiko Flašar
นิยายเล่มเล็กเล่าถึงชายหนุ่มผู้ขังตัวเองอยู่ในห้อง และชายสูงวัยที่ไม่สามารถเผชิญความจริง
ทั้งคู่ไม่สามารถรักใคร รวมทั้งตัวเอง โอฮาระผูกตัวตนไว้กับงาน และการเป็นสามีที่ดี ทากุชิผูกไว้กับความกล้าหาญ และความสมบูรณ์แบบ เมื่อไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง พวกเขาคิดว่าตัวเองสูญเสียทุกอย่าง ความผิดพลาดนี้เป็นของผู้คนรอบข้าง และนั่นยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกแย่กับตัวเอง และไม่คิดว่าตัวเองสามารถเป็นได้แม้เพียงเป็น โอฮาระ หรือเป็นทากุชิ
หลายครั้ง การรักตัวเองก็ไม่ง่าย แต่การเล่าสู่ แลกเปลี่ยน และรับฟังเรื่องของกันและกันตลอดเล่มของทั้งคู่ ทำให้ความกลัวนั้นค่อยๆ คลี่คลาย และบอกข้อความสำคัญกับเรา
“จงรู้สึกมันอย่างลึกซึ้งขึ้นไปอีก ด้วยใจที่อ่อนโยนมากขึ้นไปอีก รู้สึกมันเพื่อตัวเธอเอง รู้สึกมันเพื่อคนอื่น แล้วจากนั้น จงปล่อยมันไป”
4
“เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็นรอยแผลนั้นมาเนิ่นนาน ยังคงหลอกตัวเองอยู่เสมอ”
ผู้พิทักษ์ต้นการบูร – ฮิงาชิโนะ เคโงะ
นิยายจากผู้เขียนปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ และหนังสือสืบสวนระดับรางวัลอีกหลายสิบเล่ม
เล่มนี้เล่าถึง เรโตะ เด็กหนุ่มกำพร้าที่มีชีวิตล่องลอย จนกระทั่งได้รับความช่วยเหลืออย่างปริศนาจากญาติที่ไม่รู้จัก เขาจะต้องไปเฝ้าต้นการบูรที่มีคนจองคิวมาอธิษฐานกันอย่างลึกลับ
ระหว่างไขปริศนา เรโตะไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตที่มีค่าและมีความหมายอะไร จนกระทั่งความผูกพันก่อตัว ภารกิจสำคัญเริ่มขึ้น เขาค่อยๆ มองตัวเองและโลกใบนี้เปลี่ยนไป
หนังสือเล่าถึงการสืบทอด การสร้างสายสัมพันธ์ การทำความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ในการเชื่อมโยงเหล่านั้น เราจะเห็นว่าความสุขของเรายึดโยงกับคนอื่นเยอะมาก โยงจนกว่าเราพบจุดยืนที่เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้จริงๆ
เป็นหนังสืออ่านสนุก ที่ทำให้เห็นความรักตัวเองถูกค้นพบอีกครั้งเมื่อเราเห็นคุณค่าของชีวิต ได้รักใครสักคน ได้ดูแล รับฟัง อยู่ร่วม รู้สึกถึงความทุกข์ สุข ของคนอื่นๆ นอกจากตัวเราเอง
5
“โดนปั่นหัวจากสิ่งที่คนเรากำหนดขึ้นเอาเองเนี่ย เหนื่อยนะ”
เจ้าอู๊ดชิตตะกะทำเป็นรู้กับบุตตะ 2 – โยชิฮิโระ โคอิซุมิ
จริงๆ เราต้องรักตัวเองรึเปล่า? ทำไมตัวเราสำคัญขนาดนั้น? การรักทำให้ทุกข์รึเปล่านะ? แล้วการรักตัวเองจะต่างไปยังไง?
หนึ่งในหนังสือเซต 7 เล่มที่เป็นการ์ตูนที่ได้รางวัลบุงเกชุนจูมังงะ เรื่องเล่าเป็นการ์ตูนช่อง ตอนละ 1-2 หน้า ที่เล่าแบบสนุกๆ บางตอนก็ตลก แต่เรื่องที่ชวนเราคุยหลายเรื่องก็ทำให้เราต้องหยุดคิดหลายนาที หรือหลายวัน
เป็นหนังสือที่ช่วยขยายขอบเขตของคำว่า ‘ตัวตน’ และพาเรามองโลกที่เชื่อมโยงอยู่กับเรา รวมถึงว่า ทำไมเราถึงทุกข์และสุขกับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามามากนัก เรากำลังกังวลถูกเรื่องรึเปล่า
เมื่อเข้าใจว่าตัวตนคืออะไร ขั้นถัดไปถึงจะรู้ว่า แล้วจะรักยังไง
6
“เราทุกคนอาจแตกสลายได้เช่นเดียวกันหากสถานการณ์เหล่านั้นเลือกทดสอบเรา”
ความจิตใจดี – The School of life
หนังสือที่พาเราไปรู้จักกับความจิตใจดีแบบเพลินๆสบายๆ เป็นความจิตใจดีที่ประกอบด้วยความมั่นใจในตัวเอง การเป็นคนอบอุ่น การจีบ การโกหก และอื่นๆ อีกหลายองค์ประกอบ
ความจิตใจดีนั้นมีหลายนิยาม ในบางบริบท ความจิตใจดีอาจเป็นความโง่เขลาขี้แพ้ หรือเป็นคุณสมบัติของคนที่ไม่เป็นผู้ใหญ่ เช่นเดียวกับ ‘ความรักตัวเอง’ ที่อาจถูกแปลว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ บางคนไม่อยากให้คนอื่นบอกว่าตัวเองเป็นคนจิตใจดี ไม่กล้ารักตัวเอง และไม่กล้ารักใคร ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญของการที่เราจะอยู่ร่วมกัน
แปลกมากทีเดียว
อีกสิ่งที่น่าสนใจระหว่างที่อ่าน เราจะได้เห็นว่าในโลกที่มีนิยามอันจำกัดต่อสิ่งต่างๆ เช่น ความสำเร็จคืออะไร ความดีคืออะไร ความรัก หรือความเห็นแก่ตัวมีหน้าตาแบบไหน
อย่าปล่อยให้นิยามเหล่านั้นหลอกเรา
7
“เธอไม่ใช่เสียงในหัวของเธอ แต่ตัวเธอจริงๆ คือคนที่กำลังฟังเสียงนั้น”
เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ – ดร.เจมส์ อาร์. โดตี
หนังสือโดยศัลยแพทย์สมองที่เชื่อว่า คนเราเปลี่ยนได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ระบบสมอง วิธีคิด ไปจนถึงชะตาชีวิต ถ้าเราจะทำ รู้วิธีทำ และฝึกฝนมัน ซึ่งวิธีที่หนังสือเล่มนี้เสนอ ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยค่ะ มันคือ การภาวนา (Meditation) หรือการฝึกให้ตัวเองรู้จักหยุด อยู่กับชั่วขณะปัจจุบัน และวาง
ทำไมเรื่องนี้ถึงเกี่ยวกับการรักตัวเองได้
เรื่องนี้คล้ายบันทึกประสบการณ์ที่เล่าสลับระหว่างตอนผู้เขียนยังเป็นเด็ก แล้ววิ่งไปเจอ ‘รูธ’ ผู้หญิงแปลกหน้าในร้านอุปกรณ์มายากล รูธสอนกลให้เขา ซึ่งกลที่ว่า ก็คือการภาวนาในรูปแบบที่ค่อยเป็นค่อยไป และชวนให้เขาฝึกฝนมันอย่างเป็นปกติในชีวิตประจำวัน สลับกับกลนี้ คือเรื่องเล่าของระบบประสาท การเป็นศัลยแพทย์ ชีวิตวัยเด็กในครอบครัวที่มีทั้งความเศร้าและความรุนแรง
เมื่อเขาหยุดชั่วขณะไว้ด้วยกลได้ เขาจะเริ่มมองเห็นทุกอย่างที่กำลังเคลื่อนไหว ความทุกข์ที่เชื่อว่ามีแน่จะถูกวาง ความกลัว ความโกรธ จะถูกมองเห็น สัมพันธ์กันไปทั้งสมอง กาย และใจ และสร้างชีวิตขึ้นใหม่จากความจริงตรงหน้า
เด็กน้อยในเรื่องต้องไปเจอรูธเพื่อฝึกทุกวันอยู่เกือบ 2 เดือน และถูกขอให้ฝึกอย่างต่อเนื่องที่บ้าน
ผู้เขียนบอกกับเราว่า เราทุกคนล้วนมีร้านเวทมนตร์อยู่ในใจ มันแค่ต้องถูกฝึก…ความรักก็เช่นกัน
8
“เราไม่ควรหลอกลวงว่าเราเป็นใครและเป็นอะไร ไม่ว่ากับตัวเองหรือผู้อื่น”
พลังแห่งการเพิ่มความนับถือตัวเอง – Nathaniel Branden
ผู้เขียนอธิบายให้เห็นได้อย่างลึกซึ้งและซับซ้อน ว่าเวลาเราพูดคุยกับตัวเองในประเด็นต่างๆ ประกอบร่างความเป็นเราขึ้นมานั้น ส่งผลให้เกิดอะไรขึ้นได้บ้าง พร้อมๆ กันก็คลี่ให้เห็นว่า เราจะคุยกับตัวเองอย่างตรงไปตรงมา กล้าหาญ และเต็มไปด้วยความรักได้อย่างไร
หนังสือเล่า 2 เรื่องไปคู่กัน คือกรณีศึกษาของผู้คนที่เข้ารับการเยียวยาปรึกษาและแบบฝึกหัดที่ชวนให้เราลองคุยกับตัวเองดู ซึ่งยากที่สุดก็คือ แบบฝึกหัดเหล่านั้น อาจชวนเราเผชิญกับความเป็นเราที่เราไม่ชอบ ไม่อยากเป็น ไม่อยากรับผิดชอบ และไม่อยากยอมรับ
ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ในอดีตที่เลวร้าย ความสำเร็จที่คุณรู้สึกว่าคุณไม่สมควรได้รับ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่คุณกลัวจะทำมันพัง และอื่นๆ อีกหลายประเด็น
เปิดให้เราได้มองตัวเองให้ชัด วางใจ และเข้าใจ
จากนั้น เมื่อเรานับถือตัวเองได้ เราก็นับถือคนอื่นได้ และมีปฏิสัมพันธ์ต่อตัวเองและผู้คนอย่างมีคุณภาพและเปี่ยมเต็มได้
ให้เราใช้ชีวิตอย่างมีพลังและกล้าหาญ
กล้าที่จะรัก และมีความสามารถที่จะรัก