Skip to content
ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)
  • Creative Learning
    Creative learningLife Long LearningUnique SchoolEveryone can be an EducatorUnique Teacher
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Character building21st Century skillsEducation trendLearning TheoryGrowth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learning
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    BookMovieSpace
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)
Transformative learningEducation trend
5 October 2022

เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ: 1.ปณิธานสู่ระบบการศึกษาแห่งศตวรรษที่ 21 ของไทย

เรื่อง ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ ‘เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ’ ตอนที่ ๑. ปณิธานสู่ระบบการศึกษาแห่งศตวรรษที่ ๒๑ ของไทย  โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์วิจารณ์ พานิช
  • ครูคือพลังสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ระบบการศึกษาเป็นระบบที่เรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
  • ระบบนิเวศ หรือสภาพแวดล้อม ในการทำงานของครู มีส่วนสำคัญในการหล่อหลอมความเป็นตัวของตัวเองของครู
  • ปฏิบัติการในฐานะการเป็นผู้ริเริ่มดำเนินการของครู ไม่ได้ขึ้นกับตัวครูที่เป็นปัจเจกบุคคลเท่านั้น ยังขึ้นกับปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างครูด้วยกัน และระหว่างครูกับสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ในระบบการศึกษา และในสังคมวงกว้างด้วย

บันทึกชุด เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ นี้  ตีความจากหนังสือ Teacher Agency : An Ecological Approach (2015) ที่เขียนโดยศาสตราจารย์ ๓ ท่าน คือ Mark Priestley, Gert Biesta, และ Sarah Robinson โดยสองท่านแรกทำงานในมหาวิทยาลัยสเตอร์ลิง ในสก็อตแลนด์ ท่านที่สามอยู่ที่ Aarhus University เดนมาร์ก เป็นหนังสือที่ผู้อ่านประเมินระดับคุณภาพ ๕ ดาว และเขียนจากผลงานวิจัย Teacher Agency and Curriculum Change Project (2011 – 2012) ที่ดำเนินการโดยทีมงานของ University of Stirling, Scotland ร่วมกับ Scottish Local Authority ได้รับทุนวิจัยจาก UK Economic and Social Research Council เพื่อหนุนการดำเนินการหลักสูตรการศึกษาใหม่ ที่เรียกว่า “Curriculum for Excellence” ของ สก็อตแลนด์     

ผมอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ปิ๊งว่าเป็นความรู้ที่เหมาะแก่ยุคสมัยของการพัฒนาระบบการศึกษาไทยในปัจจุบันอย่างยิ่ง จึงเขียนบันทึกชุดนี้โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อหนุนการประยุกต์ใช้ หลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้    

หนังสือ Teacher Agency บอกชัดเจนว่า ในอดีตประมาณยี่สิบปีที่ผ่านมา ระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักร รวมทั้งของสก็อตแลนด์ เดินผิดทาง    ในเรื่องท่าทีหรือความคาดหวังต่อครู หรือบทบาทของครู  มีผลให้คุณภาพการศึกษาถูกลดทอน     เพราะไปหลงใช้ระบบการจัดการระบบการศึกษาตามแนวทางของระบบธุรกิจแนว neo-liberal ที่บูชาผลงาน (performance) ที่เขาเรียกว่า performativity  ที่นำไปสู่วิธีการจัดการที่เน้นพลังของการจัดการผลงาน ผ่านการประเมินผลลัพธ์    เหนือการจัดการเพื่อใช้พลังของมิติความเป็นมนุษย์ของครู ที่เวลานี้พบว่าเป็นแนวทางที่ผิด คือมีผลลดทอนคุณภาพของการศึกษา และลดทอนคุณภาพครู ผ่านการลดทอนความมั่นใจในตัวเองและความเป็นตัวของตัวเองของครู    

หลักสูตรใหม่ของ สก็อตแลนด์  ที่เรียกว่า “Curriculum for Excellence” ระบุชัดเจนว่า มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง  โดยมองว่าโรงเรียนและครูเป็นผู้ร่วมสร้าง (co-creator) หลักสูตร โปรดสังเกตว่า หลักสูตรใหม่ของเขาเปลี่ยนมุมมองต่อครูและโรงเรียน จากผู้ปฏิบัติตามหลักสูตร (curriculum implementer) มาเป็น ผู้ร่วมสร้างหลักสูตร (curriculum co-creator) และเขามองว่าการสร้างหลักสูตรเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ต้องพัฒนาเรื่อยไปไม่รู้จบ และบุคคลสำคัญที่สุดในการร่วมกันสร้างหลักสูตรอย่างต่อเนื่องนี้ คือครู   

ผมขอเพิ่มเติมว่า ครูคือพลังสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ระบบการศึกษาเป็นระบบที่เรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และระบบการบริหารการศึกษาไทยตามแนวทางปัจจุบัน ก็เดินตามแนวทาง performativity เหมือนของสหราชอาณาจักร ที่เขากำลังพยายามเปลี่ยน แนวทางที่ไทยเรากำลังใช้อยู่นี้ มีผลทำให้ระบบการศึกษาเป็นระบบที่ไม่เรียนรู้ หรือมีระดับการเรียนรู้ต่ำ และทำลายหรือลดทอนศักยภาพการเป็นตัวของตัวเอง และพลังความสร้างสรรค์ของครู รวมทั้งมีผลลดทอนศักดิ์ศรีครู

อธิบายจากการตีความในมิติที่ลึกยิ่งขึ้นได้ว่า การบริหารระบบการศึกษาแบบเน้นผลงาน (performativity) ตกขอบ มีผลสร้าง fixed mindset ให้แก่ครูและบุคลากรการศึกษา ชักนำให้ผู้ปฏิบัติงานมุ่งผลงานระยะสั้นที่หน่วยเหนือกำหนดอย่างตายตัว ไม่เอาใจใส่มิติเชิงอนาคต ที่เน้นการพัฒนา ไม่สนใจทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งขับเคลื่อนด้วย growth mindset สรุปได้ว่า การบริหารระบบการศึกษาแบบเน้นผลงาน (performativity) ตกขอบ อย่างที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน หล่อหลอมให้ครูและบุคลากรการศึกษาสมาทาน fixed mindset       

ภายใต้ความเชื่อใหม่ ว่าครูต้องทำหน้าที่เชิงสร้างสรรค์ นี้ ต้องหาทางฟื้นความมั่นใจในตัวเองของครู ให้ครูเป็นผู้ก่อการ หรือผู้กระทำการ ที่เขาเรียกว่า agency ครูที่มีพฤติกรรมริเริ่มดำเนินการในหน้าที่ของตนเรียกว่า agentic teacher จึงเกิดโครงการวิจัยเพื่อทำความเข้าใจว่า ความเป็นตัวของตัวเองของครู (teacher agency) มาจากไหน มีทางหนุนหรือเอื้อให้เกิดและยกระดับหรือพัฒนาขึ้นได้อย่างไร  หรือมองมุมกลับ ปัจจัยอะไรที่ดับหรือลดทอนความเป็นตัวของตัวเองของครู จากผลงานวิจัย นำสู่การเขียนหนังสือ Teacher Agency : An Ecological Approach ที่ชี้ให้เห็นมิติที่ลึกของการหนุนให้เกิดพลังครู เพื่อเป็นผู้ร่วมสร้างหลักสูตร  และร่วมสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพสูง   

ข้อค้นพบสำคัญยิ่งคือชื่อรองของหนังสือ “An Ecological Approach”  ซึ่งหมายความว่า ระบบนิเวศ หรือสภาพแวดล้อม ในการทำงานของครู มีส่วนสำคัญในการหล่อหลอมความเป็นตัวของตัวเองของครู แนวความคิดหรือกระบวนทัศน์ performativity ที่วงการศึกษารับถ่ายทอดมาจากวงการธุรกิจ  เป็นตัวการที่สร้างบรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานของครู  ที่ปิดกั้นความเป็นตัวของตัวเอง มีผลลดทอนความริเริ่มสร้างสรรค์ นำไปสู่พฤติกรรมการทำงานตามวิธีการที่มีการกำหนดตายตัว เพื่อให้สอดคล้องกับกลไกการประเมินผลลัพธ์ที่กำหนดโดยหน่วยเหนืออย่างตายตัว มีผลต่อเนื่องให้ครูปฏิบัติตามข้อกำหนดโดยไม่คิด

นานๆ เข้าครูก็เคยชินกับการทำงานตามแบบแผนที่หน่วยเหนือกำหนดให้  เกิดวัฒนธรรมการทำงานตามรูปแบบตายตัว ไม่มีความคิดริเริ่มที่จะใช้การเรียนรู้จากการทำงานเพื่อพัฒนางานของตน เป็นวัฒนธรรมการทำงานตามสูตรสำเร็จ  เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติตามสูตรสำเร็จนั้น ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงานสร้างสรรค์ ที่ออกนอกกรอบ    

เท่ากับลัทธิบริหารการศึกษาแบบ performativity เป็นตัวลดทอนความเป็นตัวของตัวเองและความสร้างสรรค์ของครู  ที่หลักสูตรใหม่ คือ “Curriculum for Excellence” ต้องการแก้ไข  เพื่อใช้พลังครูในการสร้างผลสำเร็จตามหลักสูตรใหม่นี้  และงานวิจัย Teacher Agency and Curriculum Change Project (2011 – 2012) รวมทั้งหนังสือเล่มนี้ มุ่งให้ความเข้าใจเชิงลึก ถึงที่มาที่ไปของความเป็นตัวของตัวเอง หรือการเป็นผู้ก่อการของครู  สำหรับนำความเข้าใจนี้ มาใช้เปลี่ยนแนวทางการจัดการระบบการศึกษาของประเทศ      

ย้ำว่า ข้อค้นพบคือ ความเป็นตัวของตัวเอง หรือความเป็นผู้ก่อการของครูนั้น ไม่ใช่ขึ้นกับสมรรถนะหรือขีดความสามารถของครูล้วนๆ  แต่เป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมรรถนะของตัวครูกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน ที่มีผล ๓ ชั้นต่อความเป็นผู้ลงมือก่อการของครู คือ  (๑) การสั่งสมประสบการณ์และการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานที่ผ่านมาของครู  (๒) การตัดสินใจลงมือปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติของครู ณ จุดของการดำเนินการ และ (๓) การมองหรือคาดการณ์ไปในอนาคตของครู    

กล่าวใหม่ว่า ปฏิบัติการในฐานะการเป็นผู้ริเริ่มดำเนินการของครู ไม่ได้ขึ้นกับตัวครูที่เป็นปัจเจกบุคคลเท่านั้น ยังขึ้นกับปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างครูด้วยกัน และระหว่างครูกับสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ในระบบการศึกษา และในสังคมวงกว้างด้วย      

กล่าวย้ำอีกที ว่าพฤติกรรมของครูที่มุ่งหวัง ไม่ได้เกิดขึ้นในสภาพตรงไปตรงมา ไม่ได้เป็นสมการชั้นเดียว แต่เป็นสภาพที่ซับซ้อน มีหลายเหตุปัจจัยมาประกอบกัน พฤติกรรมของครู ขึ้นกับบริบทที่ซับซ้อนและจำเพาะสำหรับแต่ละกรณี  หนังสือ Teacher Agency : An Ecological Approach มุ่งคลี่ภาพความซับซ้อนนั้นออกมาเสนอให้เข้าใจง่าย และผมตีความนำมาเสนอใน บล็อก ชุด เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ นี้  เพื่อเสนอต่อวงการศึกษาไทย ว่าน่าจะมีแนวทางส่งเสริมให้ครูไทยมีพลัง และใช้พลังนั้นในการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาไทย ผ่านหลักสูตรฐานสมรรถนะได้อย่างไร    

เป้าหมายสำคัญอีกประการหนึ่งคือ เพื่อเป็นแนวร่วมในการยกระดับศักดิ์ศรีวิชาชีพครู  ผ่านการส่งเสริมให้ครูร่วมกันทำงานในมิติของการริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นผู้ร่วมสร้างมิติใหม่ๆ ให้แก่ระบบการศึกษาไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านหลักสูตรฐานสมรรถนะ

ผมหวังให้บันทึกชุด เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ นี้ มีส่วนยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยในภาพรวม ผ่านแนวความคิดหรือกระบวนทัศน์ว่า คนในวงการศึกษา  องคาพยพของระบบการศึกษา และกลไกต่างๆ ในระบบการศึกษา ต้องเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดยั้ง (growth mindset)  ผ่านปฏิสัมพันธ์ภายในระบบ (การศึกษา) และปฏิสัมพันธ์กับระบบอื่นๆ หรือเหตุปัจจัยภายนอก

Tags:

หนังสือเอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการTeacher AgencyTeacher Agency : An Ecological ApproachAgentic Teacherครูผู้ก่อการครูผู้กระทำการPriestleyครูหนังสือ-วิจารณ์

Author:

illustrator

ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช

รองประธานกรรมการมูลนิธิสยามกัมมาจล ผู้อำนวยการคนแรกของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) และได้ดำรงตำแหน่ง 2 สมัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม(สคส.) ดำรงตำแหน่งกรรมการของหน่วยงานและมูลนิธิหลายแห่ง

Illustrator:

illustrator

ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

นักวาดภาพที่ใช้ชื่อเล่นว่า ววววิน facebook, ig : wawawawin

Related Posts

  • Transformative learning
    เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ: 9. เกื้อกูลความเป็นผู้ก่อการของครู

    เรื่อง ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Transformative learning
    เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ: 8. การหล่อหลอมความเป็นผู้ก่อการ โดยดำเนินการที่ปัจเจกบุคคล วัฒนธรรม และโครงสร้าง

    เรื่อง ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Transformative learningEducation trend
    เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ: 5. คลังคำและวาทกรรมของครู

    เรื่อง ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Transformative learningEducation trend
    เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ: 4. ความเชื่อและปณิธานความมุ่งมั่นของครู

    เรื่อง ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Transformative learningEducation trend
    เอื้อระบบนิเวศ เพื่อครูเป็นผู้ก่อการ: 3. ความเป็นครูผู้ก่อการ กับการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร

    เรื่อง ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts
  • Creative Learning
  • Life
  • Family

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel