Skip to content
เทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิก
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
เทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิก
Character building
21 December 2020

สอนให้เด็กเห็นคุณค่าสิ่งที่มี ขอบคุณยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจะเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลก

เรื่อง บุญชนก ธรรมวงศา ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • เด็กที่ถูกปลูกฝังคุณลักษณะการขอบคุณและซาบซึ้งใจกับสิ่งที่มีและได้รับ (Gratitude) จะรู้สึกพอใจกับสิ่งที่ตนมี รักโรงเรียน ครอบครัว ชุมชนที่อยู่มากขึ้น มีความตระหนักถึงส่วนรวมมากกว่า รับผิดชอบและผลการเรียนดีกว่า ไปจนถึงสุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงกว่าเด็กกลุ่มที่ขาดคุณลักษณะนี้ ทั้งมีแนวโน้มจะเปิดรับและเห็นโอกาสสร้างความสุขให้กับตัวเองมากขึ้น
  • สภาวะซาบซึ้งใจ การมีนิสัยสำนึกรู้คุณสูง หรือกระทั่งการเอ่ยขอบคุณออกมาเป็นคำพูด สามารถเยียวยาบาดแผลทางใจที่เกิดจากอดีตอันเลวร้าย ลดอาการเครียดจากมลภาวะทางใจ ตลอดจนช่วยให้หลายคนโฟกัสไปยังเป้าหมายที่ตั้งใจได้มากขึ้น
  • สำหรับผู้ปกครองและครู บทความนี้แนะนำการสร้างสภาพแวดล้อมในการติดตั้งคุณลักษณะข้อนี้ และออกแบบชั้นเรียนที่สอนเรื่อง ‘การขอบคุณและเห็นคุณค่า’

หากมองให้ดีเราจะพบว่าชีวิตหยิบยื่นสิ่งล้ำค่ามากมายให้เรา ผ่านผู้คน โอกาส ประสบการณ์ น้ำใจและความช่วยเหลือที่ถูกหยิบยื่นเมื่อเราเผชิญกับอุปสรรคปัญหา บางทีสิ่งที่ทำให้เราเป็นสุขและซาบซึ้งใจอาจเป็นแค่ช่วงเวลาดีๆ ที่สมาชิกในครอบครัวพยายามจัดสรรให้ทุกคนเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา การดูแลเอาใจใส่และปฏิบัติกับเราอย่างคนสำคัญจากคนรัก เพื่อนฝูงที่คอยให้ความเข้าใจและรับฟังเสมอมา 

Gratitude – การขอบคุณและซาบซึ้งใจกับสิ่งที่มีและได้รับเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ความผาสุก ใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกนี้คือใจที่คำนึงถึงความดีงามของผู้อื่น มองเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนมีอยู่ และขอบคุณยินดีเมื่อได้รับ และความรู้สึกขอบคุณนี้นี่เองที่เป็นคุณลักษณะสำคัญช่วยยกระดับจิตใจผู้คนและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้น 

เด็กที่ถูกปลูกฝังคุณลักษณะข้อนี้จึงมีพื้นฐานทางจิตใจและอารมณ์อันอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจและพร้อมที่จะเติบโตไปในทิศทางที่ดีและมีความสุข

เพราะเรื่องราวดีๆ เริ่มต้นที่ความรู้สึกขอบคุณ

ในการศึกษาอิทธิพลของความรู้สึกขอบคุณที่มีต่อเด็กวัยยังไม่ถึง 5 ขวบ ตีพิมพ์ใน Journal of Happiness Studies ปี 2019 พบว่า ความรู้สึกขอบคุณของหนูน้อยวัยนี้เชื่อมโยงโดยตรงกับความสุข แม้แต่งานวิจัยซึ่งเขยิบมาโฟกัสเด็กช่วงอายุระหว่าง 11-19 ปี ก็ยังแสดงผลลัพธ์ด้านบวกว่า เด็กที่ถูกปลูกฝังคุณลักษณะนี้จะรู้สึกพอใจกับสิ่งที่ตนมี รักโรงเรียน ครอบครัว ชุมชนที่อยู่มากขึ้น มีความตระหนักถึงส่วนรวมมากกว่า มีความรับผิดชอบและผลการเรียนดีกว่า ไปจนถึงสุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงกว่าเด็กกลุ่มที่ขาดคุณลักษณะนี้

นอกจากนี้ ยังมีงานศึกษาเชิงจิตวิทยาว่าด้วย Gratitude มากมายที่ชี้ว่า สภาวะอารมณ์ซาบซึ้งใจ คนที่มีลักษณะนิสัยสำนึกรู้คุณสูงหรือกระทั่งการเอ่ยขอบคุณออกมาเป็นคำพูด สามารถเยียวยาบาดแผลทางใจที่เกิดจากอดีตอันเลวร้าย ลดอาการเครียดจากมลภาวะทางใจ ตลอดจนช่วยให้หลายคนโฟกัสไปยังเป้าหมายที่ตั้งใจได้มากขึ้น 

ทั้งนี้สาเหตุก็เป็นเพราะความรู้สึกขอบคุณ ซาบซึ้งในการเป็นผู้รับ ได้มองเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ เป็นพลังงานเดียวกันกับการมองบวก (Positivity) เมื่อสมองถูกกำหนดให้สแกนหาสิ่งที่เป็นเรื่องราวดีๆ บ่อยครั้งเข้า ผลพลอยได้ที่เกิดขึ้นก็คือ เราจะเปิดรับและเห็นโอกาสสร้างความสุขให้กับตัวเองมากขึ้น 

ซึ่งจากที่กล่าวมาคงจะเห็นแล้วว่า หากเราฝันอยากจะเห็นพวกเขาเติบโตไปเป็นบุคลากรที่มีสุขภาพจิตและอารมณ์ดี มีแนวโน้มที่จะเติบโตอยู่ร่วมกันในสังคมได้เป็นอย่างดีมีความสุข โรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกแห่งไม่ควรรอช้าในการจัดการเรียนรู้ที่สร้างเสริมคุณลักษณะนี้ให้เด็กควบคู่ไปกับการสอนเชิงวิชาการ และควรทำกันตั้งแต่เนิ่นๆ

ไคซา เวอริเนน (Kaisa Vuorinen) และ ลอตตา อูสซิทาโล (Lotta Uusitalo) สองอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญระบบการศึกษาจากประเทศฟินแลนด์ผู้เขียนคู่มือการจัดการเรียนรู้ Feel The Good: How to Guide Children and Adolescents to Find Their Strengths ซึ่งเน้นการเสริมสร้างคุณลักษณะสำคัญสำหรับการดำเนินชีวิตให้กับเด็กๆ ขยายความถึงบทบาทหน้าที่ของคุณครูในชั้นเรียนที่ไม่เพียงต้องสอนให้เด็กๆ รู้จักกาลเทศะเหมาะสมที่จะเอ่ย “ขอบคุณ” แต่จุดมุ่งหมายของการติดตั้งคุณลักษณะข้อนี้ยังกินพื้นที่ลึกซึ้งไปถึงการบ่มเพาะให้พวกเขา ..

  • เคารพรู้คุณต่อสิ่งที่เราได้รับจากการพยายามและเสียสละของผู้อื่น
  • มองเห็นและสัมผัสความสุขที่เกิดขึ้นรอบตัวหรือความงดงามที่ชีวิตหยิบยื่นให้
  • ตระหนักถึงคุณค่า มีหมุดหมายและใช้ชีวิตในทางดีงาม
  • ถักทอสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับคนสำคัญในชีวิต
  • ยินดีกับโอกาสที่ผ่านเข้ามา ส่งต่อพลังความรู้สึกขอบคุณเป็นบวกให้กับคนอื่น
  • จดจ่อยินดีกับสิ่งที่ตัวเองมีในปัจจุบัน ไม่หมกมุ่นถึงอดีตหรือคร่ำครวญในสิ่งที่ไม่มี
  • ยืดหยุ่นทนทานเมื่อถูกซัดด้วยปัญหาหรือพ่ายแพ้ต่ออุปสรรค สามารถลุกกลับมาสู้ใหม่ได้

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ยิ่งเห็นได้ชัดว่า Gratitude เป็นคาแรคเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ และเท่ากับเป็นขุมพลังชีวิตที่จะช่วยให้เด็กๆ ดำเนินชีวิตอย่างรู้จุดหมาย เข้าใจความหมายและตระหนักว่าความสุขที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นได้ไม่ยาก และในบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องออกตามหาที่ไหนไกล เพราะมันอยู่รอบๆตัวเรานี่เอง 

มาช่วยกันออกแบบชั้นเรียนที่สร้างความรู้สึกขอบคุณให้กับเด็กๆ กันเถอะ

ใจความสำคัญหนึ่งที่งานศึกษาทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็กมักเน้นย้ำเสมอคือข้อเท็จจริงที่ว่า 

เด็กๆ ซึมซับเลียนแบบลักษณะและพฤติกรรมจาก Role Model ที่ใกล้ชิดที่สุดก็คือพ่อแม่ ดังนั้น ประสบการณ์ที่นักเรียนได้รับตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่ในห้องเรียนจึงสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน การปลูกฝังคุณลักษณะข้อนี้ให้อยู่ในกิจวัตรทุกวันของเด็กๆ ทำได้ไม่ยากและครูนี่เองที่จะเป็นแบบอย่างให้กับพวกเขา 

เอมี่ มอริน (Amy Morin) อาจารย์สอนวิชาจิตวิทยาประจำมหาวิทยาลัยนอร์ธอิสเทิร์นในบอสตัน ผู้เขียน How to Teach Children Gratitude เขียนแนะนำไว้ว่าให้ลองเริ่มจาก

  1. เอ่ย “ขอบคุณ” การกล่าวคำขอบคุณพร้อมกับแสดงออกอย่างจริงใจให้นักเรียนเห็นสม่ำเสมอคือภาพตัวอย่างที่ทรงพลังและชัดเจนที่สุดในการสอนให้เขาเห็นและจดจำไปปฏิบัติตาม ขอบคุณเมื่อเด็กๆช่วยกันเก็บข้าวของหลังทำกิจกรรมในชั้นเรียนโดยไม่ต้องขอ ขอบคุณเจ้าของเวรทำความสะอาดที่เช็ดกระดานไว้สะอาดเรียบร้อย  หรือขอบคุณชั้นเรียนที่วันนี้ทุกคนตั้งใจเรียนกันอย่างเต็มที่ 
  2. เล่ามุมมองเหตุการณ์ที่รู้สึกขอบคุณในชั้นเรียน คุณครูอาจเริ่มต้นชั่วโมงโฮมรูมด้วยการเล่าแบ่งปันประสบการณ์กับนักเรียนพร้อมกับสอดแทรกมุมมองที่แสดงความขอบคุณลงไปด้วย เช่น เหตุการณ์ยางแบนขณะอยู่คนเดียวเมื่อวานทำให้ได้ลงมือเปลี่ยนยางอะไหล่ด้วยตัวเองสำเร็จเป็นครั้งแรก จากที่คิดว่าทำไม่ได้ ก็รู้สึกว่าต้องขอบคุณสถานการณ์นี้ที่ทำให้ได้ลองอย่างสุดความสามารถและภูมิใจกับตัวเองในที่สุด 
  3. ตั้งคำถามที่ช่วยให้เด็กๆ เข้าถึงความรู้สึกขอบคุณ Gratitude มีอยู่ 4 ด้านด้วยกัน คุณครูผู้สอนจึงควรพิจารณาวางแผนให้การสอนครอบคลุม
    • การสังเกต – มองเห็นประโยชน์ของสิ่งต่างๆ รอบตัว  คุณค่าของโอกาสหรือความช่วยเหลือที่มีคนหยิบยื่นให้  
    • การคิด – พิจารณาที่มาที่ไปของการเป็นผู้ให้และผู้รับในทุกสถานการณ์ และใส่ใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมา 
    • ความรู้สึก – ซึมซับความรู้สึกเมื่อได้รับและส่งต่อพลังงานดีๆ
    • การกระทำ – ให้คำแนะนำและเป็นแบบอย่างวิธีแสดงออกความรู้สึกขอบคุณ 

วิธีที่ช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเรียนรู้อย่างได้ผล คือการตั้งคำถามที่ปลุกให้เด็กๆ ทบทวนคุณค่าและประโยชน์จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เขาพบเจอ

คำถามที่ชี้ให้เขาสังเกตเห็นความสำคัญหรือด้านดีงามของผู้อื่นและสิ่งต่างๆ 

“ลองคิดถึงสิ่งที่เราใช้อยู่ทุกวัน นักเรียนคิดว่าอุปกรณ์ใดบ้างที่ถ้าเราไม่มีมันในวันนี้ ชีวิตจะยากลำบากขึ้น”

“มีใครสังเกตเห็นบ้างว่าเมื่อเช้านี้มีเพื่อนเราคนหนึ่งซ่อมป้ายหน้าชั้นเรียนเราจนมันสวยงามเหมือนเดิม” 

“หลังการเล่นกิจกรรมในวันนี้ เราอยากเอ่ยขอบคุณใครบ้างและอยากขอบคุณเขาเรื่องอะไร”

คำถามที่กระตุ้นให้เขาคิดพร้อมกับรู้สึกขอบคุณ                   

“เหตุผลที่เพื่อนร่วมแรงร่วมใจกันซื้อของชิ้นนี้ให้เธอเพราะอะไร” 

“ลองมองในมุมกลับดูซิว่ากว่าจะได้รองเท้าคู่นี้มาคุณพ่อคุณแม่ต้องผ่านความลำบาก เหนื่อยยากยังไงบ้าง”

“โอกาสที่ได้รับครั้งนี้จะช่วยพัฒนาหนูด้านไหนบ้างและหนูวางแผนจะตอบแทนกับโอกาสในครั้งนี้อย่างไร”

คำถามที่ชวนให้ไตร่ตรองความรู้สึกเมื่อเป็นผู้รับ

“ตอนนั้นเธอรู้สึกอย่างไรตอนที่เห็นเพื่อนๆ ช่วยปฐมพยาบาลสุดความสามารถ” 

“ตอนรับโทรศัพท์แล้วรู้ว่าเราได้โอกาสให้ไปลองทำงานนี้รู้สึกยังไงบ้าง”

“เวลาที่คนในครอบครัวอยู่เคียงข้างตลอดช่วงเวลาเลวร้ายเหล่านั้น เรารู้สึกยังไง”

คำถามที่ชักชวนให้แสดงออกความขอบคุณ

“มีวิธีไหนบ้างที่นักเรียนจะแสดงให้เพื่อนรู้ว่าเราดีใจกับสิ่งที่เพื่อนทำให้”

“พวกหนูอยากตอบแทนรุ่นพี่ช่วยติวหนังสือให้อย่างเต็มที่ไหม เราจะตอบแทนเขาอย่างไรดี”

“ความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับจากการได้รับความช่วยเหลือครั้งนี้สามารถส่งต่อให้คนอื่นได้อย่างไรบ้าง” 

เพื่อให้การเสริมสร้าง Gratitude ในชั้นเรียนเป็นเรื่องสนุกและไม่จำเจ ขอชักชวนให้คุณครูลองนำตัวอย่างกิจกรรมน่าสนุกที่อาจารย์เวอริเนนและอูสซิทาโล แบ่งปันไว้ในหนังสือคู่มือการสอนที่เอ่ยไว้ข้างต้น ลองหยิบยกไปปรับใช้เป็นกิจกรรมในห้องเรียนกันดูนะคะ

  • Gratitude Discussion: 
    • นักเรียนคิดว่าความรู้สึกขอบคุณหมายความว่าอย่างไร และการขอบคุณให้ประโยชน์กับเราอะไรบ้าง
    • นักเรียนอยากขอบคุณใครบ้างในชีวิต ด้วยเรื่องอะไร หรือมีสิ่งไหนที่เรารู้สึกว่ามีพระคุณบางอย่างกับเรา
    • อธิบายว่าความรู้สึกขอบคุณช่วยให้เรามองโลกในแง่ดีได้อย่างไร ลองเล่าเหตุการณ์ตัวอย่างให้เพื่อนฟัง
    • การขอบคุณเป็นสิ่งที่แสดงออกได้ด้วยวิธีใดบ้าง ในสถานการณ์ใดบ้างที่การขอบคุณเป็นเรื่องยาก
  • Gratitude Diary: มอบหมายการบ้านให้นักเรียนเขียน “ไดอารีแห่งการขอบคุณ” โดยให้เขียนถึงสิ่งที่อยากขอบคุณอย่างน้อย 3 อย่างต่อวัน กำหนดส่งการบ้านชิ้นนี้ในระยะ 1-2 สัปดาห์ จากนั้นให้ชั้นเรียนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิด ความรู้สึกหรือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างการสังเกตและบันทึก
  • Gratitude Box: ตั้งขวดโหลใบโตในห้องเรียนและให้นักเรียนเขียนสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นลงไปวันละหนึ่งอย่าง ในแต่ละสัปดาห์ จะมีการหยิบสุ่มข้อความในขวดโหลออกมาอ่านในชั้นเรียนและช่วยกันคิดว่าเพราะเหตุใดจึงควรขอบคุณเหตุการณ์หรือสิ่งนั้นและมันสำคัญอย่างไร
  • Gratitude Letter: ให้นักเรียนเขียนจดหมายขอบคุณถึงผู้มีพระคุณ หรือคนที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้เกิดขึ้นทางใดทางหนึ่ง อาจเป็นคนในครอบครัวหรือผู้ที่เคยหยิบยื่นความช่วยเหลือ จดหมายฉบับนี้จะถูกส่งหรือเก็บไว้ก็ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน 
  • Gratitude Session: ช่วงโฮมรูปอาจจะหนึ่งครั้งในสัปดาห์จะเป็นช่วงที่คุณครูกล่าวขอบคุณสิ่งดีๆที่นักเรียนได้ทำในช่วงนั้นเช่น ช่วยดูแลแปลงผักของโรงเรียนเป็นอย่างดี ซ่อมกรอบรูปที่พังให้คืนสภาพดีดังเดิม หรืออาจใช้เป็นพื้นที่ให้นักเรียนเป็นฝ่ายขอบคุณคุณครูและเพื่อนในห้องด้วย 

หวังว่าข้างต้นจะเป็นแนวทางเล็กๆ น้อยๆที่คุณครูใช้เป็นไอเดียออกแบบกิจกรรม หรือแบบฝึกหัดให้เด็กๆได้พัฒนาคุณลักษณะด้าน Gratitude ให้เกิดขึ้น ซึ่งนอกจากความสนุกสนานในห้องเรียน ความดีงามของการรู้ซึ้งในคุณค่าก็คงเป็นอีกความตั้งใจหนึ่งที่ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหนๆ คุณครูทุกคนคงรอคอยที่จะได้เห็นเมล็ดพันธ์ที่หว่านโปรยไว้เบ่งบานเติบใหญ่ขึ้นไม่มากก็น้อยในหัวใจเด็กๆทุกคน

อ้างอิง
How to Teach Children Gratitude
Vuorinen, L. U. (2019). Gratitude. In See the Good! How to guide children and adolescent to find their strengths (pp. 142-147). Helsinki: Positive Learning Ltd.

Tags:

คาแรกเตอร์(character building)GritCharacter world

Author:

illustrator

บุญชนก ธรรมวงศา

จบภาษาและการสื่อสาร เคยผ่านงานบริษัทออแกไนซ์ เปิดคลินิก ไปจนเป็นเลขาซีอีโอ หลังค้นพบและติดใจโลกนอกระบบตอกบัตร จึงแปลงร่างเป็นนักเขียน นักแปลและนักพยากรณ์ไพ่ ขี้โวยวายเป็นนิสัยที่อยากแก้ไขแต่ทำยังไงก็ไม่หาย ปัจจุบันกำลังเข้าใกล้ Midlife Crisis และหวังจะข้ามผ่านได้ด้วยวิถี “ช่างแม่ง”

Illustrator:

illustrator

ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

นักวาดภาพที่ใช้ชื่อเล่นว่า ววววิน facebook, ig : wawawawin

Related Posts

  • Book
    The Element: การค้นพบ ‘ธาตุ’ ที่บอกว่า ‘ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้’

    เรื่อง ณิชากร ศรีเพชรดี ภาพ พิมพ์พาพ์

  • Character building
    HOPE อย่าหมดหวังในตัวเองนะวัยรุ่น

    เรื่อง เบญจรัตน์ จงจำรัสพันธ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Character building
    หาก Grit คือความเพียร แต่จะเพียรพยายามในเรื่องที่ไม่อินมากๆ ได้อย่างไร?

    เรื่อง เบญจรัตน์ จงจำรัสพันธ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Grit
    S.M.A.R.T GOAL ตั้งเป้าหมายให้ชัด ใกล้ ใช่ และจริง – ไม่ล้มเหลวแน่นอน

    เรื่อง The Potential ภาพ บัว คำดี

  • Life Long Learning
    คุณจะนอนเล่นมือถือบนโซฟา หรือลุกขึ้นมาแล้ววิ่งไปหาเป้าหมายของตัวเอง

    เรื่อง วิภาวี เธียรลีลา ภาพ บัว คำดี

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel