Skip to content
ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)
  • Creative Learning
    Creative learningLife Long LearningUnique SchoolEveryone can be an EducatorUnique Teacher
  • Family
    Early childhoodHow to get along with teenagerอ่านความรู้จากบ้านอื่นFamily PsychologyDear Parents
  • Knowledge
    Character building21st Century skillsEducation trendLearning TheoryGrowth & Fixed MindsetGritEF (executive function)Adolescent BrainTransformative learning
  • Life
    Life classroomHealing the traumaRelationshipHow to enjoy lifeMyth/Life/Crisis
  • Voice of New Gen
  • Playground
    BookMovieSpace
  • Social Issues
    Social Issues
  • Podcasts
ปฐมวัยวัยรุ่นeco literacyการศึกษากลุ่มประเทศนอร์ดิกเทคนิคการสอนแบบแผนทางความสัมพันธ์ปม(trauma)Adolescent Brainโฮมสคูลมายาคติการเป็นแม่ชีวิตการทำงานความรู้สึกส่วนหนึ่งของการเรียนรู้การฟังและตั้งคำถามพัฒนาการgeneration gappublic spaceการสื่อสารอย่างสันติ(Nonviolent Communication)ไวรัสโคโรนา(โควิด-19)
อ่านความรู้จากบ้านอื่น
12 June 2020

บันทึกนักการเงินพ่อลูกอ่อน (1): ความไม่ง่ายของการตัดสินใจเป็นพ่อ

เรื่อง รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • การเป็นพ่อคือความรับผิดชอบหนักอึ้งในการชุบเลี้ยงสิ่งมีชีวิตตัวน้อยให้เติบใหญ่ ที่สำคัญตำแหน่งนี้ไม่มีโอกาสให้เซ็นใบลาออก ชีวิตเปลี่ยนตลอดไม่อาจถอยหลังกลับ เป็นความผูกพันระยะยาวที่ต้องใช้ทรัพยากรทั้งทุน เวลา และอารมณ์ การตัดสินใจเปลี่ยนสถานะจากบุคคลธรรมดาเป็นพ่อของอีกหนึ่งคนจึงไม่ใช่เรื่องง่าย
  • เราอาจคิดว่าการมีลูกนั้นแสนง่ายเหมือนกับที่สื่อมวลชนกระแสหลักประโคมข่าววัยรุ่นท้องก่อนวัยอันควรเพราะมีเซ็กซ์โดยไม่ป้องกันคืนวันวาเลนไทน์ เมื่อประสบกับตนเอง ผมพบว่าการมีลูกยากกว่าที่คิดและจำเป็นต้องอาศัยวิทยาศาสตร์เข้าช่วยเพื่อคาดการณ์วันไข่ตก (Ovulation) ซึ่งเป็นช่วงสองสามวันในแต่ละเดือนที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุด
  • ชวนอ่านการตัดสินใจมีลูกของคนรุ่นใหม่ที่มีเรื่องต้องคำนึงมากมาย การวางแผนรองรับการมีลูกหลายเรื่อง เช่น การคำนวนเงินออมสำหรับการศึกษาบุตรในอนาคต

ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นพ่อคนในช่วงอายุที่ยังไม่แตะเลขสาม

ไม่ใช่สิ ผมอาจไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้มีสถานะเป็นพ่อ เพราะตั้งแต่สมัยปริญญาตรี ผมมักเป็นเป้ากึ่งแซวกึ่งกระแนะกระแหนว่าอยากเห็นหน้าแฟนในอนาคตจัง อาจเป็นเพราะการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่ไม่ค่อยขนบกับเด็กคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีสักเท่าไหร่ แถมยังไม่มีท่าทีสนใจจะคบหาใครเพราะหมดเวลาไปกับกิจกรรมและการเรียน

พวกมันคงช็อกไม่น้อยที่ผมกลับแต่งงานและมีเจ้าตัวเล็กเป็นคนแรกๆ ของรุ่น (ฮ่าฮ่า!)

คำถามหนึ่งที่เพื่อนหลายคนถามมาหลังไมค์เมื่อได้ข่าวว่าภรรยาผมตั้งท้องคือคิดยังไงถึงอยากมีลูก?

เพื่อนผมหลายคนเขียนสาธยายยาวเหยียดบนโซเชียลมีเดียว่าด้วยเหตุผลที่ไม่อยากมีลูก เขาและเธอมองอนาคตของโลกใบนี้ไม่ค่อยสดใสนัก ทั้งการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ เศรษฐกิจที่ลุ่มๆ ดอนๆ อาชญากรที่มีอยู่เต็มเมือง วิกฤติสิ่งแวดล้อมที่ดูจะไร้ทางออก ตอกย้ำด้วยโรคระบาดที่ไม่รู้จะควบคุมได้เมื่อไหร่ และอีกสารพัดความเลวร้ายที่ทำให้ดูเป็นการใจร้ายอย่างยิ่งที่คนสองคนจะปลงใจให้กำเนิดลูกน้อยในภาวะที่ดูสิ้นหวัง

ผมอ่านข้อความเหล่านั้นแล้วยักไหล่ เพราะหากพิจารณาตัวชี้วัดระดับมหภาค คุณภาพชีวิตของประชากรในปัจจุบันดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหากเทียบกับในอดีต ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนครัวเรือนที่เข้าถึงน้ำประปาและไฟฟ้า คุณภาพบริการด้านสุขภาพ อายุขัยเฉลี่ย จำนวนปีที่เด็กได้เข้าศึกษา อัตราการอ่านออกเขียนได้ เปอร์เซ็นต์ของเด็กแรกเกิดที่เสียชีวิต และอีกสารพัดตัวชี้วัดที่บอกกับเราว่าชีวิตในวันนี้ดีกว่าในอดีตหลายเท่านัก 

เพื่อให้พอเห็นภาพ ผมขอหยิบตัวเลขจีดีพีต่อหัว (GDP per capita) มาเปรียบเทียบแบบกำปั้นทุบดิน โดยพ.ศ. 2534 ปีที่ผมเกิดซึ่งก็คือปีที่คุณพ่อแม่ตัดสินใจมีลูก จีดีพีต่อหัวอยู่ที่ราว 4,290 บาทต่อคนต่อเดือน (1,716 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี) ขณะที่ พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นปีที่ผมตัดสินใจว่าจะมีลูกอยู่ที่ราว 19,480 บาทต่อคนต่อเดือน (7,792 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี) จะเห็นว่ารายได้ในปัจจุบันสูงกว่าในอดีตถึง 5 เท่า (หรือราว 2 เท่าหากปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อ)

สิ่งเดียวที่น่ากังวลคือปัญหาวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่แม้จะดูไร้ความหวัง แต่เราก็เห็นถึงความพยายามของคนจำนวนมากในการบรรเทาวิกฤติดังกล่าว อีกอย่าง ชีวิตจะไปสนุกอะไรถ้ามันดำเนินไปอย่างราบเรียบไร้ความท้าทาย?

แต่การตัดสินใจเป็นพ่อคงไม่ได้ใช้เพียงแค่สมอง เพราะอีกองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้คือการไตร่ตรองโดยใช้หัวใจซึ่งนับว่ายากกว่าหลายเท่าตัว

ใครบ้างจะไม่กังวลกับการรับบทบาทหน้าที่ใหม่ ความรับผิดชอบหนักอึ้งในการชุบเลี้ยงสิ่งมีชีวิตตัวน้อยให้เติบใหญ่ ที่สำคัญตำแหน่งนี้ไม่มีโอกาสให้เซ็นใบลาออก ตัดสินใจแล้วชีวิตเปลี่ยนตลอดไม่อาจถอยหลังกลับ ผมใช้เวลาทบทวนคำถามนี้ลึกๆ ว่าทำไมตัวเองถึงอยากมีลูก

ต้องการหาคนสืบสายสกุล? อันนี้ไม่เคยอยู่ในหัวสมอง

ต้องการมีคนดูแลตอนแก่ชรา? เรื่องนี้วางแผนไว้แล้วในบัญชีเงินออมและลงทุน

สุดท้ายผมก็ได้คำตอบที่ค่อนข้างโรแมนติก (หากอิงจากค่อนชีวิตที่อยู่กับตัวเลขและงานวิชาการ) นั่นคือผมอยากสัมผัสกับความรักที่ไม่มีเงื่อนไขแบบที่เรามีสถานะผู้ให้มากกว่าผู้รับ ที่สำคัญครอบครัวของผมและภรรยาต่างก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่หากเราตัดสินใจจะมีสมาชิกตัวน้อย องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ผมคลายความกังวลและตัดสินใจได้ไม่ยากนัก

ผ่านจากสมอง หัวใจ มาจบที่กระเป๋าสตางค์ เพราะเงินเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญไม่น้อยไปกว่าเวลาและความรัก

ค่าใช้จ่ายก้อนแรกจะเริ่มตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ทั้งมีค่าฝากครรภ์ไปจนถึงทำคลอด หากเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็ค่อนแสน หลังคลอดก็เป็นช่วงที่จำเป็นต้องใช้เงินอีกก้อน ทั้งเฟอร์นิเจอร์สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเจ้าตัวเล็ก คาร์ซีทเพื่อความปลอดภัย เสื้อผ้า ของใช้ของเล่น และอีกจิปาถะที่ซื้อนู่นนิดนี่หน่อยก็อาจทำให้เงินหลายหมื่นบาทหายวับไปในพริบตา

แถมแต่ละเดือนยังมีค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองทั้งผ้าอ้อมและอาหารการกิน แม้เราตั้งมั่นว่าจะใช้ผ้าอ้อมแบบซักได้และให้กินนมแม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องกันเงินเตรียมไว้แต่ละเดือนอย่างน้อยสามพันบาท

โชคดีที่ผมกับภรรยาเก็บหอมรอมริบไว้พอสมควร ผนวกกับเงินก้นถุงค่าสินสอดที่ทั้งสองบ้านยกให้ใช้ตั้งตัว เราจึงมั่นใจว่ามีทรัพยากรเพียงพอที่จะดูแลสมาชิกใหม่ในช่วงแรกเริ่ม แต่ที่น่ากังวลคือค่าเล่าเรียนในอนาคต เพราะต่อให้ไม่ได้ส่งไปโรงเรียนสามภาษาค่าเทอมหลักแสน เราก็อยากปูทางไว้หากสักวันหนึ่งที่ลูกต้องการไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ทุนทรัพย์จะได้ไม่กลายเป็นข้อจำกัดสำหรับความฝันของเจ้าตัวเล็ก

ผมคำนวณคร่าวๆ ว่าจะใช้เวลา 15 ปีในการเก็บหอมรอมริบเงินก้อนหนึ่งไว้เป็นทุนการศึกษาโดยตั้งเป้าว่าจะเก็บให้ได้ราวสองล้านบาท แน่นอนว่าผมคงไม่อยากให้อนาคตของลูกไปผูกติดกับความผันผวนของราคาหุ้น เงินลงทุนจึงต้องอยู่ในสินทรัพย์ความเสี่ยงไม่สูงมากแต่ผลตอบแทนต้องสมน้ำสมเนื้อ

ตัวเลือกอันดับหนึ่งคือบัญชีฝากประจำปลอดภาษีซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแทบทุกธนาคาร โดดเด่นโดยการหักเงินจากบัญชีแบบอัตโนมัติในแต่ละเดือนโดยได้ผลตอบแทนรวมกับโบนัสหากฝากครบตามเกณฑ์ราว 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เมื่อครบกำหนดแล้วค่อยถอนมาลงในกองทุนรวมที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ทางเลือกที่ความเสี่ยงต่ำและได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกัน สำหรับกลยุทธ์นี้ผมกดตัวเลขกลมๆ เท่ากับการเก็บออม 10,000 บาทต่อเดือนที่หากทำได้ต่อเนื่องตามแผนก็จะมีเงินก้อนรวม 2.1 ล้านบาทในปีที่ 15

ตัวเลขดังกล่าวนับว่าไม่เยอะมากมายนัก เพราะหากหารสองระหว่างผมและภรรยาก็จะตกคนละ 5,000 บาทต่อเดือน เรื่องเงินๆ ทองๆ ในระยะสั้น ระยะกลาง และระยาวจึงนับว่าเบาใจได้

หลังจากตัดสินใจร่วมกันว่าพร้อมที่จะมีลูก แต่เรากลับต้องเจออุปสรรคที่ไม่คาดฝัน ผมเคยเข้าใจว่าการมีลูกนั้นง่ายแสนง่าย เหมือนกับข่าวที่สื่อมวลชนกระแสหลักประโคมข่าววัยรุ่นท้องก่อนวัยอันควรเพราะมีเซ็กซ์โดยไม่ป้องกันคืนวันวาเลนไทน์ แต่เมื่อต้องพยายามด้วยตัวเอง ผมก็เพิ่งทราบว่าการมีลูกยากกว่าที่คิดและจำเป็นต้องอาศัยวิทยาศาสตร์เข้าช่วย

อย่างแรกคือวิตามินที่ผมและภรรยารับประทานเพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าตัวเล็กจะแข็งแรง อย่างที่สองคือแอปพลิเคชันเพื่อคาดการณ์วันไข่ตก (Ovulation) ซึ่งเป็นช่วงสองสามวันในแต่ละเดือนที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุด โดยภาระหนักจะตกอยู่ที่ภรรยาของผมที่ต้องคอยใส่ข้อมูลทั้งอารมณ์ อุณหภูมิหลังตื่นนอน วงจรประจำเดือน อาการปวดเกร็งต่างๆ เพื่อให้อัลกอริธึมประเมินว่าการมีเซ็กซ์วันไหนจะมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูงสุด

ผ่านไปร่วมค่อนปีก็ยังไม่มีวี่แวว เราเริ่มท้อใจและคิดว่าจะไปปรึกษากับคุณหมอแผนกผู้มีบุตรยาก ซึ่งคุณหมอท่านก็แนะนำว่าให้ลองพยายามวิธีธรรมชาติให้ครบหนึ่งปีเสียก่อนค่อยมาคุยกัน แต่ในใจผมภาวนาลึกๆ ว่าอยากให้เป็นไปตามธรรมชาติ ทำไมน่ะหรอครับ? ก็เพราะกระบวนการทำกิ๊ฟ (Gamete Intra – Fallopian Transfer: GIFT) หรือ IVF (In Vitro Fertilization) ใช้ทุนทรัพย์ร่วมแสนแถมยังไม่การันตีว่าจะประสบผลสำเร็จเสียอีก

เราตั้งดีเดย์ไว้วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ว่าจะยกธงขาวและนัดพบคุณหมอ ก่อนหน้านั้นผมและภรรยาหยุดยาวช่วงสงกรานต์ เราใช้โอกาสนั้นไปเที่ยวตุรกี ตากแดดร้อนเปรี้ยงตะลุยเมืองโบราณเอฟิซุส (Ephesus) เมืองหลวงแห่งโลกตะวันออกของอาณาจักรโรมัน นั่งรถสมบุกสมบันชมหมู่หินหน้าตาแปลกประหลาดที่คัปปาโดเกีย (Cappadocia) แล้วมาชิมช็อปที่อิสตันบูล เราหอบของฝากพะรุงพะรังและร่างกายเหนื่อยอ่อนกลับกรุงเทพฯ

ไม่นานหลังจากถึงบ้าน ภรรยาของผมก็รู้สึกไม่สบายตัวซึ่งผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นผลมาจากการท่องเที่ยวที่สมบุกสมบัน แต่หลังจากใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์ ในที่สุดเราก็ได้เห็นเส้นสีแดงลางๆ ที่เราเฝ้ารอมานาน มันเป็นสัญญาณว่าเราประสบความสำเร็จแบบไม่ต้องเสียสตางค์

เราไปตรวจอีกครั้งที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อความมั่นใจ ผลการอัลตร้าซาวด์เห็นจุดจิ๋วๆ ที่คุณหมอบอกว่านี่แหละคือลูกน้อยอายุสี่สัปดาห์ มันเป็นช่วงเวลาที่หลากอารมณ์ทั้งดีใจ เครียด ตื่นเต้น กังวล และอีกสารพัดถูกปั่นรวมกันในหน้าอก ผมรู้สึกตัวจากภวังค์อีกทีเมื่อคุณพยาบาลเรียกให้เราไปรับบัตรนัด นั่นเป็นครั้งแรกที่คนอื่นเรียกผมว่า ‘คุณพ่อ’

Tags:

พ่อบันทึกนักการเงินพ่อลูกอ่อน

Author:

illustrator

รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์

คุณพ่อลูกอ่อน นักการเงินทาสหมา ที่ใช้เวลาว่างหลังลูกนอน (ซึ่งไม่ค่อยจะมี) ในการอ่าน เขียน และเรียนคอร์สออนไลน์

Illustrator:

illustrator

ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

นักวาดภาพที่ใช้ชื่อเล่นว่า ววววิน facebook, ig : wawawawin

Related Posts

  • อ่านความรู้จากบ้านอื่น
    บันทึกนักการเงินพ่อลูกอ่อน(6): เล่นให้เป็นเรื่อง ฉบับแรกเกิดถึงหกเดือน

    เรื่อง รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • Life classroomอ่านความรู้จากบ้านอื่น
    บันทึกนักการเงินพ่อลูกอ่อน (4): หน้าที่ของพ่อคือเปิดโอกาสให้แม่ไม่ต้องเป็นแม่

    เรื่อง รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • อ่านความรู้จากบ้านอื่น
    บันทึกนักการเงินพ่อลูกอ่อน (3): โกลาหลหลังคลอด และต้องลุ้นว่าน้ำนมจะมารึเปล่า

    เรื่อง รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • อ่านความรู้จากบ้านอื่นBook
    บันทึกนักการเงินพ่อลูกอ่อน (2): ตามหาสูตรสำเร็จในการเลี้ยงลูก

    เรื่อง รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์ ภาพ ณัฐวัตร์ สุพรรณกูล

  • อ่านความรู้จากบ้านอื่น
    เกรียงไกร นิตรานนท์: คุณพ่อผู้ลาออกจากงานเพื่อเป็น FULL TIME DADDY

    เรื่อง ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะรชนีกร ศรีฟ้าวัฒนา

  • Voice of New Gen
  • Knowledge
  • Playground
  • Social Issues
  • Podcasts
  • Creative Learning
  • Life
  • Family

HOME

มูลนิธิสยามกัมมาจล

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

เลขที่ 19 เเขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

Cleantalk Pixel