Skip to content
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
  • Creative Learning
    Everyone can be an EducatorUnique TeacherCreative learningLife Long LearningUnique School
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Growth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learningCharacter building21st Century skillsEducation trendLearning Theory
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    SpaceBookMovie
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
eco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)ปฐมวัยวัยรุ่น
Family Psychology
8 April 2019

QUIZ: เคยเป็นเด็กอย่างไร ก็เป็นแม่แบบนั้น

เรื่อง The Potential ภาพ บัว คำดี

กด 😮:

เมื่อคุณร้องไห้ แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘โอ๋บ้าง ดุให้เงียบบ้าง’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ที่วิตกกังวล’ (Anxiety)
แม่ที่วิตกกังวล เติบโตมาจากเด็กที่ขาดการดูแลและไม่ได้รับการตอบสนองที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ตอนเป็นเด็กจึงมักมีพฤติกรรมชอบตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับผู้ดูแล ว่าความสัมพันธ์นี้ปลอดภัยหรือไม่ ผ่านการสำรวจสีหน้า ท่าที น้ำเสียงของผู้ดูแล ส่งผลให้เกิดการรับรู้ที่ไวและสร้างความหวาดระแวงไม่ว่าผู้ดูแลจะดีหรือร้ายก็ตาม

แม่ที่วิตกจะใส่ใจความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก เมื่ออารมณ์ดีก็ตอบสนองความต้องการลูกได้ แต่ถ้าอารมณ์เสีย จะปิดกั้นลูกและควบคุมอารมณ์ด้านร้ายของตัวเองไม่ได้

กด 😡:

เมื่อคุณร้องไห้ แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘โดนตีให้เงียบ’ คุณมีโอกาสจะเป็นแม่ผู้ ‘เสียการควบคุม’ (Disorganization)
ลักษณะของแม่ผู้เสียการควบคุมทางอารมณ์รู้สึก จะเกิดขึ้นในเวลาที่เกิดความปั่นป่วน ซึ่งแม่ลักษณะนี้มีแนวโน้มที่แม่เองจะทำร้ายเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะเคยถูกกระทำจากผู้ปกครองมาก่อน ในวัยเด็กถูกเข้าหาด้วยความรุนแรง จึงไม่รับรู้ถึงการถูกรักและการได้รับความทะนุถนอมว่าเป็นเช่นไร

นำไปสู่ผลกระทบให้เด็กเกิดภาวะหวาดหวั่นใจได้เสมอ เช่น เด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยความกลัว เพราะมีแม่ที่คอยจับผิดลูกตลอดเวลา แม่จะเลี้ยงลูกด้วยคำว่า ‘อย่า!’ ในบางรายของเด็กจะมีพัฒนาการเดินช้า เดินๆ แล้วสะดุดล้มทั้งที่ไม่มีสิ่งใดกีดขวาง และอื่นๆ

กด  :

เมื่อคุณร้องไห้ แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘กอดปลอบให้หยุดร้องไห้ด้วยคำพูดอบอุ่น’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ผู้มั่นคง’
แม่ผู้มั่นคง เติบโตมาในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์มั่นคง มีคนที่พร้อมจะส่งความปราถนาดีและแสดงออกความรู้สึกอยู่รอบๆ ตัว มีความใกล้ชิดกันอย่างสนิทสนมระหว่างกัน ทำให้ชีวิตในวัยเด็กจะรู้สึกว่าตัวเองถูกรัก จนทำให้มองเห็นความรู้สึกของผู้อื่น

เมื่อเป็นแม่ผู้มั่นคง จะเป็นแม่ที่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองและลูกเป็นอย่างดี จะรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลง ไม่ราบรื่น เมื่อผิดพลาดก็รื้อซ่อมความสัมพันธ์เป็น ส่งผลให้เมื่อลูกโตขึ้น จะมีอารมณ์มั่นคง อบอุ่น สานสัมพันธ์กับคนอื่นได้ เมื่อเจอวิกฤตก็แก้ไขให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติได้

กด 😢:

เมื่อคุณร้องไห้ แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ปล่อยให้ร้องไห้ต่อไป เพราะเชื่อว่าโอ๋ลูกมากไปไม่ดี’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ผู้เพิกเฉย’ (Avoidance)
ผู้เพิกเฉย เติบโตท่ามกลางการไม่ถูกที่สนใจ จนทำให้แม่ในวัยเด็กไม่พยายามสื่อสารหรือแสดงความรู้สึกออกมา เช่น ไม่ร้องขอ ไม่บอกความรู้สึก ทำตัวเหมือนไม่มีปัญหา ค่อยๆ ตัดความรู้สึกตัวเองไปทีละน้อย วัยเด็กจะมีบุคลิกภาพนิ่งเฉย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก เมื่อโตจะเป็นผู้ใหญ่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบสิ่งไหน ไม่แสดงออก มีระยะห่าง ลึกๆ แล้วโดดเดี่ยว สานสัมพันธ์กับคนอื่นไม่เป็น

แม่ผู้เพิกเฉยจะเชื่อในเหตุผล มากกว่าความรู้สึกตัวเอง สนใจข้อมูลมากกว่าการสัมผัสโดยตรง มีแนวโน้มเชื่อตำราและองค์ความรู้มากกว่าสัญชาตญาณ จนบางครั้งละเลยการใส่ใจเรื่องอารมณ์ของตัวเองและคนรอบข้างไป เพราะไม่เห็นว่ามีสาระให้จับต้อง

กด 😮:

เมื่อคุณสะดุดล้ม แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘เดินมาอุ้มบ้าง แต่บางครั้งก็ไม่ถูกสนใจ’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ที่วิตกกังวล’ (Anxiety)
แม่ที่วิตกกังวล เติบโตมาจากเด็กที่ขาดการดูแลและไม่ได้รับการตอบสนองที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ตอนเป็นเด็กจึงมักมีพฤติกรรมชอบตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับผู้ดูแล ว่าความสัมพันธ์นี้ปลอดภัยหรือไม่ ผ่านการสำรวจสีหน้า ท่าที น้ำเสียงของผู้ดูแล ส่งผลให้เกิดการรับรู้ที่ไวและสร้างความหวาดระแวงไม่ว่าผู้ดูแลจะดีหรือร้ายก็ตาม

แม่ที่วิตกจะใส่ใจความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก เมื่ออารมณ์ดีก็ตอบสนองความต้องการลูกได้ แต่ถ้าอารมณ์เสีย จะปิดกั้นลูกและควบคุมอารมณ์ด้านร้ายของตัวเองไม่ได้

กด 😡:

เมื่อคุณสะดุดล้ม แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘โดนทำโทษและขู่ห้ามให้วิ่งอีก’ คุณมีโอกาสจะเป็นแม่ผู้ ‘เสียการควบคุม’ (Disorganization)
ลักษณะของแม่ผู้เสียการควบคุมทางอารมณ์รู้สึก จะเกิดขึ้นในเวลาที่เกิดความปั่นป่วน ซึ่งแม่ลักษณะนี้มีแนวโน้มที่แม่เองจะทำร้ายเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะเคยถูกกระทำจากผู้ปกครองมาก่อน ในวัยเด็กถูกเข้าหาด้วยความรุนแรง จึงไม่รับรู้ถึงการถูกรักและการได้รับความทะนุถนอมว่าเป็นเช่นไร

นำไปสู่ผลกระทบให้เด็กเกิดภาวะหวาดหวั่นใจได้เสมอ เช่น เด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยความกลัว เพราะมีแม่ที่คอยจับผิดลูกตลอดเวลา แม่จะเลี้ยงลูกด้วยคำว่า ‘อย่า!’ ในบางรายของเด็กจะมีพัฒนาการเดินช้า เดินๆ แล้วสะดุดล้มทั้งที่ไม่มีสิ่งใดกีดขวาง และอื่นๆ

กด  :

เมื่อคุณสะดุดล้ม แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ดูแล กอดปลอบและทำแผลให้’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ผู้มั่นคง’
แม่ผู้มั่นคง เติบโตมาในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์มั่นคง มีคนที่พร้อมจะส่งความปราถนาดีและแสดงออกความรู้สึกอยู่รอบๆ ตัว มีความใกล้ชิดกันอย่างสนิทสนมระหว่างกัน ทำให้ชีวิตในวัยเด็กจะรู้สึกว่าตัวเองถูกรัก จนทำให้มองเห็นความรู้สึกของผู้อื่น

เมื่อเป็นแม่ผู้มั่นคง จะเป็นแม่ที่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองและลูกเป็นอย่างดี จะรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลง ไม่ราบรื่น เมื่อผิดพลาดก็รื้อซ่อมความสัมพันธ์เป็น ส่งผลให้เมื่อลูกโตขึ้น จะมีอารมณ์มั่นคง อบอุ่น สานสัมพันธ์กับคนอื่นได้ เมื่อเจอวิกฤตก็แก้ไขให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติได้

กด 😢:

เมื่อคุณสะดุดล้ม แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ไม่มีใครสนใจ ต้องลุกขึ้นและหายเจ็บเอง’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ผู้เพิกเฉย’ (Avoidance)
ผู้เพิกเฉย เติบโตท่ามกลางการไม่ถูกที่สนใจ จนทำให้แม่ในวัยเด็กไม่พยายามสื่อสารหรือแสดงความรู้สึกออกมา เช่น ไม่ร้องขอ ไม่บอกความรู้สึก ทำตัวเหมือนไม่มีปัญหา ค่อยๆ ตัดความรู้สึกตัวเองไปทีละน้อย วัยเด็กจะมีบุคลิกภาพนิ่งเฉย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก เมื่อโตจะเป็นผู้ใหญ่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบสิ่งไหน ไม่แสดงออก มีระยะห่าง ลึกๆ แล้วโดดเดี่ยว สานสัมพันธ์กับคนอื่นไม่เป็น

แม่ผู้เพิกเฉยจะเชื่อในเหตุผล มากกว่าความรู้สึกตัวเอง สนใจข้อมูลมากกว่าการสัมผัสโดยตรง มีแนวโน้มเชื่อตำราและองค์ความรู้มากกว่าสัญชาตญาณ จนบางครั้งละเลยการใส่ใจเรื่องอารมณ์ของตัวเองและคนรอบข้างไป เพราะไม่เห็นว่ามีสาระให้จับต้อง

กด 😮:

เมื่อคุณสอบได้ที่1 แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘บางครั้งก็ได้รับคำชื่นชม บางครั้งก็โดนกดดันให้ดีกว่านี้’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ที่วิตกกังวล’ (Anxiety)
แม่ที่วิตกกังวล เติบโตมาจากเด็กที่ขาดการดูแลและไม่ได้รับการตอบสนองที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ตอนเป็นเด็กจึงมักมีพฤติกรรมชอบตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับผู้ดูแล ว่าความสัมพันธ์นี้ปลอดภัยหรือไม่ ผ่านการสำรวจสีหน้า ท่าที น้ำเสียงของผู้ดูแล ส่งผลให้เกิดการรับรู้ที่ไวและสร้างความหวาดระแวงไม่ว่าผู้ดูแลจะดีหรือร้ายก็ตาม

แม่ที่วิตกจะใส่ใจความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก เมื่ออารมณ์ดีก็ตอบสนองความต้องการลูกได้ แต่ถ้าอารมณ์เสีย จะปิดกั้นลูกและควบคุมอารมณ์ด้านร้ายของตัวเองไม่ได้

กด 😡:

เมื่อคุณสอบได้ที่1 แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ไม่เคยได้รับการชื่นชมและถูกสั่งให้อ่านหนังสือต่อไป ห้ามคะแนนลดลงเด็ดขาด’ คุณมีโอกาสจะเป็นแม่ผู้ ‘เสียการควบคุม’ (Disorganization)
ลักษณะของแม่ผู้เสียการควบคุมทางอารมณ์รู้สึก จะเกิดขึ้นในเวลาที่เกิดความปั่นป่วน ซึ่งแม่ลักษณะนี้มีแนวโน้มที่แม่เองจะทำร้ายเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะเคยถูกกระทำจากผู้ปกครองมาก่อน ในวัยเด็กถูกเข้าหาด้วยความรุนแรง จึงไม่รับรู้ถึงการถูกรักและการได้รับความทะนุถนอมว่าเป็นเช่นไร

นำไปสู่ผลกระทบให้เด็กเกิดภาวะหวาดหวั่นใจได้เสมอ เช่น เด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยความกลัว เพราะมีแม่ที่คอยจับผิดลูกตลอดเวลา แม่จะเลี้ยงลูกด้วยคำว่า ‘อย่า!’ ในบางรายของเด็กจะมีพัฒนาการเดินช้า เดินๆ แล้วสะดุดล้มทั้งที่ไม่มีสิ่งใดกีดขวาง และอื่นๆ

กด  :

เมื่อคุณสอบได้ที่1 แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ได้รับคำชมและรางวัลเล็กๆ น้อยๆ อย่างสม่ำเสมอ’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ผู้มั่นคง’
แม่ผู้มั่นคง เติบโตมาในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์มั่นคง มีคนที่พร้อมจะส่งความปราถนาดีและแสดงออกความรู้สึกอยู่รอบๆ ตัว มีความใกล้ชิดกันอย่างสนิทสนมระหว่างกัน ทำให้ชีวิตในวัยเด็กจะรู้สึกว่าตัวเองถูกรัก จนทำให้มองเห็นความรู้สึกของผู้อื่น

เมื่อเป็นแม่ผู้มั่นคง จะเป็นแม่ที่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองและลูกเป็นอย่างดี จะรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลง ไม่ราบรื่น เมื่อผิดพลาดก็รื้อซ่อมความสัมพันธ์เป็น ส่งผลให้เมื่อลูกโตขึ้น จะมีอารมณ์มั่นคง อบอุ่น สานสัมพันธ์กับคนอื่นได้ เมื่อเจอวิกฤตก็แก้ไขให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติได้

กด 😢:

เมื่อคุณสอบได้ที่1 แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘เฉยๆ ไม่สนใจและไม่ชื่นชม’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ผู้เพิกเฉย’ (Avoidance)
ผู้เพิกเฉย เติบโตท่ามกลางการไม่ถูกที่สนใจ จนทำให้แม่ในวัยเด็กไม่พยายามสื่อสารหรือแสดงความรู้สึกออกมา เช่น ไม่ร้องขอ ไม่บอกความรู้สึก ทำตัวเหมือนไม่มีปัญหา ค่อยๆ ตัดความรู้สึกตัวเองไปทีละน้อย วัยเด็กจะมีบุคลิกภาพนิ่งเฉย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก เมื่อโตจะเป็นผู้ใหญ่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบสิ่งไหน ไม่แสดงออก มีระยะห่าง ลึกๆ แล้วโดดเดี่ยว สานสัมพันธ์กับคนอื่นไม่เป็น

แม่ผู้เพิกเฉยจะเชื่อในเหตุผล มากกว่าความรู้สึกตัวเอง สนใจข้อมูลมากกว่าการสัมผัสโดยตรง มีแนวโน้มเชื่อตำราและองค์ความรู้มากกว่าสัญชาตญาณ จนบางครั้งละเลยการใส่ใจเรื่องอารมณ์ของตัวเองและคนรอบข้างไป เพราะไม่เห็นว่ามีสาระให้จับต้อง

กด 😮:

เมื่อคุณอยากฟังนิทานก่อนนอน แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ได้ฟังนิทานบ้างบางครั้ง แต่บางครั้งก็ไม่ถูกสนใจ’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ที่วิตกกังวล’ (Anxiety)
แม่ที่วิตกกังวล เติบโตมาจากเด็กที่ขาดการดูแลและไม่ได้รับการตอบสนองที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ตอนเป็นเด็กจึงมักมีพฤติกรรมชอบตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับผู้ดูแล ว่าความสัมพันธ์นี้ปลอดภัยหรือไม่ ผ่านการสำรวจสีหน้า ท่าที น้ำเสียงของผู้ดูแล ส่งผลให้เกิดการรับรู้ที่ไวและสร้างความหวาดระแวงไม่ว่าผู้ดูแลจะดีหรือร้ายก็ตาม

แม่ที่วิตกจะใส่ใจความรู้สึกตัวเองเป็นหลัก เมื่ออารมณ์ดีก็ตอบสนองความต้องการลูกได้ แต่ถ้าอารมณ์เสีย จะปิดกั้นลูกและควบคุมอารมณ์ด้านร้ายของตัวเองไม่ได้

กด 😡:

เมื่อคุณอยากฟังนิทานก่อนนอน แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ไม่เคยได้ฟังนิทาน เพราะเสียเวลา แถมยังโดนสั่งให้รีบเข้านอนอีกด้วย’ คุณมีโอกาสจะเป็นแม่ผู้ ‘เสียการควบคุม’ (Disorganization)
ลักษณะของแม่ผู้เสียการควบคุมทางอารมณ์รู้สึก จะเกิดขึ้นในเวลาที่เกิดความปั่นป่วน ซึ่งแม่ลักษณะนี้มีแนวโน้มที่แม่เองจะทำร้ายเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะเคยถูกกระทำจากผู้ปกครองมาก่อน ในวัยเด็กถูกเข้าหาด้วยความรุนแรง จึงไม่รับรู้ถึงการถูกรักและการได้รับความทะนุถนอมว่าเป็นเช่นไร

นำไปสู่ผลกระทบให้เด็กเกิดภาวะหวาดหวั่นใจได้เสมอ เช่น เด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยความกลัว เพราะมีแม่ที่คอยจับผิดลูกตลอดเวลา แม่จะเลี้ยงลูกด้วยคำว่า ‘อย่า!’ ในบางรายของเด็กจะมีพัฒนาการเดินช้า เดินๆ แล้วสะดุดล้มทั้งที่ไม่มีสิ่งใดกีดขวาง และอื่นๆ

กด  :

เมื่อคุณอยากฟังนิทานก่อนนอน แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ได้ฟังนิทานตามความต้องการอย่างสม่ำเสมอ’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ผู้มั่นคง’
แม่ผู้มั่นคง เติบโตมาในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์มั่นคง มีคนที่พร้อมจะส่งความปราถนาดีและแสดงออกความรู้สึกอยู่รอบๆ ตัว มีความใกล้ชิดกันอย่างสนิทสนมระหว่างกัน ทำให้ชีวิตในวัยเด็กจะรู้สึกว่าตัวเองถูกรัก จนทำให้มองเห็นความรู้สึกของผู้อื่น

เมื่อเป็นแม่ผู้มั่นคง จะเป็นแม่ที่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองและลูกเป็นอย่างดี จะรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลง ไม่ราบรื่น เมื่อผิดพลาดก็รื้อซ่อมความสัมพันธ์เป็น ส่งผลให้เมื่อลูกโตขึ้น จะมีอารมณ์มั่นคง อบอุ่น สานสัมพันธ์กับคนอื่นได้ เมื่อเจอวิกฤตก็แก้ไขให้กลับมาอยู่ในภาวะปกติได้

กด 😢:

เมื่อคุณอยากฟังนิทานก่อนนอน แล้วได้รับการตอบสนองโดยการ ‘ไม่เคยได้ฟังนิทาน เพราะเชื่อว่านิทานเป็นเรื่องไร้สาระ’ คุณมีโอกาสจะเป็น ‘แม่ผู้เพิกเฉย’ (Avoidance)
ผู้เพิกเฉย เติบโตท่ามกลางการไม่ถูกที่สนใจ จนทำให้แม่ในวัยเด็กไม่พยายามสื่อสารหรือแสดงความรู้สึกออกมา เช่น ไม่ร้องขอ ไม่บอกความรู้สึก ทำตัวเหมือนไม่มีปัญหา ค่อยๆ ตัดความรู้สึกตัวเองไปทีละน้อย วัยเด็กจะมีบุคลิกภาพนิ่งเฉย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก เมื่อโตจะเป็นผู้ใหญ่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบสิ่งไหน ไม่แสดงออก มีระยะห่าง ลึกๆ แล้วโดดเดี่ยว สานสัมพันธ์กับคนอื่นไม่เป็น

แม่ผู้เพิกเฉยจะเชื่อในเหตุผล มากกว่าความรู้สึกตัวเอง สนใจข้อมูลมากกว่าการสัมผัสโดยตรง มีแนวโน้มเชื่อตำราและองค์ความรู้มากกว่าสัญชาตญาณ จนบางครั้งละเลยการใส่ใจเรื่องอารมณ์ของตัวเองและคนรอบข้างไป เพราะไม่เห็นว่ามีสาระให้จับต้อง

Tags:

พ่อแม่จิตวิทยาแบบแผนทางความสัมพันธ์

Author:

illustrator

The Potential

กองบรรณาธิการ The Potential

Illustrator:

illustrator

บัว คำดี

เติบโตมากับเพลงป็อปแดนซ์ยุค 2000 เริ่มเป็นติ่งวงการ k-pop ในวัยมัธยม มีเพลงการ์ตูนดิสนีย์เป็นพลังใจในทุกช่วงวัยของชีวิต

Related Posts

  • Family Psychology
    พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน เพราะความรักเป็นเรื่องไม่อาจฝืน

    เรื่อง เมริษา ยอดมณฑป ภาพ ninaiscat

  • Family Psychology
    พ่อแม่ห้ามด้วยความเป็นห่วงแต่ลูกตีความว่าถูกตำหนิ และอีกหลายความขัดแย้งในบ้าน อ่านวิธีคลี่คลายที่นี่

    เรื่อง บุญชนก ธรรมวงศา ภาพ เพชรลัดดา แก้วจีน

  • Family PsychologyBook
    การแบ่งปันอารมณ์ความรู้สึกในครอบครัวคือขุมพลังชีวิตของลูก

    เรื่อง บุญชนก ธรรมวงศา

  • Healing the traumaFamily Psychology
    เปิดลิ้นชักความทรงจำพ่อแม่ สะสางปมเลวร้าย เลี้ยงลูกด้วยหัวใจที่เป็นมนุษย์

    เรื่อง บุญชนก ธรรมวงศา ภาพ บัว คำดี

  • Family Psychology
    จิตวิทยาเสี้ยวส่วน: ‘เด็กน้อยอันเปราะบาง’ ผู้สร้างบาดแผล ที่เราหลงลืมไป

    เรื่อง ภาพ บัว คำดี

  • Creative Learning
  • Life
  • Family
  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel