- ไม่มีใครทำถูกไปทุกเรื่อง คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็เช่นกัน
- แต่เมื่อถีงวันแย่ๆ เช่น รถติด ลูกสอบตก ผิดสัญญากับลูก เผลอเสียงดังหรือกระทั่งระเบิดความโกรธใส่ลูก… ก็คนเป็นพ่อเป็นแม่นี่แหละที่กลับไปโบยตีตัวเองทุกครั้งเพราะความเป็น ‘มนุษย์’ ของตัวเอง
- รู้จักที่จะเห็นอกเห็นใจตัวเองบ้าง – ไม่เพียงดีต่อพ่อแม่ แต่จิตใจของลูกๆ จะแข็งแกร่งและอบอุ่น
“ต่อให้ทำดีแค่ไหน ฉันก็เป็นพ่อแม่ที่แย่สุดๆ อยู่ดี” – ครั้งสุดท้ายที่โบยตีตัวเองด้วยความรู้สึกล้มเหลวแบบนี้คือเมื่อไหร่
อาจเป็นตอนคุณเจอวันแย่ๆ ที่ทำงาน รถติด ลูกสอบตก ผิดสัญญากับลูก เผลอเสียงดังหรือกระทั่งระเบิดความโกรธใส่ลูก แล้วแอบไปโมโหร้องไห้เกรี้ยวกราดใส่ตัวเองซ้ำๆ
บ่อยครั้งที่เราต่างพยายามเป็นพ่อแม่สุดเพอร์เฟ็คต์ให้ลูกเห็น แต่ท้ายสุดแล้ว ตัวอย่างที่ ‘จริง’ ที่สุดต่างหากคือสิ่งที่เราจะมอบให้ลูกได้ และอาการเครียดจัดไม่เคยช่วยให้ใครหรืออะไรดีขึ้น
เด็กๆ จับอารมณ์ได้
“เด็กๆ จะอ่อนไหวเป็นพิเศษกับอารมณ์ของพ่อแม่” สเตฟานี สมิธ (Stephanie Smith) นักจิตวิทยาคลินิก กล่าว “ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ไม่ควรแสดงอารมณ์ออกมา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือวิธีจัดการอารมณ์ตัวเองให้เด็กๆ เห็น”
ความเครียดที่ไม่ได้รับการผ่อนคลายจะส่งผลต่อวิธีปฏิสัมพันธ์กับเด็กๆ และความรู้สึกของพวกเขา ทั้งยังสร้างนิสัยไม่ดีในครอบครัวได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารฟาสต์ฟู้ด เพราะคุณหมดเรี่ยวแรงจะลุกขึ้นทำอาหาร
ทีมนักวิจัยพบว่า เด็กที่พ่อแม่รู้สึกเครียดจะกินอาหารฟาสต์ฟู้ดบ่อย ออกกำลังกายน้อยลง และมีโอกาสอ้วนมากขึ้น
สถานการณ์จะดีขึ้นทันทีเมื่อคุณพยายามสงบจิตใจตัวเองลง เด็กๆ เองก็จะเรียนรู้วิธีรับมือความเครียดด้วยการเฝ้าดูพ่อแม่ หากคุณคลายเครียดด้วยการใช้อาหาร จอทีวี หรือพฤติกรรมไม่ดีต่างๆ คุณกำลังสื่อสารกับลูกว่านี่คือวิธีผ่อนคลายที่ดีที่สุด และเขาก็จะเลียนแบบคุณทันที
ยิ่งเห็นใจตัวเอง ยิ่งเลี้ยงลูกดีขึ้น
คริสติน เนฟฟ์ (Kristin Neff) ศาสตราจารย์ด้านวัฒนธรรมและการพัฒนามนุษย์จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ผู้หยิบเรื่อง การเมตตาตนเอง (Self-Compassion) ขึ้นมาพูดเป็นครั้งแรก บอกว่า
“ความเห็นอกเห็นใจตนเองจะมอบดินแดนแสนสงบ เป็นที่หลบภัยจากทะเลที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของการตัดสินใจไม่ว่าจะในแง่บวกหรือลบก็ตาม”
ผลการศึกษาหนึ่งพบว่า ในกลุ่มวัยรุ่นที่มีปัญหาด้านพัฒนาการ พ่อแม่ที่มีความเห็นใจตัวเองจะมีแนวโน้มระดับความเครียดและอาการซึมเศร้าต่ำกว่ากลุ่มที่พ่อแม่เข้มงวดและลงโทษตัวเองเสมอ ผลการศึกษาพ่อแม่ของเด็กที่มีภาวะออทิสติกในปี 2015 ระบุว่า ความเห็นใจตนเองเชื่อมโยงกับความพึงพอใจ ความหวัง และการเอาชนะเป้าหมายในชีวิตได้อีกครั้ง ส่วนผลการศึกษาอีกชิ้นพบว่า การเห็นอกเห็นใจตัวเองสามารถเป็นโล่ป้องกันตัวเองจากความรู้สึกแง่ลบของคนอื่นต่อการเลี้ยงดูเด็กๆ ที่มีภาวะออทิสติก
ผลการศึกษาใหม่จาก เอมี มิทเชลล์ (Amy E. Mitchell) เกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจตัวเองของแม่และผลต่อทารก พบว่า แม่ที่คุ้นเคยกับความคิดว่าตนไม่ได้โดดเดี่ยวและมีน้ำใจให้ตัวเองอยู่เสมอ จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวเองมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับแม่ที่ไม่เคยได้ลองทำ และพวกเธอต่างรู้สึกเครียดน้อยลง มีความสุขกับการให้นมลูกมากกว่าด้วย
5 วิธีใจดีกับตัวเองได้ทุกวัน
ผลการศึกษาหลายชิ้นเห็นตรงกันว่า การเมตตาตัวเองเป็นขุมพลังป้องกันแรงกระแทกจากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายนอกและภายใน โดยทำได้ภายใน 3 ขั้นตอน คือ ชื่นชมตัวเองให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ฝึกส่งความปรารถนาดีให้คนรอบข้าง และนึกภาพคนสำคัญของคุณเมื่อต้องการแรงหนุน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ หรือแม้แต่เพื่อนรักของคุณเอง
นอกจากนี้ เรายังมีอีก 5 วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ทั้งวัน ลองดูนะ
• พักยืดเส้นยืดสาย เผลอๆ ลูกคุณอาจร่วมวงแล้วค้นท่ายืดตัวแบบใหม่ให้คุณลองด้วยก็ได้
• ทาโลชั่น พูดขอบคุณร่างกายในระหว่างทา ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้กับการดูแลตัวเองได้ทุกแบบแม้กระทั่งการแปรงฟัน อาศัยจังหวะนี้บอกลูกด้วยก็ได้ว่าคุณกำลังใจดีกับร่างกายด้วยการดูแลมันอย่างดี
• ดื่มน้ำสะอาด ร่างกายที่ตึงเครียดต้องการน้ำไปปลอบประโลม – อันนี้คุณก็รู้อยู่แล้วนี่นา
• แหงนหน้ามองฟ้า แล้วหายใจลึกๆ เด็กๆ จะรับรู้ว่าธรรมชาติช่วยทำให้คุณรู้สึกสงบลง
• เขียนไดอารีหรือวาดรูปเล่น วิธีนี้คุณยังชวนลูกๆ มาเขียนหรือวาดอยู่ข้างกันได้ด้วย
อย่าลืมว่า เด็กๆ กำลังเฝ้ามองคุณอยู่ ไม่ใช่เรื่องแย่หากจะบอกให้ลูกรู้ว่าคุณต้องการเวลาอยู่คนเดียวเพื่ออ่านหนังสือหรือออกไปวิ่งเพื่อผ่อนคลายตัวเอง
“เพราะนั่นคือการแสดงให้ลูกเห็นว่า ทุกคนต่างต้องพบเจอเรื่องเลวร้ายและมันก็จะดีขึ้น” เจมี โฮวาร์ด นักจิตวิทยาคลินิก จากสถาบัน Child Mind Institute บอก