- งานวิจัยพบว่า พ่อแม่ที่ปล่อยลูกให้มีอิสระ จะทำให้ลูกอารมณ์ดีขึ้นเพราะความต้องการของเขาได้รับการเติมเต็ม ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวก็ดีขึ้นเช่นกัน ปริมาณความผูกพันทางอารมณ์เพิ่มขึ้น และการให้ทางเลือกลูกโดยไม่จำกัดขอบเขต ดูจะเป็นวิธีรับมือที่ดีในสภาวะตึงเครียดเช่นนี้
- แนวทางการเลี้ยงลูกที่จะทำให้พวกเขามีอิสระ เช่น ปล่อยให้ลูกทำผิดบ้าง ขณะที่ลูกกำลังเล่นต่อบล็อกไม้ ผู้ปกครองลองปล่อยให้เขาวางแผนทำด้วยตัวเอง พักการให้คำแนะนำ เช่นว่าต้องทำฐานให้แข็งแรงเพื่อป้องกันไม่ให้บล็อกไม้ถล่ม หรือไม่ต้องเตือนลูกบ่อยให้ทำการบ้าน
- สิ่งที่ผู้ปกครองหลายคนเป็นกันโดยอัตโนมัติ คือ พยายามแก้ไขปัญหาของลูกทันที ลองเชื่อมั่นในตัวเขา ปล่อยให้ลูกได้หาทางออกเอง โดยผู้ปกครองอาจอยู่ในฐานะผู้รับฟังว่าปัญหาลูกคืออะไร ถามเขาว่าเขาจะแก้ไขยังไง หรือปัญหาทะเลาะระหว่างพี่น้อง ปล่อยให้พวกเขาจัดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองไม่เป็นจำเป็นต้องเข้าไปช่วยแก้
ผ่านมา 1 ปี 7 เดือน กับการระบาดของโควิด-19 ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของเราไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะการเลี้ยงลูกที่จากเดิมก็ถือเป็นหนึ่งงานหิน แต่การเลี้ยงลูกในช่วงภาวะโรคระบาดยิ่งเพิ่มความยากไปอีกหลายเลเวล ไหนจะต้องดูแลลูกให้มีพัฒนาการตรงตามวัย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีหลากหลายทฤษฎีออกมา ข้อควรระวังต่างๆ ที่ทำให้การเลี้ยงลูกยากขึ้น รวมถึงสุขภาพจิตใจที่ต้องเยียวยาทั้งของลูกและผู้ปกครอง
Cara Goodwin นักจิตวิทยาครอบครัว ได้เขียนบทความแนะนำแนวทางการเลี้ยงลูกในช่วงโควิด-19 โดยหยิบยกงานวิจัยที่ทำการสำรวจแนวทางการเลี้ยงลูกของผู้ปกครองในเด็กวัยเรียนชาวเยอรมัน จำนวน 496 คน อายุตั้งแต่ 6 ถึง 19 ปี ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2020
‘ให้อิสระลูกมากขึ้น’ ปล่อยให้เด็กๆ มีเสรีภาพในการเลือกตัดสินใจด้วยตัวเอง เคล็ดลับการเลี้ยงลูกที่จะทำให้ทั้งตัวเด็กและผู้ใหญ่มีความสุข งานวิจัยพบว่า พ่อแม่ที่ปล่อยลูกให้มีอิสระ จะทำให้ลูกอารมณ์ดีขึ้นเพราะความต้องการของเขาได้รับการเติมเต็ม ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวก็ดีขึ้นเช่นกัน ปริมาณความผูกพันทางอารมณ์เพิ่มขึ้น งานวิจัยพบอีกว่า การให้ทางเลือกลูกโดยไม่จำกัดขอบเขต ดูจะเป็นวิธีรับมือที่ดีในสภาวะตึงเครียดเช่นนี้
เพราะความกดดันที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครอง ไม่ว่าจะต้องคอยตอบสนองลูก สร้างการมีส่วนร่วม และรับมือกับอารมณ์อ่อนไหวของลูกที่เกิดขึ้น จากการศึกษาพบว่า การที่ผู้ปกครองรู้จักปล่อยวางบ้าง ไม่ต้องพยายามรับมือจัดการด้วยตัวเองทุกอย่าง เพราะการให้ลูกมีอิสระในการเลือก ตัดสินใจ มีแนวโน้มว่าจะส่งผลดีกับทั้งตัวผู้ปกครองและเด็กในช่วงเวลาตึงเครียดเช่นนี้
Goodwin แชร์แนวทางการเลี้ยงลูกที่จะทำให้พวกเขามีอิสระ ซึ่งไม่เพียงใช้ได้แค่ในช่วงเวลานี้ แต่ผู้ปกครองสามารถใช้แนวทางนี้ไปได้ตลอดเช่นกัน
1. ให้ทางเลือกลูกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจเริ่มด้วยการกระทำพื้นฐานสุด อย่างให้ลูกตัดสินใจเองว่าจะใส่ชุดอะไร กินอาหารอะไร หรือเล่นของเล่นชิ้นไหน
2. ปล่อยให้ลูกทำผิดบ้าง ขณะที่ลูกกำลังเล่นต่อบล็อกไม้ ผู้ปกครองลองปล่อยให้เขาวางแผนทำด้วยตัวเอง พักการให้คำแนะนำ เช่นว่าต้องทำฐานให้แข็งแรงเพื่อป้องกันไม่ให้บล็อกไม้ถล่ม หรือไม่ต้องเตือนลูกบ่อยให้ทำการบ้าน
ลองชวนลูกคุยว่าการเรียนรู้จากความผิดพลาดสำคัญอย่างไร Goodwin แชร์ว่า เธอมักเล่าเรื่องความผิดพลาดของตัวเองให้ลูกฟังบ่อยๆ และวิธีที่เธอเรียนรู้จากความผิดพลาด
3. ให้ลูกเรียนรู้ผลที่ตามมาจากสิ่งที่เขาเลือก เช่น ถ้าอากาศหนาวแต่ไม่ยอมใส่เสื้อกันหนาว ผลที่ตามมา คือ ต้องเผชิญกับอากาศเย็นๆ หรือถ้าไม่ยอมจัดห้อง ปล่อยให้ห้องรก ก็จะหาของเล่นยากลำบาก
4. พยายามหลีกเลี่ยงการแก้ไขอารมณ์ลบที่เกิดกับลูก ให้โอกาสลูกได้สัมผัสอารมณ์ที่เกิดขึ้นก่อน จากนั้นผู้ปกครองค่อยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาเมื่อลูกสงบลง
5. ระหว่างที่ลูกเล่น ผู้ปกครองควรหลีกเลี่ยงการสอน การแก้ไขความถูกต้อง หรือถามลูกบ่อยๆ ด้วยคำถามที่ไม่จำเป็น รวมถึงอย่าพยายามเปลี่ยนความสนใจของลูก สร้างความมั่นใจให้ลูกเมื่อการเล่นพวกเขาไม่เป็นไปตามแผน
6. อย่าแก้ไขปัญหาให้ลูกเอง เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองหลายคนเป็นกันโดยอัตโนมัติ พยายามแก้ไขปัญหาของลูกทันที เชื่อมั่นในตัวเขา ปล่อยให้ลูกได้หาทางออกเอง โดยผู้ปกครองอาจอยู่ในฐานะผู้รับฟังว่าปัญหาลูกคืออะไร ถามเขาว่าเขาจะแก้ไขยังไง หรือปัญหาทะเลาะระหว่างพี่น้อง ปล่อยให้พวกเขาจัดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองไม่เป็นจำเป็นต้องเข้าไปช่วยแก้
นี่อาจเป็นเพียงหนึ่งคำแนะนำ เพราะแต่ละบ้านมีแนวทางเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันตามบริบทครอบครัว สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความสุขของคนในครอบครัว แต่โปรดอย่าลืมว่าพ่อแม่ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ทำผิดพลาดได้ ไม่จำเป็นต้องสวมบทฮีโร่ตลอดเวลา ทำพลาดบ้าง ปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปโดยที่เราไม่ต้องพยายามไปกำหนดกะเกณฑ์ เพราะเราไม่รู้ว่าสภาวะนี้จะจบลงเมื่อไหร่ การรักษาจิตใจของเราไม่ให้บอบช้ำไปมากกว่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
อ้างอิง