- พ่อแม่มักถูกคาดหวังให้เป็น ‘ยอดมนุษย์’ ต้องเลี้ยงลูกออกมาให้เป็นเด็กที่เก่งและดีกว่าคนอื่น อย่าให้เขาได้ประสบกับความลำบากที่ตัวเองได้เคยพบเจอ แต่ทุกคนกลับละเลยความจริงที่ว่า ‘ลูกของเราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป’
- จะเป็นอย่างไรหากอนาคตของลูกเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เมื่อเขาเผชิญกับโรคร้ายแรงที่อาจทำให้ชีวิตสั้นลง คำตอบอาจอยู่ในแนวคิดของ ‘Dragon Parents’ ที่ช่วยให้พ่อแม่เข้าใจและผ่านพ้นเรื่องเหล่านี้ไปได้
- แนวคิด Dragon Parents ทำให้เราฉุกคิดได้ว่า บางครั้งพ่อแม่ก็คิดถึงภาพในอนาคตมากเกินไป จนละเลยความสำคัญในปัจจุบัน จริงอยู่ที่พ่อแม่ควรเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้กับลูก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรละเลยการสร้างความทรงจำที่ดีในปัจจุบัน
เมื่อพูดถึงการดูแลเด็กแล้ว หลายคนย่อมนึกถึงการวางแผนเพื่อมอบอนาคตที่สดใสให้กับเขา พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจินตนาการถึงอนาคตในวันที่ลูกของตนเติบโตขึ้นว่าจะเป็นอย่างไร เช่น เขาจะเรียนอะไร มีเพื่อนแบบไหน จะทำงานอะไร
แต่จะเป็นอย่างไรหากอนาคตของลูกเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เมื่อเขาเผชิญกับโรคร้ายแรงที่อาจทำให้ชีวิตสั้นลง คำตอบอาจอยู่ในแนวคิดของ ‘Dragon Parents’ ที่ช่วยให้พ่อแม่เข้าใจและผ่านพ้นเรื่องเหล่านี้ไปได้
คำว่า Dragon Parents เกิดขึ้นโดย Emily Rapp ศาสตราจารย์ด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่ Santa Fe University of Art and Design จากเรื่องราวชีวิตของตน ในเวลานั้น Emily เป็นแม่ที่มีลูกชายคนแรกชื่อ Ronan
ขณะที่ Ronan อายุ 9 เดือน เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Tay-Sachs ซึ่งเป็นโรคพันธุกรรมหายาก โดยมีโอกาสเกิดในทารกเพียง 1 ใน 5 ล้าน โรคนี้ทำให้ลำไส้ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างปกติ ส่งผลร้ายแรงต่อพัฒนาการของร่างกาย
Emily ทราบดีว่าแต่ละวันที่ผ่านไป ลูกของตนมีแต่จะยิ่งเข้าสู่ภาวะเจ้าชายนิทรา โรคนี้ไม่มีทางรักษาและเขาเองก็คงไม่มีโอกาสได้ฉลองวันเกิดครบ 4 ขวบ
เธอกล่าวว่า “พ่อแม่ทุกคนต่างต้องการให้ลูกของตนประสบความสำเร็จและเป็นคนสำคัญ พวกเราพาลูกไปสมัครเรียนดนตรี หรือพาไปเรียนว่ายน้ำด้วยกัน เพราะหวังว่าเขาจะแสดงความสามารถอันน่าทึ่งออกมา ซึ่งจะทำให้เขาโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ และโดดเด่นกว่าพวกเราเองในฐานะพ่อแม่ที่มีความภูมิใจอยู่เต็มอก”
อนาคตเหล่านั้นไม่มีอีกแล้ว
การเลี้ยงลูกโดยทั่วไปมักฉายภาพถึงอนาคตที่ลูกประสบความสำเร็จและมีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเส้นทางที่นำสู่อนาคตเหล่านั้นอยู่ในแนวคิดของ ‘Tiger Parents’ การเลี้ยงลูกที่พ่อแม่เข้มงวดดุจ ‘เสือ’ เพื่อเคี่ยวเข็ญศักยภาพของเขาออกมาให้ยอดเยี่ยมในทุกด้าน
พ่อแม่ในลักษณะนี้มุ่งไปที่เป้าหมายเพื่ออนาคต การเรียนหนัก ทำงานหนัก ก็เพื่อความสำเร็จของลูกเองในภายภาคหน้า
Emily ก็เคยเป็นพ่อแม่เช่นนั้น พ่อแม่ที่มองหาเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับลูก ตอนที่เธอตั้งครรภ์ เธอลิสต์กิจกรรมมากมายที่จะให้ลูกทำเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ แต่ในตอนนี้ Ronan คงไม่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมเหล่านั้น และตัวเธอเองก็คงจะเป็นพ่อแม่แบบนั้นไม่ได้แล้ว
“ไม่ว่าเราจะทำอะไรเพื่อ Ronan…เขาก็จะต้องตาย”
พ่อแม่มักถูกคาดหวังให้เป็น ‘ยอดมนุษย์’ ต้องเลี้ยงลูกออกมาให้เป็นเด็กที่เก่งและดีกว่าคนอื่น อย่าให้เขาได้ประสบกับความลำบากที่ตัวเองได้เคยพบเจอ แต่ทุกคนกลับละเลยความจริงที่ว่า ‘ลูกของเราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป’
การกล่าวว่า ‘ลูกของเราจะต้องตาย’ อาจดูหดหู่และสิ้นหวัง แต่นั่นก็เป็นสัจธรรมมิใช่หรือ ทุกสิ่งย่อมเดินไปสู่ความเสื่อม ไม่ว่าพ่อแม่จะเลี้ยงลูกอย่างไร ลูกจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่สักวันหนึ่งลูกของเราก็ต้องตาย ไม่เว้นแม้แต่ตัวพ่อแม่ ดังนั้นเราทุกคนจึงอยู่ในสภาวะที่ไม่ต่างกัน
Emily ตัดสินใจละทิ้งอนาคตเหล่านั้น ละทิ้งจินตนาการที่จะได้เห็น Ronan ทำคะแนนสอบดีๆ และถือใบปริญญาจากฮาร์วาร์ด เธอจะไม่รอให้ Ronan ทำให้เธอภูมิใจ เธอจะไม่คาดหวังผลตอบแทนในอนาคตจากการลงทุนของเธอ
สิ่งที่เธอทำได้คือ อยู่กับ ‘ปัจจุบันขณะ’ ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรเธอก็จะรัก บอกรักโดยไม่สนใจว่าเขาจะได้ยินหรือไม่
“เราจะไม่ส่งลูกของเราไปสู่อนาคตที่สดใส แต่เราจะได้เห็นเขาในหลุมศพตั้งแต่วัยเยาว์ เราจะเตรียมตัวที่จะสูญเสียเขาไป และหลังจากนั้นอาจเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปหลังจากการสูญเสีย สิ่งนี้ต้องการความดุร้ายแบบใหม่ วิธีคิดแบบใหม่ สัตว์ชนิดใหม่ เราเป็นพ่อแม่มังกร ดุร้าย ซื่อสัตย์ และรักอย่างสุดหัวใจ”
เธอกล่าวว่า ‘มังกร’ หรือ ‘Dragon’ ในภาษาอังกฤษมาจากภาษากรีกที่แปลว่า ‘การมองเห็นอย่างชัดแจ้ง’ เธอเข้าใจแล้วว่าการอยู่กับปัจจุบันและการสร้างความทรงจำอันมีค่าร่วมกันสำคัญที่สุด
เธอรู้ดีว่าสถานการณ์เช่นนี้ย่อมโศกเศร้า เธอรู้สึกผิดที่ทำอะไรเพื่อแก้ไขโรคนี้ไม่ได้เลย แต่เมื่อความรู้สึกผิดนี้เข้ามา เธอก็จะรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เสียเวลาไปสูญเปล่า ดังนั้นเธอจึงควรยินดีที่ลูกยังมีชีวิตอยู่ และจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง
เมื่อมองย้อนกลับไปที่เรื่องราวของ Emily และแนวคิด Dragon Parents ทำให้เราฉุกคิดได้ว่า บางครั้งพ่อแม่ก็คิดถึงภาพในอนาคตมากเกินไป จนละเลยความสำคัญในปัจจุบัน
จริงอยู่ที่พ่อแม่ควรเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้กับลูก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรละเลยการสร้างความทรงจำที่ดีในปัจจุบัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดอาจไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังจากลูกในอนาคต แต่คือความสุขและความรักในทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน
อ้างอิง
Emily Rapp. (2011). Notes From a Dragon Mom.
Sarah Manguso. (2013). Requiem.
Stephen Murphy-Shigematsu. (2014). Learning Mindful Parenting From Dragon Moms.
Yuko Munakata. (2019). Why Most Parenting Advice is Wrong | Yuko Munakata | TEDxCU.