Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Character building
19 October 2021

Problem Solving : ชวนเด็กเรียนรู้ทักษะการแก้ปัญหาด้วยการตั้งคำถาม สร้างภูมิคุ้มกันต่ออุปสรรค

เรื่อง กัญญาณัฐ เลิศคอนสาร ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • ทักษะการแก้ไขปัญหา (Problem Solving Skill) เป็นภูมิคุ้มกันต่ออุปสรรค ผู้ใหญ่ต้องให้โอกาสเด็กคิด มีความอดทนรับฟัง และไม่คิดแทนเด็ก 
  • พ่อแม่หรือครูสามารถใช้เกมและกิจกรรมอื่นๆ กระตุ้นให้เด็กแก้ไขปัญหา ชวนคิด ‘ตั้งคำถาม’ กับตัวเอง แล้วสังเกตพฤติกรรมขณะพยายามคิดหาทางออก ในขณะเดียวกันพ่อแม่และครูเองก็ต้องส่งเสริมให้เด็กร่วมคิดแก้ไขปัญหากับเพื่อนในกลุ่มด้วย 
  • 4 คำถามกระตุ้นการคิดแก้ปัญหา สิ่งที่สำคัญคือเด็กต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่ออารมณ์ของตนเองและไม่กล่าวหาผู้อื่นว่าเป็นต้นเหตุ

ทักษะการแก้ไขปัญหา (Problem Solving Skill) เป็นภูมิคุ้มกันต่ออุปสรรค และเป็นหนึ่งในทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่ช่วยเตรียมความพร้อมเด็กให้สามารถใช้ชีวิตและรับมือกับความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสิ่งที่คาดไม่ถึงในโลกภายนอกได้ เด็กควรได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะด้านนี้ตั้งแต่ยังเล็กผ่านประสบการณ์ชีวิตในทุกๆ วัน 

มีหลักฐานการวิจัยพบว่าเด็กควรเรียนรู้ทักษะการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ช่วงก่อนวัยเรียน เนื่องจากเมื่อเด็กโตขึ้น พฤติกรรมของพวกเขาจะเปลี่ยนไปและควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ยากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เริ่มแสดงพฤติกรรมงอแงเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ หรือการแสดงความโกรธ 

ทั้งนี้ การวิจัยพบว่าเด็กที่ไม่เคยได้รับการติดตั้งทักษะการแก้ไขปัญหาเลยมักมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับเพื่อนและคนรอบข้าง นำมาสู่การถูกทอดทิ้งจนรู้สึกโดดเดี่ยว และมีแนวโน้มถูกชักจูงไปในทางที่ผิดถึงขนาดมีความเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมในอนาคตได้ 

ในทางกลับกันเด็กที่ใช้ทักษะการแก้ไขปัญหาได้ดี พวกเขาสามารถเผชิญหน้ากับอุปสรรค แก้ไขสถานการณ์บนพื้นฐานของความเป็นธรรมและไม่ทำร้ายผู้อื่น

คำถามกระตุ้นคิด

พ่อแม่หรือครูสามารถใช้เกมและกิจกรรมอื่นๆ กระตุ้นให้เด็กแก้ไขปัญหา ชวนพวกเขาคิด ‘ตั้งคำถาม’ กับตัวเอง แล้วสังเกตพฤติกรรมของพวกเขาขณะพยายามคิดหาทางออก ในขณะเดียวกันพ่อแม่และครูเองก็ต้องส่งเสริมให้เด็กร่วมคิดแก้ไขปัญหากับเพื่อนในกลุ่มด้วย 

4 คำถามกระตุ้นการคิดแก้ปัญหา เช่น

1. ปัญหาของฉันคืออะไร? ขั้นตอนแรกในขณะที่เด็กกำลังแก้ไขปัญหา ผู้ใหญ่ควรสังเกตอารมณ์ของเด็กและส่งเสริมให้เด็กใช้คำพูดเพื่อแสดงอารมณ์ออกมา อาจใช้การ์ดแสดงรูปภาพอารมณ์หรือคำศัพท์เพื่อสอนให้เด็กจำแนกอารมณ์ของตัวเอง สิ่งที่สำคัญในขั้นตอนนี้คือเด็กต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่ออารมณ์ของตนเองและไม่กล่าวหาผู้อื่นว่าเป็นต้นเหตุ 

คำตอบที่แสดงความเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง เช่น “ฉันรู้สึกเศร้า” 

คำตอบที่กล่าวหาผู้อื่นว่าเป็นสาเหตุ เช่น “เธอแย่งขนมของฉัน”

สำหรับการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน กิจกรรมส่งเสริมการแก้ไขปัญหาควรรวมอยู่ในบทเรียน ผู้สอนสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างสถานการณ์ให้เด็กคิด เช่น ผู้สอนอาจถือแอปเปิ้ลมาหนึ่งลูกในห้องเรียนและถามเด็กว่าจะแบ่งแอปเปิ้ลให้เด็กทุกคนกินได้อย่างไร?

คำตอบของนักเรียนไม่มีถูกผิด เพราะสิ่งที่ต้องการคือการพาเด็กเข้าสู่กระบวนการคิดก่อนการแสดงความคิดเห็นของเด็ก

2. หลังจากเกิดปัญหาแล้ว เด็กต้องถามตนเองว่า มีทางออกอะไรบ้าง? ช่วยให้เด็กคิดหาทางออกหลายๆ ทาง เพื่อเป็นแผนสำรอง อธิบายให้เด็กเข้าใจว่าทางออกหรือทางแก้ปัญหาไม่ได้มีแค่ทางเดียว จากสถานการณ์แอปเปิ้ล 1 ลูก เมื่อเด็กคิดหาทางออกได้บ้าง ผู้สอนกระตุ้นให้เด็กหาทางออกเพิ่มอีก เช่น “เราได้ทางออกสองข้อแล้ว มาช่วยกันคิดให้ได้สักห้านะ ดูซิ…ทำยังไงได้อีก” 

สังเกตต่อเนื่องว่ามีเด็กคนไหนไม่เข้าร่วมกิจกรรมบ้าง เพราะเด็กบางคนอาจเขินอายหรือไม่กล้าพูดคุยกับเพื่อน พ่อแม่และครูผู้สอนจึงมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเรียนรู้ให้เด็กทุกคนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียมกัน 

3.เมื่อเด็กคิดหาทางออกได้แล้ว ตั้งคำถามว่า ทางออกดังกล่าวจะส่งผลอะไรบ้าง? ขั้นตอนที่สามนี้สามารถถามเด็กตรงๆ ว่าถ้าแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้จะส่งผลกับผู้อื่นและตัวเด็กเองอย่างไร ก่อนจะนำมาสู่ขั้นตอนต่อไป

4.เมื่อเด็กเลือกทางออกที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว เด็กควรถูกส่งเสริมให้จำลองสถานการณ์ด้วยทางออกที่เขาคิดขึ้น ในห้องเรียนครูผู้สอนให้เด็กจับกลุ่มแสดงบทบาทสมมุติ เล่าเรื่องราวผ่านตุ๊กตาหรือหุ่นมือ นำเสนอปัญหา วิธีคิดและแนวทางแก้ปัญหา ขณะที่พ่อแม่สามารถสวมบทบาทเป็นผู้รับฟัง ให้ลูกได้จินตนาการเล่าถึงผลกระทบที่ลูกคิดว่าจะเกิดขึ้นหลังแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ แล้วเลือกทางออกที่ดีที่สุด

สิ่งที่สำคัญ คือ ผู้ใหญ่สามารถสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมเข้าไปในขั้นตอนนี้ได้ ส่งเสริมให้เด็กแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ไม่เลือกแสดงพฤติกรรมงอแงหรือใช้อารมณ์โกรธเป็นทางออก ยิ่งเด็กสามารถคิดหาทางออกได้หลายทาง เด็กยิ่งพัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหาที่สร้างสัมพันธ์กับผู้อื่นได้ดี

ทักษะการแก้ไขปัญหา ( Problem Solving Skill) เป็นภูมิคุ้มกันต่ออุปสรรค ผู้ใหญ่ต้องให้โอกาสเด็กคิด มีความอดทนรับฟัง และไม่คิดแทนเด็ก 

สำหรับผู้ปกครองการสร้างสถานการณ์จำลอง การเล่นเกม และทำกิจกรรมร่วมกัน ช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจความคิดและความรู้สึกของลูกมากขึ้น สำหรับในชั้นเรียนครูสามารถปรับการตั้งคำถามให้เข้ากับความต้องการและพื้นฐานของเด็กแต่ละคน  เช่น เด็กบางคนสมาธิสั้น เด็กบางคนมีปัญหาครอบครัว เด็กบางคนมีความไม่มั่นใจในตัวเองสูง ดังนั้น ครูต้องใช้การสังเกตและให้เวลากับเด็ก เพื่อสร้างบรรยากาศห้องเรียนที่ปลอดภัยให้พวกเขาได้ฝึกทักษะ ฝึกความแข็งแกร่ง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ 

อ้างอิง

Joseph, G. E., & Strain, P. S. (2010). Teaching young children interpersonal problem-solving skills. 

Young Exceptional Children, 13(3), 28–40. https://doi.org/10.1177/1096250610365144.

Tags:

การจัดการอารมณ์ทักษะการฝึกแก้ปัญหา (problem-solving)Problem Solving Skillการตั้งคำถาม

Author:

illustrator

กัญญาณัฐ เลิศคอนสาร

Illustrator:

illustrator

ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

นักวาดภาพที่ใช้ชื่อเล่นว่า ววววิน facebook, ig : wawawawin

Related Posts

  • Creative learning
    ‘สื่อสารเป็น’ วิชาที่เริ่มจากฟังเสียงตัวเอง เข้าใจสุขทุกข์ผู้อื่น ก่อนส่งต่อคำพูดและการกระทำที่ดี: ครูธีรยุทธ พงษ์ศิริยะกุล โรงเรียนปัญญาประทีป

    เรื่อง อภิบาล ว่องวงษ์รักษ์ ภาพ ปริสุทธิ์

  • Book
    ครบรอบ 20 ปี หนังสือ ‘ไชลด์เซ็นเตอร์ สำนวนซ้ำซากของการศึกษาไทย’ กับคำถามที่ว่า การศึกษายังคงเป็นเพียงเรื่องฉาบฉวย?

    เรื่อง อรรถพล ประภาสโนบล ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Relationship
    มองโลกในแง่ดีเกินไป (Toxic Positivity) : ในวันที่เราต่างมีช่วงเวลาแย่ แต่ต้องกดมันไว้ว่า ‘ไม่เป็นไร’

    เรื่อง ชัค ชัชพงศ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Myth/Life/Crisis
    เจ้าหญิงกับเม็ดถั่ว: คนอ่อนไหว จะหาสมดุลอย่างไรในโลกอันท่วมท้น

    เรื่อง ภัทรารัตน์ สุวรรณวัฒนา ภาพ กรองพร ทององอาจ

  • How to enjoy life
    สู้กับความกลัว: เปลี่ยนจากแพนิก อยู่กับตัวเอง เป็นแบ่งปัน เชื่อมโยงกับคนอื่น

    เรื่อง บุญชนก ธรรมวงศากิตติรัตน์ ปลื้มจิตร ภาพ ภาพพิมพ์ พิมมะรัตน์

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel