- ชวนไปรู้จักเครื่องมือที่จะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น ‘การสนทนาแบบไตร่ตรอง (Reflective Conversation)‘ พาเรานั่งไทม์แมชชีนกลับไปคุยกับตัวเอง ผ่านชุดคำถาม ที่จะช่วยเชื่อมต่อความทรงจำในอดีตกับปัจจุบัน แล้วแนะนำให้เราทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเสียใหม่ กระบวนการที่เกิดขึ้นจะช่วยคลี่คลายปมบางอย่างที่ไม่ได้ถูกสะสาง หรือบาดแผลจากบางเรื่องราวที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตในปัจจุบันโดยที่เราไม่รู้ตัว
- ผ่าน ชุดคำถามสะท้อนความผูกพัน ที่มีหลากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น ภูมิหลัง ความสัมพันธ์ การพลัดพราก ระเบียบวินัย ความกลัวและการถูกคุกคาม การสูญเสีย การสื่อสารทางอารมณ์ พื้นที่ปลอดภัย ความท้าทาย ปัจจุบันและอนาคต คำถามทำให้เราได้ทบทวนเรื่องราวในชีวิต ได้เห็นความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ
วิทยาศาสตร์สมองพาเราย้อนกลับไปทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งมีผลต่อการประกอบร่างตัวตนของเราในปัจจุบัน ระหว่างที่อ่านบทความนี้ คุณจะได้จินตนาการถึงตัวเองในเหตุการณ์ต่างๆ แม้เรื่องบางเรื่องอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าจดจำ บางเรื่องเคยเกิดขึ้นแต่เรากลับมีความทรงจำแค่ลางๆ เพราะสมองได้แอบซ่อนเรื่องราวเอาไว้ การทำงานของสมองจึงเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ศึกษาได้ไม่รู้จบ
The Potential ยังคงอยู่กับข้อค้นพบของ แดเนียล เจ. ซีเกล (Daniel J. Siegel) ผู้อำนวยการสถาบัน และศาสตราจารย์คลินิกจิตเวชศาสตร์และทีมงาน ที่ศึกษาด้านประสาทชีววิทยาระหว่างบุคคลมาเป็นเวลากว่า 25 ปี ซีเกลใช้ การสนทนาแบบไตร่ตรอง (Reflective Conversation) เป็นเครื่องมือพาเรานั่งไทม์แมชชีนกลับไปคุยกับตัวเอง ผ่านชุดคำถาม ที่จะช่วยเชื่อมต่อความทรงจำในอดีตกับปัจจุบัน แล้วแนะนำให้เราทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเสียใหม่ กระบวนการที่เกิดขึ้นจะช่วยคลี่คลายปมบางอย่างที่ไม่ได้ถูกสะสาง หรือบาดแผลจากบางเรื่องราวที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตในปัจจุบันโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต และความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว ได้สร้างบาดแผลหรือเงื่อนปมอะไรไว้บ้าง หากเรามองข้ามเรื่องราวเหล่านั้น
การสนทนาแบบไตร่ตรองเป็นการพูดคุยกับตัวเองผ่าน ชุดคำถามสะท้อนความผูกพัน ที่มีหลากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น ภูมิหลัง ความสัมพันธ์ การพลัดพราก ระเบียบวินัย ความกลัวและการถูกคุกคาม การสูญเสีย การสื่อสารทางอารมณ์ พื้นที่ปลอดภัย ความท้าทาย ปัจจุบันและอนาคต คำถามทำให้เราได้ทบทวนเรื่องราวในชีวิต ได้เห็นความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ โดยเน้นไปที่ความผูกพันในครอบครัว แต่ลึกลงไป คือ การเสาะหาสาเหตุและที่มาของความเป็นตัวเราในปัจจุบัน ซีเกล บอกว่า หากเราทำความเข้าใจแล้วยกระดับความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวให้อยู่ในจุดที่สร้างความอบอุ่นใจและวางใจได้ เราจะสร้างความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยในชีวิตของตัวเองได้
ภูมิหลัง
- คุณเติบโตมาจากครอบครัวแบบไหน?
- ครอบครัวของคุณมีใครบ้าง?
- พ่อแม่มีวิธีการ/ แนวทางการเลี้ยงลูกอย่างไรบ้าง?
- วิธีการ/ แนวทางการเลี้ยงลูกในครอบครัวของคุณ มีเรื่องไหนที่คุณชอบหรือไม่ชอบ?
- ถ้าคุณมีลูก คุณจะเลี้ยงลูกแบบเดียวกันหรือต่างออกไป?
ความสัมพันธ์
- คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่และคนในครอบครัวหรือเปล่า?
- แล้วความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง?
- ความสัมพันธ์ของคุณกับคนในครอบครัวเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างในแต่ละช่วงอายุ?
- คำจำกัดความสั้นๆ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพ่อและแม่สมัยที่คุณอายุน้อยกว่านี้
- นอกจากพ่อกับแม่แล้ว คุณสนิทหรือไว้ใจใครอีกบ้าง?
การพลัดพราก
- คุณจำครั้งแรกที่คุณต้องแยกจากพ่อหรือแม่ของคุณได้ไหม?
- สถานการณ์เป็นอย่างไร? พ่อแม่ของคุณทำอย่างไร?
- ช่วงวัยเด็กคุณมีประสบการณ์ต้องแยกจากพ่อแม่นานๆ บ้างไหม? คุณรู้สึกอย่างไร?
ระเบียบวินัย
- พ่อแม่มีวิธีการสอนเกี่ยวกับพฤติกรรมการแสดงออกของคุณอย่างไร?
- พ่อแม่ใช้วิธีการลงโทษกับคุณหรือไม่?
- เรื่องระเบียบวินัยที่วางไว้ มีผลต่อการพัฒนาตัวเองของคุณอย่างไรบ้าง?
ความกลัวและการถูกคุกคาม
- เคยรู้สึกว่าโดนพ่อแม่ข่มขู่หรือเปล่า?
- เคยรู้สึกว่าโดนปฏิเสธจากพ่อแม่หรือเปล่า?
- คุณมีประสบการณ์ในชีวิตที่รู้สึกว่าเกินจะรับไหวบ้างหรือไม่ แล้วเหตุการณ์เหล่านั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตคุณอย่างไรบ้าง?
- คุณยังรู้สึกกับเหตุการณ์เหล่านั้น คล้ายว่าเพิ่งเคยเกิดขึ้นไหม?
การสูญเสีย
- คุณเคยมีประสบการณ์สูญเสียคนสำคัญในชีวิตบ้างไหม?
- คุณเคยมีประสบการณ์ที่คนสำคัญในชีวิตทอดทิ้งคุณไปบ้างไหม?
- ที่ผ่านมาการสูญเสียเหล่านั้นส่งผลต่อตัวคุณและครอบครัวอย่างไรบ้าง?
- ความสูญเสียเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อตัวคุณอย่างไรในปัจจุบัน?
การสื่อสารทางอารมณ์
- เวลาคุณมีความสุขหรือตื่นเต้นกับอะไรบ้างอย่าง พ่อแม่สื่อสารกับคุณยังไง?
- จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากคุณรู้สึกเศร้า ไม่มีความสุข ได้รับบาดเจ็บ หรือป่วยขึ้นมา?
- พ่อแม่รับมือกับอารมณ์ของคุณอย่างไร แตกต่างกันไหม?
- เวลาคุณอยู่ในภาวะที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ตอนนี้คุณแสดงออก/ สื่อสารอย่างไรกับคนรอบข้าง?
พื้นที่ปลอดภัย
- มีใครหรือสถานที่ไหนที่คุณสามารถหันหน้าเข้าหา เมื่อต้องการความช่วยเหลือหรือกำลังเจอเรื่องยากๆ ในชีวิต? คุณมีพื้นที่ปลอดภัยแบบนี้บางไหมในวัยเด็ก?
- พื้นที่ปลอดภัยที่ว่ามีความสำคัญกับคุณมากขนาดไหน?
- ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณรู้สึกว่าพ่อแม่เข้าใจคุณ อยู่เคียงข้างคอยปกป้องและให้กำลังใจคุณบ้างไหม?
ความท้าทาย
- พ่อแม่สนับสนุนให้คุณออกไปค้นหาหรือผจญกับชีวิตมากแค่ไหน?
- คุณรู้สึกปลอดภัยหรือไม่ เมื่อต้องออกไปทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่เด็กๆ?
ปัจจุบัน
- ความสัมพันธ์ของคุณกับพ่อแม่เป็นอย่างไรบ้างในปัจจุบัน?
- คุณคิดว่าเพราะอะไรพ่อแม่ถึงแสดงออกแบบที่เขาทำอยู่?
- คุณตัดสินใจไม่ทำอะไรบางอย่างเพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ทำไหม?
- คุณคิดว่าประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิตของคุณที่ผ่านมา มีอิทธิพลต่อการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนรอบข้างหรือเปล่า?
- คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง เมื่อค้นพบว่าเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต หล่อหลอมตัวตนของคุณในปัจจุบัน?
และอนาคต
- คุณอยากเห็นความสัมพันธ์ในอนาคตของคุณเป็นแบบไหน?
- ความผูกพันรูปแบบต่างๆ ในชีวิตของคุณและประสบการณ์ในวัยเด็ก สามารถหล่อหลอมความเป็นตัวตนของคุณไปเป็นแบบไหนได้บ้าง?
- ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาเรื่องใดบ้างที่คุณคิดว่าเป็นข้อจำกัดและเป็นอุปสรรคต่อชีวิตของคุณในอนาคต?
- คุณอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไรบ้างเพื่อเป็นตัวเองในแบบที่อยากเป็น?
ชุดคำถามเหล่านี้พาคุณกลับไปเจออะไรบ้าง?
หลายคำถามเป็นคำถามที่ตอบได้ง่ายดาย แต่บางคำถามอาจทำให้เราหยุดชะงัก ต้องทบทวนและใช้เวลารื้อฟื้นความทรงจำ ภาพความทรงจำที่ย้อนกลับเข้ามาฉายให้เห็นการเดินทางของตัวเอง รูปแบบความผูกพันที่สร้างขึ้นระหว่างทางกับผู้คนที่เกี่ยวข้อง คำถามเหล่านี้ไม่ได้ต้องการตอกย้ำบางเรื่องราวที่แสนเจ็บปวด แต่เพื่อให้เรามองเห็นและยอมรับสิ่งที่หล่อหลอมความเป็นตัวตนของเราในปัจจุบัน ส่วนอนาคตที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยสามารถเกิดขึ้นได้จากการตั้งคำถามข้อต่อไปให้ชีวิตก้าวเดินต่อ